Saturday, May 18, 2024

ฟรีน สโรชา กับวันเวลา ความฝัน และเป้าหมายแห่งอนาคต

ต้อนรับปี 2024 พร้อมกับนักแสดงสาว ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ ในเซ็ตแฟชั่นสดใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นสไตล์มินิมัลและงานสถาปัตย์สุดโมเดิร์น นำเสนอผ่านลุคแฟชั่นเฉียบคมแบบงานศิลป์ จับคู่กับนาฬิกาดีไซน์โมเดิร์นเรียบหรูจาก HUBLOT สะท้อนตัวตนสาวยุคใหม่ในแบบร่วมสมัย

ชื่อของฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ เป็นที่จับตาแบบสุดๆ จากผลงานเรื่อง ‘ทฤษฎีสีชมพู GAP The Series’ นับเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ซีรีส์เกิร์ลเลิฟจะแหวกกระแสและได้รับความสนใจจากผู้คนในวงกว้าง แถมยังสร้างปรากฏการณ์ให้ #ฟรีนเบคกี้ สองนักแสดงนำเป็นขวัญใจของแฟนๆ ทั้งไทยและเทศเพิ่มฐานแฟนคลับขึ้นเรื่อยๆ 

การเป็นนักแสดงอาจจะไม่ใช่ความฝันของฟรีนตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อได้ก้าวเข้ามาลองทำดู นี่คืออาชีพ ที่เธอรู้สึกได้ว่ามีความท้าทายและนับวันก็ยิ่งน่าค้นหา แน่นอนว่ากว่าจะเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง นักแสดงสาววัย 25 คนนี้ได้ค่อยๆ ก้าวเดินมาบนเส้นทางนี้อย่างมุ่งมั่นและพร้อมไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับบททดสอบมากมายที่เข้ามาให้ได้พิสูจน์ความสามารถ

“คิดว่าจุดเด่นของตัวเองน่าจะเป็นเรื่องความไม่ยอมแพ้มั้งคะ” ฟรีนให้สัมภาษณ์หลังจากการถ่ายภาพแฟชั่นตลอดทั้งวัน “ตั้งแต่รู้จักตัวเอง ฟรีนพร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าตลอด เป็นคนที่ใช้คำว่า ‘ช่างมัน’ ‘ไม่เป็นไร’ ค่อนข้างเยอะ คิดว่าคนรอบข้างและแฟนคลับน่าจะรับรู้ถึงความสู้ และความไม่ยอมแพ้ของเราได้นะ” 

ถ้าย้อนนึกถึงตัวเองสมัยเด็กๆ ความทรงจำแรกที่นึกออกคืออะไร

“น่าจะเป็นภาพตัวเองกำลังเล่นทรายกับน้องที่บ้านคุณแม่ในต่างจังหวัด มีความสุขกับการปีนกองทรายที่คุณตาทำไว้ ตอนนั้นน่าจะช่วงอนุบาล เราเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาน้องๆ ที่เป็นผู้ชาย ไม่รู้จะเล่นอะไรก็เลยไปเล่นกับเขา จำไม่ได้ว่าเป็นเด็กซนไหม แต่อาจจะมีบ้างเพราะรอยแผลเยอะมาก”

ปกติเป็นคนชอบคิดถึงความหลังหรืออนาคตไหม

“ฟรีนไม่ค่อยนึกถึงเลยทั้งสองอย่าง แปลกไหมคะ ส่วนใหญ่จะอยู่กับปัจจุบันค่ะ เพราะคิดถึงอดีตไปก็ไม่ได้อะไรกลับมา อนาคตก็ไม่แน่นอน เลยอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันที่เราต้องเจอดีกว่า วันนี้เราเจออะไรบ้าง หมดวันแล้วรู้สึกยังไง เราทำเต็มที่ไหม และมีความสุขกับมันหรือเปล่า ถ้าเราเต็มที่และมีความสุข ถึงจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้วก็ไม่เป็นไร หรือนึกถึงความหลังก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ปล่อยให้เป็นบทเรียนชีวิตดีกว่า”

