Monday, January 20, 2025

“บทเรียนที่แพตได้รับมาจากการเป็นตัวเองแบบสุดๆ คือ การยอมรับในผลลัพธ์จากสิ่งที่ตัวเองเลือก” – แพต ชญานิษฐ์

ก้าวสู่ดินแดนใหม่ที่ไม่เคยย่างกราย กับแฟชั่นเซ็ตเปี่ยมสีสันและชีวิตชีวาของ แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช นักแสดงสาวในลุคมาดเท่ คอลเลกชั่นล่าสุด Spring 2025 จาก CELINE โดย HEDI SLIMANE ผสานดีไซน์เรียบโก้แบบน้อยแต่มากเข้ากับงานตัดเย็บสุดประณีตจากฝรั่งเศส ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นต้อนรับแสงแรกของปี 

Interviewed by Angkana Wongwisetpaiboon

Edited by Pacharee Klinchoo

คาแร็กเตอร์ประจำตัวที่สดใส สนุกสนาน คือภาพของแพต – ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช ที่เราเห็นจนชินตาผ่านสื่อต่างๆ นี่คือตัวตนของแพตจริงๆ เลยใช่ไหม “ใช่เลยค่ะ” แพตตอบเราด้วยน้ำเสียงร่าเริง “แพตเคยลองพยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นคนในแบบที่สังคมบอกว่าแพตควรจะเดินแบบนี้ พูดแบบนี้ ทำแบบนั้น ทำแบบนี้ และแพตรู้สึกว่าไม่มีความสุขเลย กลับมาบ้านแล้วรู้สึกอึดอัดตลอดเวลา ตอนนั้นเป็นช่วงที่แพตเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ แพตก็ได้ยินเขาเล่ามาเยอะ บวกกับคิดไปเองด้วยว่าจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้นะ แต่หลังจากที่ได้พยายามทำตัวแบบที่คนอื่นบอกมานานจนตกตะกอนได้ว่า นี่คือภาพจอมปลอมที่ตัวเราเป็นคนสร้างขึ้นมาเองด้วยซ้ำ มาถึงวันนี้ แพตต้องขอบคุณตัวเองที่ตั้งคำถามกับตัวเอง และกับความรู้สึกตัวเองในตอนนั้น และการตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอทำให้แพตย่อยออกมาได้ในที่สุดว่านี่คือสิ่งที่แพตไม่ชอบ แพตเลยลองไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ดู โดยการตัดความกลัวทั้งหมดออกไป ไม่ว่าจะเป็นกลัวคนไม่เข้าใจ กลัวคนเข้าใจผิด กลัวนั่นกลัวนี่ พอตัดสิ่งเหล่านั้นออกไปได้ ได้ทำสิ่งที่แพตชอบจริงๆ แบบคำนวณมาแล้วว่าจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แพตก็ลงมือทำสิ่งเหล่านั้นเลย เพื่อนของแพตหลายคนก็สนับสนุน พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ซึ่งพอแพตมีความสุขจริงๆ เอเนอร์จี้ที่กระจายออกไปจากตัวแพตคือเอเนอร์จี้ที่แพตรู้สึกจริงๆ ก็ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไรแพตนี่นา ถึงจริงๆ แล้วมันจะมีคนเกลียดแพตอยู่บ้าง แต่แพตก็เฉยๆ นะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเกลียดใครนี่นา การจะมีคนเกลียดเราบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดานี่นา จริงไหม

“แพตเคยไปทำ Enneagram (แบบทดสอบบุคลิกภาพ) มาด้วยนะ” น้ำเสียงของเธอยังคงกระตือรือร้น “เพราะแพตชอบตั้งคำถามกับตัวเองในทุกเรื่อง ตอนนั้นไปลงคอร์สจริงจังสามวันเลยนะคะ แต่แพตรู้ตั้งแต่วันแรกเลยว่าแพตเป็นลักษณ์ที่ 4 หรือ 7 แน่นอน แพตมั่นใจมากว่าแพตเป็นคนประเภทสุดโต่ง ถ้ารักก็รักที่สุด ถ้าเกลียดก็เกลียดที่สุด ถ้าอยากจะทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุด และไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยกับการเป็นคนแบบนั้น ทุกคนเป็นห่วงแพตมากว่าใช้ชีวิตแบบนี้จะไหวไหม แต่ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่า เคยลองใช้ชีวิตแบบอื่นมาแล้วเหนื่อยจริง เป็นแบบนี้คือดีที่สุดแล้วสำหรับเรา เรียกได้ว่าเป็น extrovert มากกว่า 70% แน่นอนค่ะ” 

