Saturday, January 11, 2025

Max Mara คอลเลกชั่น Resort 2025 : Marco Polo และเส้นทางสายไหม

“มีบางสิ่งในเวนิสที่แตกต่างจากที่อื่นบนโลก ซึ่งจะทำให้คุณละทิ้งนิสัยและสิ่งที่เคยพบเห็นในชีวิตประจำวันทั้งหมดเพื่อเข้าสู่สวนมหัศจรรย์” Mary Shelley (แมรี่ เชลลี่) นักเขียนนวนิยายเรื่อง Frankenstein และ The Modern Prometheus กล่าว

Max Mara คอลเลกชั่น Resort 2025 ชูเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากเรื่องราวการเดินทางการเดินทางของ Marco Polo บนเส้นทางสายไหม ปลุกเรื่องราวแห่งวัฒนธรรมร่วมให้มีชีวิตอีกครั้ง

Marco Polo (มาร์โค โปโล)

พ่อค้าชาวเวนิสอย่าง Marco Polo (มาร์โค โปโล) นอกจากการเป็นพ่อค้าวานิชแล้ว เขายังเป็นนักสำรวจ และนักเขียนชาวเวนิส ซึ่งได้เดินทางผ่านเอเชียไปตามเส้นทางสายไหมระหว่างปี ค.ศ. 1271 และ ค.ศ. 1295 การเดินทางของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ “การเดินทางของมาร์โค โปโล” หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ “ความมหัศจรรย์ของโลกและเรื่องฝอยล้านเรื่อง” (ค.ศ. 1300) หนังสือเล่มนี้บรรยายถึงวัฒนธรรมลึกลับและการทำงานภายในของโลกตะวันออก รวมถึงความมั่งคั่งและความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิมองโกลและจีนในสมัยราชวงศ์หยวน นับเป็นครั้งแรกที่ชาวยุโรปได้รู้จักจีน เปอร์เซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และเมืองและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

เขาเป็นถูกกล่าวว่าเขาเป็นนักสตรีนิยมยุคแรกๆ ในบันทึกการเดินทางได้อธิบายถึงวิถีชีวิตของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงชาวตาตาร์ที่ขี่ม้าได้เหมือนผู้ชายโดยไม่มีการตัดสินจากสังคม และประหลาดใจกับเกาะในอินเดียซึ่งมีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่ โดยผู้ชายจะสามารถไปเยือนได้เพียงปีละสามเดือนเท่านั้น

Max Mara คอลเลกชั่น Resort 2025 ชูเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากเรื่องราวการเดินทางการเดินทางของ Marco Polo บนเส้นทางสายไหม ที่เต็มไปด้วยการผสมผสานทางวัฒนธรรมอันงดงาม พร้อมหยิบเอาองค์ประกอบต่างๆจากการเดินทางเช่นโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมและงานศิลปะเลอค่าของตะวันออกและตะวันตกที่มาบรรจบกัน สร้างอีกหนึ่งความวิจิตรงดงามทางวัฒนธรรมเกินบรรยาย นี้คือวาระครบรอบ 700 ปีการเสียชีวิตของเขา คอลเลกชั่นนี้พร้อมเปิดให้โลกได้เห็นนิทรรศการและเหตุการณ์สำคัญมากมาย

ซิลูเอตที่มีความเฟมีนีน อ่อนหวานและสง่างามตามแบบฉบับของ Max Mara ได้ผสานกับกลิ่นอายความโรแมนติกของวัฒนธรรมที่พ่อค้าเวนิสได้พบเจอ เสื้อคลุมไหล่ตกแบบ “robes de chambre” ในหลายหลากสีเอิร์ธโทนดูสบายตา

และกระโปรงผ้ากำมะหยี่ในการออกแบบที่เป็นสากล เรื่อยไปจนผ้าโพกหัวที่มีความพิเศษคือการได้ Stephen Jones มาร่วมออกแบบ 

เวนิส (Venice)

นอกจากนี้เวนิวที่ใช้ในการเล่าเรื่องของคอลเลกชั่นนี้เช่น Palazzo Ducale ณ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ยังเป็นเมืองต้นกำเนิดของนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ซึ่งถือเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าจนเป็นมหาอำนาจทางการเงินและการเดินเรือที่สำคัญในช่วงยุคกลางและยุคเรอเนซองส์

บทความที่เกี่ยวข้อง:
‘Gucci Visions’ ลงลึกรายละเอียดงานนิทรรศการของห้วงเวลาและประวัติศาสตร์ของ Gucci
Balenciaga บุกกรุงเซี่ยงไฮ้
เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันชวนฝันจาก Max Mara Resort 2024

Other Articles