ถ้า ณ เวลานี้ พอใจกับปัจจุบันขนาดไหน

“จริงๆ ฟรีนพอใจกับทุกวันนะคะ รู้สึกว่าทุกวันเป็นการ celebrate ความสุขที่มี แม้ว่าบางความสุขจะเล็กน้อยมากๆ แต่มันยิ่งใหญ่ในสายตาของเรา”

มีเหตุการณ์ไหนในชีวิตที่ทำให้รู้สึกว่าเวลามีความสำคัญ

“น่าจะเป็นช่วงเวลาที่โอกาสเข้ามามากกว่าค่ะ โอกาสที่เข้ามาในช่วงเวลาสำคัญ แล้วฟรีนไม่ทิ้งโอกาสนั้น ถ้าเข้ามาแล้วจะคว้าไว้หมดเลย เพราะคือเวลาของเราที่จะลอง ถ้าเราเชื่อว่าทำได้ มันก็เป็นไปได้ คิดว่าความพยายามและความเชื่อจะไม่ทรยศเรา แม่ฟรีนพูดเสมอว่า ‘วันเวลาไม่เคยรอเรา’ เราอยากจะทำอะไร จะมีความสุข จะลองอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลอง หรือทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ อยากเป็นตัวเองก็ทำเลย”

ด้วยตารางงานมากมาย ฟรีนจัดสรรแบ่งเวลาอย่างไร 

“(หัวเราะ) จริงๆ เป็นเรื่องยากมากค่ะ ตอนแรกที่ยังไม่มีงานเยอะขนาดนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ พอหลังจากทำงานเยอะๆ แล้วยากมาก ต้องแพลนเยอะขึ้น ดูว่าเรามีช่วงเวลาว่างตอนไหนบ้าง แล้วก็ใช้ให้คุ้มค่า ณ ตอนนี้คือรู้สึกว่านอนน้อยไม่เป็นไร เพราะเราอยากออกไปทำนั่นนี่ ให้เวลากับตัวเอง คุณแม่ น้องหมา เท่าที่เราจะทำได้ การแบ่งเวลาต้องใช้ความใส่ใจค่ะ อย่างเช่นถึงเวลาใส่ใจตัวเองแล้ว ก็ออกไปเล่นพิลาทีสสักหน่อย ถึงเวลาใส่ใจคนรอบข้างก็ลองหาอะไรทำด้วยกัน อย่างเมื่อวานก็เพิ่งลองทำถังหูลู่ (ผลไม้เคลือบน้ำตาลสไตล์จีน) ด้วยกัน ก็ได้คำตอบว่า ซื้อกินดีกว่า (หัวเราะ) แต่อะไรแบบนี้เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำด้วยกันแล้วมีความสุขได้ง่ายๆ ฟรีนคิดว่าคำว่า ‘ไม่มีเวลา’ ไม่มีจริง อยู่ที่ว่าเราใส่ใจหรือเปล่า อยากทำมันหรือเปล่า” 

วันนี้ได้มาถ่ายแบบนาฬิกาครั้งแรกกับแบรนด์ HUBLOT 

อยากทราบว่านาฬิกามีความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ของฟรีนอย่างไรบ้าง“ฟรีนชอบนาฬิกานะคะ เพราะนอกจากจะบอกเวลาแล้ว ยังเป็นแอ็กเซสเซอรี่ได้ ซึ่งสื่อถึงบุคลิกความชอบของเราด้วย จริงๆ แล้วถ้าจะดูเวลาอย่างเดียว เราดูในโทรศัพท์ได้แต่การใส่นาฬิกาที่ดีทำให้ลุคของเราดูคอมพลีต” 

