ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แบรนด์เริ่มทยอยเข้าสู่โลกไฟน์จิวเวลรี่ โดยหนึ่งในนั้นคือ Bottega Veneta แฟชั่นเฮาส์จากอิตาลีซึ่งปัจจุบันอยู่ทิศทางการสร้างสรรค์อยู่ภายใต้การนำของ Matthieu Blazy ผู้สร้างสรรค์แฟชั่นและแอ็กเซสเซอรี่ด้วยเส้นสายเรียบง่าย ทันสมัย และงานฝีมือที่ไม่เป็นสองรองใคร
คอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่แรกจาก Bottega Veneta นี้ยังคงยึดมั่นในงานฝีมือชั้นสูงซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ และแคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉัยงเหนือของอิตาลี ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของแบรนด์ แต่ละชิ้นล้วนสร้างสรรค์ด้วยมือของช่างฝีมือในเมืองวิเซนซ่า ซึ่ง Bottega Veneta ได้เข้ามาเปิดสตูดิโอครั้งแรกเมื่อปี 1966 ทั้งยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเครื่องประดับทอง จนได้รับฉายาว่า City of Gold มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
เบลซีทำงานอย่างใกล้ชิดกับช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญในวิเซนซ่า ซึ่งหลายคนมีประสบการณ์ในงานฝีมือมากกว่า 25 ปี โดยเขาได้พัฒนาคอลเลกชั่นซึ่งมีทั้งรูปทรงออร์แกนิกและประติมากรรม โดยใช้ทองคำ 18 กะรัต และเพชรคุณภาพสูงสุด และในความคลาสสิกก็ยังแฝงด้วยลูกเล่น เช่น ชิ้นงานที่เน้นวอลุ่มแต่น้ำหนักเบา หรือการประดับเพชรหลากรูปทรงแบบพาเว่
ไฟน์จิวเวลรี่แรกนี้นำเสนออกมาเป็นสามธีม คือ Drop ซึ่งเป็นโมทีฟอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแบบงานประติมากรรมผสมผสานรูปแบบออร์แกนิก ในขณะที่ยังคงมีน้ำหนักเบาและละเอียดอ่อน Primavera ได้แรงบันดาลใจจากความงดงามของดอกไม้ป่า นำเสนอออกมาเป็นสร้อยคอ แหวน และตุ้มหู และ Catena ซึ่งนำแนวคิดมาจากแชนเดอเลียร์แอนทีคที่ขึ้นชื่อของเวนิซ และผสมผสานเข้ากับรูปทรงเครื่องประดับรุ่น Fin และ Twisted ของแบรนด์ นำเสนอออกมาเป็นสร้อยข้อมือโซ่ที่ถ้านำสองเส้นมาประกอบกันก็จะกลายเป็นสร้อยคอได้
คอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ของ Bottega Veneta จะวางจำหน่ายในบูติกหลักๆ ทั่วโลก
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
Bottega Veneta คอลเลกชั่น Spring/Summer 2025 : ความเรียบโก้ที่แฝงไปด้วยสนุกสนาน
\BOTTEGA VENETA เปิดตัวคอนเซ็บสโตร์แบบใหม่ล่าสุดที่เอ็มโพเรียม