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ แพตส่งเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงจนทำให้บรรยากาศการสัมภาษณ์ผ่อนคลายได้จริงๆ “แพตไม่ได้เป็นคนใช้อารมณ์แบบคนขี้โมโหนะ” เธออธิบายเมื่อเราถามว่าเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอเป็นคนที่อารมณ์มาเป็นอันดับหนึ่ง “แต่แพตเป็นคนที่ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในชีวิต เรื่องของกินยังใช้ความรู้สึกเลยค่ะ (หัวเราะ) ถามว่ามีผิดมีพลาดมั้ย ตอบเลยค่ะว่าเยอะ แต่เราก็ชอบที่เราเป็นแบบนั้นในตอนนั้นนี่นา เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องตัดผม ตอนนั้นเพิ่งเข้าวงการ เดินไปร้านทำผม รู้สึกว่าอยากตัดผมสั้นก็ตัดไปเลย โดนผู้ใหญ่ตำหนิก็รู้สึกผิด แถมตัดมาแล้วไม่ได้หน้าเด็กเหมือนคนอื่นอีก แต่ก็อยากจะทำในตอนนั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามในชีวิต ถ้าแพตตัดสินใจเลือกโดยไม่ได้มีความรู้สึกดีกับมัน แพตจะทำออกมาได้ไม่ดี จะรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองตลอดเวลา มันเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ พยายามแล้ว ยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม” พอได้ฟังคำอธิบายว่าเธอใช้อารมณ์ในการขับเคลื่อนชีวิตแบบนี้ เราก็ไม่แปลกใจกับความร่าเริงอยู่เป็นนิจที่เราเห็นจนชินตา “ตอนที่ตัดผมสั้นมันยังเด็ก ยังไร้สติอยู่” เธออธิบายเพิ่มเติม “ตอนนี้โตขึ้น ก็เลือกที่จะมีความสุขแบบรู้ตัว ประมาณว่าตระหนักรู้มากขึ้น ตัดสินใจช้าลงหน่อย แต่ก็ยังจอยอยู่เหมือนเดิมค่ะ” 

ถ้าจะร่าเริงขนาดนี้ มีอารมณ์นอยด์บ้างไหม “นอยด์บ้างแต่ไม่นานค่ะ” ตอบทันที “แพตโชคดีมากที่สุขภาพจิตแข็งแรง อาจจะมาจากกรรมพันธุ์การเลี้ยงดู หรืออะไรก็ตาม แต่แพตเกิดมาพร้อมกับสุขภาพจิตที่แข็งแรงเป็นพื้นฐานจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องขอบคุณอะไรนะคะ แต่แพตก็เลือกที่จะขอบคุณตัวเองเสมอที่ตัวเองเป็นคนแบบนี้ เลยทำให้มูฟออนได้ไว แต่การมูฟออนไวก็มาพร้อมกับความสุดโต่งเวลาเศร้า คือต้องเศร้าให้ถึงที่สุด จะได้จบ อย่างที่บอกว่าแพตไม่เคยเดินทางสายกลาง เพราะเดินสายกลางแล้วเหนื่อยค่ะ เป็นคนแบบนั้นจริงๆ” โอ้โห… ถ้าเป็นแบบนี้ คนข้างๆ จะเหนื่อยไปกับเราไหม “การเป็นคนแบบนี้ทำให้แพตเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนจะอยู่กับแพตได้ เพราะเขาจะเหนื่อยมาก ซึ่งเขาก็ไม่ผิด แต่เราก็ไม่ผิดเหมือนกัน เลยเป็นเรื่องที่แพตเข้าใจว่าเวลา จังหวะชีวิต และตัวตนของเราจะคัดกรองคนรอบข้างเราไปเองค่ะ” 