แล้วฟรีนเลือกนาฬิกาจากอะไร

“ฟรีนชอบความแมตช์เข้ากับลุคในแต่ละวันค่ะ เป็นคนที่ถ้าจะใส่เครื่องประดับสีทอง ทุกอย่างต้องเป็นทองไปเลย หรือจะไวท์โกลด์ ก็ต้องเข้ากับทุกอย่างในตัว ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้คิดถึงนาฬิกาประดับเพชรเท่าไหร่ แต่พอได้ลองใส่นาฬิกา Spirit of Big Bang ถ่ายแบบวันนี้ รู้สึกว่าสวยมีเสน่ห์และมีความพิเศษ ปกติฟรีนจะชอบนาฬิกาสีเบสิก อย่างสีดำ สีเทา สีขาว แต่ครั้งนี้ชอบนาฬิกา Spirit of Big Bang ที่มาพร้อมสายสีชมพูเป็นพิเศษ เพราะเป็นสีที่เราไม่เคยคิดว่าจะใส่มาก่อน ใส่แล้วป็อปขึ้นมาเลย เหมือนทำให้ลุคเรียบๆ ดูมีอะไร”

มาถึงผลงานการแสดง ทั้งภาพยนตร์ ‘URANUS2324’ และซีรีส์ ‘ปิ่นภักดิ์’ ที่เพิ่งเปิดกล้อง มีอะไรมาอัพเดต ให้ฟังบ้าง 

“ฟรีนเพิ่งบินไปถ่าย URANUS2324 ที่อเมริกา ขนาดว่าถ่ายไปแล้วก็ยังทำเวิร์กช็อปไปด้วย ยากมากที่เราต้องโตขึ้น ต้องแสดงอารมณ์ออกมาให้ดูแตกต่างในแต่ละช่วงวัย และต้องคำนึงถึงความเป็นจริงด้วยแม้จะเป็นแนวไซไฟผสมแฟนตาซี การสวมบทเป็นนักบินอวกาศต้องสมจริง เวลาโหนสลิงจะใช้สแตนด์อินไม่ได้เลย แล้วก็เรื่องบทที่ยากมากๆ ส่วนอีกเรื่องคือปิ่นภักดิ์ เป็นซีรีส์พีเรียด มีความกังวลเรื่องไดอะล็อก ภาษาเก่า และมีราชาศัพท์ด้วย ปกติเวลาแสดงฟรีนจะใช้ความเข้าใจ แต่บทนี้ต้องใช้ทั้งความเข้าใจ จำบทจำคำให้แม่น และต้องทำให้คนเชื่อว่าเราอยู่ยุคนั้นจริงๆ ตอนนี้ฟรีนถ่ายทั้งสองเรื่องพร้อมกัน นับว่ายากทั้งสองเรื่องคาแร็กเตอร์ก็ต่างกันมาก เราต้องสลับให้ได้ แต่สัญญากับทุกคนว่าทุกๆ ผลงานที่จะออกมา ฟรีนจะทำเต็มที่อย่างแน่นอน”

มีทักษะอะไรในชีวิตที่ยังอยากพัฒนาให้ได้

“อยากทำทุกอย่างเลยค่ะ แต่ถ้าเรื่องที่ติดใจมากๆ คือเรื่องภาษาและ mental health อยากพูดภาษาได้เยอะๆ เพราะแฟนคลับ เราอยากที่จะสื่อสาร อยากให้ทุกคนสามารถคุยกับเราได้ ซึ่งทัชใจมากเวลาที่แฟนคลับพยายามสื่อสารกับเรา ขนาดเราพูดภาษาไทย เขาก็พยายามที่จะเข้าใจเรา เลยคิดว่าภาษาเป็นสิ่งสำคัญ และพยายามมาเรื่อยๆ ที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น  

“ส่วน mental health อยากให้สภาพจิตใจดีขึ้นทุกๆ วัน สามารถจัดการและรองรับความรู้สึกต่างๆ ไม่อยากให้อะไรมาทำให้เรารู้สึกไม่ดี หรือถึงจะรู้สึกไม่ดี แต่เราต้องรับมือได้ รู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่อยากจะพัฒนา อยากจะเก่งขึ้น แต่ต้องในแบบฉบับของเราด้วย ไม่อยากให้คนมาบอกเราว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ถึงจะดี รู้สึกว่าทุกคนมีแนวทางในการจัดการเป็นของตัวเอง”

