Wednesday, January 22, 2025

Bone Cuff กำไลไอคอนิกจาก Tiffany & Co. โฉมใหม่ฉลอง 50 ปี Elsa Peretti

ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการทำงานร่วมกัน Tiffany & Co. ได้เฉลิมฉลองให้แก่ดีไซเนอร์หญิง Elsa Peretti และมุมมองที่แตกต่างของเธอซึ่งพลิกมุมมองที่เรามีต่อจิวเวลรี่ 

ภาพถ่ายที่ทำให้ Elsa Peretti เป็นอมตะก็คือภาพถ่ายของช่างภาพเฮลมุต นิวตัน ในปี 1975 ที่ชื่อว่า Elsa Peretti as a Bunny เป็นภาพผู้หญิงที่ดูราวกับรูปปั้น ขาเรียวยาว สวมชุดเกาะอกกับถุงน่องตาข่ายขาดๆ สวมหน้ากากกระต่าย แถมยังสูบบุหรี่อย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ขณะยืนพิงระเบียงเพนต์เฮาส์ของตัวเองที่มองออกไปเห็นขอบฟ้าของเกาะแมนฮัตตัน เวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่ดีไซเนอร์และนางแบบผู้นี้ได้จากโลกนี้ไป เปเรตติเกิดที่ฟลอเรนซ์ในปี 1940 และใช้ชีวิตในลอนดอน ปารีส และบาร์เซโลนา ก่อนจะย้ายมายังนิวยอร์ก เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์จิวเวลรี่ Tiffany & Co. หลังจากที่มีโอกาสสัมภาษณ์เบื้องต้นและนำเสนอดีไซน์ซึ่งต่อมาได้กลายหนึ่งในผลงานไอคอนิก ซึ่งก็คือสร้อยคอพร้อมจี้รูปขวดที่มีดอกไม้ด้านใน เวอร์ชั่นทันสมัยเข้ากับชีวิตในเมือง เป็นดีไซน์ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ Bone Cuff 

เปเรตติคือมิวส์คนสำคัญของแฟชั่นดีไซเนอร์อย่าง ฮอลสตัน และจอร์โจ ดิ ซานต์แองเจโล ทั้งสองได้พบเธอในชุดสุดเซ็กซี่ก๋ากั่นที่ไนต์คลับสตูดิโอ 54 เปเรตติยังเคยออกแบบจิวเวลรี่และขวดน้ำหอมให้พวกเขาด้วย ผลงานแรกๆ ที่เธอออกแบบให้ Tiffany & Co. มีทั้งดีไซน์รูป Bottle, Open Heart และ Bean ซึ่งขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวที่วางขายในเดือนกันยายนที่แฟล็กชิปสโตร์บนถนนฟิฟธ์อเวนิว ส่วนคอลเลกชั่น Diamonds by The Yard ของเธอก็เปลี่ยนความคิดผู้หญิงว่าสามารถสวมใส่เพชรเวลาไหนก็ได้ และยังพลิกมุมมองต่อซิลเวอร์ว่าเป็นวัสดุหรูหรา

นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเดินทางตัวยง เธอมักกลับจากทริปในเอเชียและแอฟริกาพร้อมด้วยข้าวของมากมาย ทั้งเตียง หน้ากากชนเผ่าและจิวเวลรี่ ไปจนถึงกรงนกที่ช่วยต่อเติมจินตนาการให้เธอ การเดินทางยังนำพาให้เธอได้รู้จักคนเก่งๆ ทั้งในฮ่องกง ญี่ปุ่น สเปน อิตาลี และอเมริกา ตลอดจนช่างฝีมือเก่งๆ ที่เธอได้ร่วมงานด้วย สร้อยคอ Mesh อันโด่งดังก็มีที่มาจากการเดินทางไปยังเมืองชัยปุระ ส่วนกำไลแล็กเกอร์เกิดจากการที่ได้รู้จักกับเทคนิคอันน่าทึ่งของญี่ปุ่น สไตล์ที่ดูพลิ้ว เส้นสายธรรมชาติ และรูปทรงที่แฝงความเย้ายวนของเธอชนะใจเหล่าไอคอนในยุคนั้น ทั้งเกรซ โจนส์, เบียงกา แจ๊กเกอร์, โซเฟีย ลอเรน, มาริสา เบเรนสัน และมาร์โกซ์ เฮมิงเวย์ รวมถึงภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งได้นำผลงานของเธอไปเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่นถาวรใน The Met และ British Museum 

ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ที่เปเรตติได้ทำงานร่วมกับ Tiffany & Co. ทางแบรนด์จึงนำเสนอดีไซน์ไอคอนิกของ Bone Cuff ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ With love, Since 1837 ด้วย โดยผลงานใหม่นี้มีทั้งเวอร์ชั่นที่ใหญ่ขึ้นกว่าดีไซน์ดั้งเดิม และเวอร์ชั่น ประดับด้วยอัญมณี เช่น กำไล Bone Cuff ประดับเพชรพาเว่ ทับทิม และพลอยสีเจียระไนทรงหลังเบี้ย

กำไล Bone Cuff นี้ถือเป็นดีไซน์ไอคอนิกของแบรนด์ โดดเด่นสะดุดตาเป็นที่จดจำด้วยรูปทรงที่ดูเย้ายวนและงดงามรนาวประติมากรรม ทั้งยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์และพลังอำนาจ สามารถสวมใส่ได้ทั้งข้อมือซ้ายและขวา และพอดีเป็นหนึ่งเดียวกับข้อมือ จนได้ชื่อว่าเป็นผลงานสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จิวเวลรี่

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

12 ดีไซน์เครื่องประดับสุดไอคอนิกที่คุณควรรู้

Tiffany Titan ดีไซน์ใหม่ประดับมุกน้ำจืด ผลงานการออกแบบของ Pharrell Williams

ชีวิตที่ยิ่งเปล่งประกายของนักแสดงสาว แพทริเซีย กู๊ด

Tiffany & Co. ฉลองครบรอบ 50 ปีกำไลดีไซน์เก๋ Bone Cuff

Other Articles