อยู่ในวงการมาเกือบสิบปีแล้ว แพตรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากมั้ย “ไม่มั่นใจว่าใช้คำว่าภูมิใจได้ไหมนะ” เสียงของเธอลังเลเล็กน้อย “แต่แพตมั่นใจว่าแพตใช้คำว่า ‘โค-ตรสะใจเลย!’ ได้แน่นอน แพตผ่านมาหลายอย่างมากจริงๆ การอยู่ในวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องง่าย และแพตผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ บทเรียนที่แพตได้รับมาจากการเป็นตัวเองแบบสุดๆ คือ การยอมรับในผลลัพธ์จากสิ่งที่ตัวเองเลือก แพตกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากการกระทำของตัวเองทั้งหมด ในบางครั้งผลเสียจะมีมากกว่า แต่แพตก็กล้าที่จะยอมรับมันจริงๆ แล้ว อาจจะใช้เวลาหลายปี แต่แพตก็ทำได้ในที่สุดค่ะ” 

สำหรับแพตในวันนี้ที่เติบโตขึ้นแล้ว แพตคิดว่ารับมือกับอะไรยากอยู่ “รับมือกับผู้ใหญ่ยังไม่ง่ายค่ะ” เธอหัวเราะ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงาน หรือคนในครอบครัว แต่ถ้าถามว่าผู้ใหญ่เข้าใจเราไหม ก็คงไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เขาจะมองเราด้วยความเอ็นดูมากกว่า เราสิไม่ค่อยเข้าใจพวกเขา” งั้นแพตแนะนำคนที่อยากจะเป็นแบบแพตหน่อย “มันยากนะสำหรับคนที่เป็น introvert หรือเอเนอร์จี้น้อยอยู่แล้ว จะให้มาสุดโต่งแบบแพตคงยากมาก แพตสนับสนุนให้ทุกคนตั้งคำถามกับตัวเองในทุกวัน ค่อยๆ ตั้งไปเรื่อยๆ อย่าหยุดหาคำตอบ ถ้าคุณไม่มั่นใจในตัวเอง คุณก็โอบรับความไม่มั่นใจตัวเองไว้ จะได้อยู่กับตัวเองที่ไม่มั่นใจในตัวเองได้อย่างสมดุล ฟังดูเหมือนจะยากนะ แต่จริงๆ แล้วมันยากมาก (หัวเราะ) แต่ก็ดีกว่าไม่ตั้งคำถามอะไรกับตัวเองเลยนะ” 

ตอนนี้แพตตั้งคำถามอะไรกับตัวเองอยู่ “ตอนนี้แพตพยายามหาความสุขที่แท้จริงแบบ true happiness เคยคิดว่ามันคงใหญ่มากแน่ๆ แต่พอใกล้สามสิบแล้วเพิ่งรู้ว่ามันเล็กมาก และง่ายมากกว่าที่เคยคิดไว้เมื่อก่อนเยอะเลย ตอนนี้แพตยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่คิดว่าใกล้แล้วล่ะ” แปลว่ายิ่งโต ความสุขยิ่งเปลี่ยนไปใช่ไหม “เปลี่ยนอยู่แล้วค่ะ” อีกครั้งที่เธอตอบทันที “เมื่อสิบปีที่แล้ว เคยคิดว่าความสุขคือสิ่งหนึ่ง พอมาสิบปีให้หลัง ความสุขเมื่อสิบปีที่แล้วก็จบไปแล้ว มันเปลี่ยนเสมอ สิ่งที่แพตตอบวันนี้ ถ้ามาถามใหม่ปีหน้า แพตก็เปลี่ยนไปอีก (หัวเราะ) นี่คือข้อเสียของความเป็นคนสุดโต่งของแพตคือเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ คำตอบของแพตเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามคำถามที่แพตตั้งในแต่ละช่วงชีวิตค่ะ”

