Writer: Panithan Prasongsanti
ในปี 2023 ที่ผ่านมา เทรนด์ Quiet Luxury ได้กลายเป็นอีกหนึ่งค่านิยมที่เข้ามามีบทบาทในแวดวงแฟชั่น โดยเป็นแนวคิดที่นิยามถึงการใช้สิ่งของหรือวิถีชีวิตมาเป็นตัวบ่งชี้ถึงสถานะทางการเงิน หากทว่าสิ่งของหรือไลฟ์สไตล์นั้นๆจะต้องมาในรูปแบบที่สามารถนำเสนอได้อย่างแยบยล และเป็นสินค้าไฮเอ็นแบบที่ไม่ตะโกนจนเกินไป เพื่อให้ดูเหมือนกับว่าบุคคลนั้นเพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราตามปกติในแบบฉบับของผู้ที่ไม่ได้ขัดสนในด้านการเงิน
แต่ดูเหมือนว่า Quiet Luxury กำลังจะเชยไปเสียแล้วสำหรับปี 2024 และอาจจะถูกแทนที่ด้วยแนวคิดอย่าง Loud Budgeting ที่มีแนวปฏิบัติสวนทางกับ Quiet Luxury อย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้ หากให้นิยาม Loud Budgeting โดยคร่าวๆ ก็เปรียบเสมือนการบริหารจัดสรรการเงินโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองแทนการที่จะจับจ่ายใช้สอยบนสินค้าหรือบริการที่ไม่มีความจำเป็น
@lukasbattle Replying to @operelly ♬ original sound – Lukas Battle
Lukas Battle เจ้าของบัญชี Tiktok ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ในคลิปที่มียอดคนดูกว่า 1.4 ล้าน ว่า “It’s not ‘I don’t have enough,’ it’s ‘I don’t want to spend” ซึ่งตีความได้ว่า “Loud Budgeting” ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นไม่มีกำลังในการซื้อ แต่เขาเพียงต้องการที่จะเก็บเงินส่วนนั้นไปใช้กับสิ่งที่จะสร้างประโยชน์ให้กับตนเองได้มากกว่า
หัวใจหลักของแนวคิด Loud Budgeting คือการนำเสนอแนวปฏิบัติที่ให้ความสำคัญต่อความหนักแน่นในการบรรลุเป้าหมายส่วนบุคคล ไม่วอกแวกต่อสิ่งล่อใจที่มาจากสังคมรอบข้างหรือสื่อโซเชียลต่างๆ โดยโอบรับความแตกต่างทางความคิดและไลฟ์สไตล์ที่ให้เสรีในการแสดงจุดยืนที่ชัดเชน และทำให้การปฏิเสธแบบตรงไปตรงมาเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่การต่อต้านการเข้าสังคมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอย่าง Julie O’Brien มองว่าเทรนด์ Loud Budgeting จะมาทำให้ใครที่กำลังรู้สึกแตกแยก หรือกังวลที่จะปฏิเสธเพื่อนฝูงเมื่อถูกชวนไปทำกิจกรรมต่างๆให้รู้สึกไม่ปล่าวเปลี่ยวอีกต่อไป เพราะเทรนด์นี้กำลังจะมาพลิกแนวคิดใหม่ให้มุมมองการออมเงินและการใช้จ่ายอย่างมีความหมาย แทนการใช้ชีวิตแบบฉาบฉวยอันไร้ซึ่งเป้าหมาย
อีกหนึ่งข้อสังเกตน่าสนใจที่ Lukas Battle ได้กล่าวไว้ในคลิปคือถ้าหากเราลองย้อนมองอย่างพิจารณาแล้ว เราจะเห็นได้ว่ากว่าที่เหล่าคนมีเงินหรือมหาเศรษฐีจะควักเงินจ่ายแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพวกเขามักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับในทุกการใช้สอย และไม่ได้ต้องการที่จะใช่จ่ายเพื่ออวดร่ำอวดรวย ในทางกลับกันพวกเขาต้องการที่จะต่อยอดความสำเร็จของตนเองและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนแทนการเฝ้ารอคำเชยชมหรือการยอมรับจากเพื่อนฝูง
มาจับตาดูกันว่า “Loud Budgeting” จะเข้ามาพลิกโฉมพฤติกรรมการออมเงินได้อย่างที่วิเคราะห์ไว้หรือไม่ และจะเข้ามามีบทบาทต่อการจับจ่ายใช้สอยในตลาดแฟชั่นมากน้อยเพียงใด
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
เพราะอะไรปัจจุบันซีรีส์เกาหลีมักสร้างมาจากเว็บตูน?
Song Kang เผย ซีรีส์ Sweet Home ช่วยให้เขาเติบโตขึ้น
ชมภาพแรกของ Angelina Jolie แปลงโฉมเพื่อรับบทนักร้องโอเปร่า Maria Callas