เวลามีปัญหามักจะแก้เองคนเดียว หรือหาที่ปรึกษา

“ฟรีนชอบแก้ปัญหาเองคนเดียวนะ ต่อให้ถามหรือขอคำแนะนำจากคนอื่น แต่การตัดสินใจสุดท้ายต้องมาจากเรา แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราตัดสินใจจะถูกต้องไหม และเกิดความผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าเราตัดสินใจเอง นั่นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ แล้วเราก็ไม่ต้องโทษใคร ซึ่งเราจะไม่โทษตัวเองด้วย เป็นคนที่เด็ดขาดมาก เราโตมาคนเดียว ต้องพึ่งพาตัวเอง ต้องทำในสิ่งที่ใช่ ณ ตอนนั้น สุดท้ายไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไงก็จะ ไม่โทษตัวเอง”

ถ้าดูจากภาพในอินสตาแกรม สามารถพูดได้ไหมว่าฟรีนเป็นผู้หญิงช่างฝัน 

“ฟรีนไม่แน่ใจว่าช่างฝันหมายถึงอะไร แต่มองว่าตัวเองเป็นอาร์ทิสต์มากกว่า อย่างที่บอกว่าไม่ค่อยคิดถึงอดีตหรืออนาคตเท่าไหร่ ไม่ฝันเยอะขนาดนั้น เรามองทุกอย่างเป็นอาร์ต อย่างการแสดง ร้องเพลง วาดรูป ถ่ายรูป หรือทุกอย่างที่อยู่ในไอจี มันคือความอาร์ต ต่อให้ถ่ายรูปตัวเองก็จะดูองค์ประกอบทุกอย่าง”

แต่ละรูปของฟรีนดูมีความหมายหรือฟีลลิ่งบางอย่าง

“ใช่ค่ะ เป็นฟีลลิ่งของโมเมนต์นั้นๆ แล้วเราอยากเก็บมันไว้ ก็เลยถ่ายไว้ แต่ไม่ได้เป็นคนถ่ายไปเรื่อย ถ้าองค์ประกอบสวย ความหมายมันสวยหรือมีความหมาย”

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ได้ตั้งปณิธานปีใหม่ไว้บ้างไหม

“ฟรีนอยากซื้อบ้านนะ คงเป็นบ้านหลังแรกที่ได้อยู่กับคุณแม่และน้องหมา อยากออกแบบเอง แล้วเอาของของแฟนคลับมาไว้ที่บ้านหลังนี้ เราจะได้ขอบคุณเขาที่น่ารักกับเรามากๆ อยากแต่งบ้านโดยที่มีของพวกเขาอยู่ในบ้านพี่ๆ เขารู้ว่าฟรีนชอบงานอาร์ต เลยส่งมาให้เยอะมาก แล้วถ้าซื้อบ้าน น้องหมาจะได้มีที่วิ่งเล่นด้วย”

ถ้าเปรียบเป็นการเดินทาง อยากให้ปี 2024 เป็นการเดินทางแบบไหน

“ชีวิตฟรีนเหมือนอยู่บนโรลเลอร์โคสเตอร์มานาน ไม่เอาแล้ว ฟรีนอยากค่อยๆ เดิน เดินด้วยความมั่นคง ทุกก้าวที่ก้าวไป เราตั้งใจและหนักแน่น จะไปไหนไม่รู้นะคะ แต่จะค่อยๆ เดิน อยากให้เป็นปีที่ช้าๆ แบบมั่นคง และอยู่กับทุกคนที่พร้อมจะค่อยๆ เดินไปกับเรา”

Photographer: Nucha Jaitip

Fashion Editor: Watcharachai Nun-ngam

Writer: Pimpilai Boonjong

Model: Sarocha Chankimha

Makeup: Poy Yostana 

Hair: Sittipong Metha 

Photographer Assistants: Viwat Rimvareekul, Eak Luangpuch 

Stylist Assistants: Junjira Wungaug, Panithan Prasongsanti

Videographer: Settawut Nrothong

อ่านเพิ่มเติม:

ฟรีน-เบคกี้ สองสาวสุดฮ็อตผู้ไม่เคยหยุดเรียนรู้เลยสักวัน

เจมส์ ธีรดนย์ และ โต้งทูพี ร่วมแคมเปญฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับ Hublot

HUBLOT SPIRIT OF BIG BANG 32MM แค่คลิก ก็เปลี่ยนสไตล์






Other Articles