คุยเรื่องแฟชั่นกันดีกว่า สำหรับแพต แฟชั่นคืออะไร “แพตมีเพื่อนหลายคนที่มองว่าแฟชั่นคือการลงทุนนะ แบบซื้อมารอราคาขึ้นแล้วค่อยขายต่อแต่แพตยังไม่เคยเห็นใครขายต่อสักคน เคยเชื่อเพื่อน ซื้อตามเพื่อน ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ในตู้ เพราะแพตเป็นคนที่ใช้ของจริงๆ ทุกชิ้น อย่าเอาไปขายต่อเลย มันเน่าแล้ว (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น แพตขอตอบว่าสำหรับแพต แฟชั่นคือความสนุก คืองานศิลปะอย่างหนึ่งที่ผลิตมาเพื่อให้ความบันเทิงกับมนุษย์ เวลาเราแต่งตัว เราเลือกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่ซัพพอร์ตความเป็นตัวเรา แพตว่ามันสนุก จับนั่นผสมนี่ก็มีความสุขแล้วค่ะ คนเราแต่งตัวเวลามีความสุขนะแพตว่า เพราะว่าเวลาคนเราเศร้า จะไม่แต่งตัว แต่จะนอนเป็นศพอยู่ที่บ้านมากกว่าค่ะ” 

เลือกหนึ่งชุดที่ชอบในวันนี้หน่อย “ชุดสูทที่ formal มากๆ ค่ะ เพราะสไตล์ที่เป็นแพตคือเรียบง่าย แต่ภาพรวมต้องได้ แพตรู้สึกว่าในวัยนี้ กระเป๋าใบเล็กไม่ตอบโจทย์แล้ว เมื่อก่อนชอบกระเป๋าใบเล็กมากๆ เพราะในภาพรวมมันจบง่าย แต่ตอนนี้ยิ่งแก่ กระเป๋ายิ่งใหญ่ แพตขนของเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ขี้เกียจจะพกหลายใบค่ะ” 

แล้วเรื่องงานแสดงล่ะ มีบทบาทไหนที่ไม่เคยเล่น แต่อยากลองเล่นบ้างไหม “ต้องเป็นบทที่เกี่ยวกับกายภาพค่ะ ยังไม่เคยลองเล่นบทที่เดินไม่ได้ หรือเดินผิดท่าเพราะกายภาพบกพร่อง หรือไม่ก็บทที่ขยับตัวไม่ได้ แต่พูดได้อย่างเดียว น่าจะส่งอารมณ์ได้เต็มที่สุดๆ เลยค่ะ” และแพตคิดว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ยั่งยืนไหม “เอาตรงๆ นะคะ โครงสร้างในประเทศเราไม่สามารถทำให้อาชีพนักแสดงยั่งยืนได้ในเชิงของงานศิลปะ ไม่ว่าจะแขนงไหนก็ตาม ทุกวันนี้แพตยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้เลย ถ้าไม่มีแพสชั่น ไม่รัก ไม่มีความสุขกับมันจริงๆ ก็อยู่ยาก เพราะเราไม่ได้เป็นคนเลือกโอกาส แต่โอกาสจะมาเลือกเราผ่านการแคสต์ แคสต์ผ่านแล้วจะประสบความสำเร็จมั้ยอีกด้วยค่ะ

“มีคนถามเยอะมากค่ะ เรื่องโกอินเตอร์” แพตพูดต่อ “อยากไปค่ะ แต่อยากไปพร้อมกับหนังไทย เพราะรู้สึกว่าทั้งบทและภาษามันต้องโตมาในสังคมนั้น จริต วัฒนธรรม  และเซลส์ในร่างกายต้องเป็นแบบนั้น ถึงจะก้าวไปอยู่ในหนังเรื่องนั้นได้ ถ้าถามว่าตอนนี้ร่างกายแพตพร้อม 100% มั้ย ก็ตอบตอนนี้เลยว่าไม่ แต่ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลยสักวัน แพตจะทำตัวเป็นคนโง่พร้อมเรียนรู้เสมอค่ะ” 

Photographer: Pannatat Aengchuan

Videographer : Pasittha Rungareechairat

Fashion Director: Daneenart Burakasikorn

Makeup: Chinnakrit tanasontirach

Lipstick: Le Rogue Celine (01 Rouge Triomphe)

Hair: Guide Sahawat

Photographer Assistants: Kridsanapol Petjarus, 

Nuttapon Mansukphol, Tawin Manajit

Videographer Assistant: Yukontorn partying 

Stylist Assistants: Jetwat Viriyarat, Noppamas khomsom

Co-Ordinator: Akeera Sasungnern 

Other Articles