หลังจากเคยร่วมงานกันในคอลเลกชั่น Serpenti Through the Eyes of Mary Katrantzou เมื่อปี 2021 ทาง Bvlgari ก็ได้ประกาศแต่งตั้ง Mary Katrantzou เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและแอคเซสเซอรีคนแรกของแบรนด์ไปเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการเจาะตลาดเครื่องหนัง
และล่าสุด ทางแบรนด์ก็ได้ปล่อยคอลเลกชั่นออกมาแล้วโดยใช้ชื่อว่า Calla ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก ลวดลายโมเสกอันประณีตละเอียดอ่อนของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ เทอร์ม ดี คาราคัลลา ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโรมโบราณ ขึ้น และเป็นดั่งศูนย์กลางแห่งการรวมตัวทางสังคมเพื่อแลกเปลี่ยนซึ่งวัฒนธรรม และภายในยังมีโรงอาบน้ำต่าง ๆ ซึ่งตกแต่งพื้นด้วยโมเสกหลายสีที่มีลวดลายคล้ายกับรูปทรงพัดอันโดดเด่นทำจากเทสเซอร่าหินอ่อน ลวดลายนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเมซงในการรังสรรค์ลวดลายโมเสกที่สะท้อนผ่านรูปทรงพัดแบบเฟมีนีนอันแสนงดงาม เช่นในคอลเลกชั่น ดีวาส์ ดรีม (Divas’ Dream) ของบุลการีด้วย
ในคอลเลกชั่นเครื่องหนังและแอ็กเซสเซอรีนี้ คาทรานต์ซูได้นำลวดลาย คัลลา หรือรูปทรงพัดมาผ่านเทคนิคการเคลือบลายนูน (matelassé) และคริสตัลพาเว่ (pavé crystal) เพื่อแปลงโฉมกระเป๋า Serpenti Forever ให้เป็นกระเป๋าสะพายไหล่หนังนัปปาแบบควิลต์ในชื่อ Serpenti Sugarloaf ใหม่ ทั้งยังมีความหลากหลายของรูปทรงโค้งโดมหายากจากเทคนิค คาโบชองคัต (cabochon cut) อันเป็นเอกลักษณ์ของบุลการี เซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยวิศวกรรมอันแม่นยำและโดยศิลปินช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของบุลการี ณ อเตอลิเยร์เครื่องหนัง (Leather Atelier) ในเมืองฟลอเรนซ์
รุ่นที่สุดของความหรูหรา คงต้องยกให้กับ Serpentine Duo กระเป๋าในรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ชวนให้หวนนึกถึงการเจียระไนอัญมณีล้ำค่า หูจับโลหะได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงงู Serpenti ตกแต่งด้วยลวดลายเกล็ดบนพื้นผิวแกะสลักอย่างประณีตโดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านงานช่างฝีมือแห่งเครื่องประดับอัญมณีอันมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของบุลการี และตีความหมายมาสู่เครื่องหนังได้อย่างงดงามล้ำเลิศ โดยมีทั้งเวอร์ชันกระเป๋าหนังสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเวอร์ชั่นหรูสง่างามสำหรับงานเลี้ยงราตรีด้วยการประดับคริสตัลแวววาวระยิบระยับ
และอีกหนึ่งดีไซน์ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกก็คือกระเป๋าคลัทช์ Ginkgo ตัวแทนของรูปทรงสัญลักษณ์ที่นำมาถ่ายทอดผ่านรูปแบบเฉพาะหนึ่งเดียวอันงดงามบริสุทธิ์ของแต่ละลวดลาย พร้อมทั้งสายหนัง และเผยเสน่ห์ของ ‘คัลลา’ ในฐานะสัญลักษณ์ที่สกัดจากลวดลายซ้อนกันและสร้างสรรค์เป็นเสมือนการทำซ้ำ ๆ ราวกับร่ายมนตร์สะกด มอบซึ่งความโดดเด่นให้กับ โครงร่างและลวดลาย และนำเสนอด้วยทักษะอันเชี่ยวชาญทั้งในรูปแบบหนังนัปปาอันประณีตละเอียดอ่อนและโลหะขึ้นรูปที่หลอมรวมระหว่างงานฝีมือเชิงศิลป์ของการประดิษฐ์รังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีและเครื่องหนังไว้ภายในชิ้นเดียวกัน
“ลวดลายพัดโค้งอันเย้ายวนใจนี้ถ่ายทอดถึงพลังแห่งความเป็นผู้หญิงและความเป็นสากล ทั้งยังเชื่อมโยงถึงวัฒนธรรมและความหมายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ใบแปะก๊วย และคาลล่าลิลลี่ ที่ในคอลเลกชั่น ‘คัลลา’ นี้นับเป็นการตีความอย่างไม่มีสิ้นสุด และ ทุกๆ เส้นทางนั้นล้วนนำไปสู่หัวใจแห่ง…บุลการี” แมรี คาทรานต์ซู กล่าว
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง:
กระเป๋า Made To Order จาก Bulgari ที่สร้างสรรค์ขึ้นตามจินตนาการและความปรารถนาของคุณ
Eternally Reborn แคมเปญใหม่จาก Bulgari ที่ว่าด้วยการเริ่มใหม่อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
