“ฉากหลังทิวทัศน์ภูเขาสูง ต้นตะบองเพชร แขกที่คุ้นตาจากทุกมุมโลก” นี้อาจเป็นแค่คำบรรยายส่วนหนึ่งของบรรยากาศภายในแฟชั่นโชว์ของ Louis Vuitton MEN’S FALL-WINTER 2024 โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ฝั่งเสื้อผ้าผู้ชายอย่าง Pharrell Williams ที่คอลเลกชั่นนี้ถือเป็นคอลเลกชั่นที่ 3 ของเขากับ Louis Vuitton เบื้องหน้าก่อนเข้าโชว์ปรากฎป้ายตัวใหญ่ต้อนรับเราด้วยคำว่า “Paris Virginia” เรารู้ได้ทันทีว่าแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ Louis Vuitton และ Pharrell Williams จะพาเราไปยังดินแดนที่คุ้นเคยและนำเสนอกลิ่นอายของวัฒนธรรมที่งดงามถึงรากฐานที่เรียกว่า “คาวบอย”
จากปารีสสู่เวอร์จิเนียดินแดนบ้านเกิดของเขา ธีม American Western หรือ คาวบอย ถูกใช้เป็นธีมหลักในการเล่าเรื่องครั้งนี้ ตัวคอลเลกชั่นหลักๆเล่าถึงต้นกำเนิดของตู้เสื้อผ้าสไตล์คาวบอยสไตล์ Workwear ที่แฝงความเป็นชายที่มีอิสระเสรี กล้าผจญภัย และแข็งแกร่ง เสื้อผ้าบุรุษสไตล์เวสเทิร์น ผ่านไอเทมแต่ละชิ้นอาจจะคุ้นตาหลายๆคนไม่ว่าจะเป็น หมวกทรงคาวบอย, กางเกงขาม้าเดนิม หรือ กระเป๋าหนังประดับพู่ คุณภาพของชิ้นงานก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คอลเลกชั่นนี้ใช้หัตถศิลป์ชั้นเลิศตั้งแต่งานอัญมณีอันล้ำค่าไปจนถึงการลงสีด้วยมือและเทคนิคการปักโดยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเอกลักษณ์ของตัวเขาเองที่ทำให้ Louis Vuitton อย่าง Damoflage ที่ต่อยอดมาจาก 2 ฤดูกาลก่อนหน้า
ในคอลเลกชั่นนี้องค์ประกอบที่สื่อถึงความเป็น คาวบอย หนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นและสอดแทรกอยู่ในรุ่นเลยคือการใช้สี turquoise อยู่ในทั้งกระดุม ตุ้มหู และไอเทมสุดฮือฮาอย่างมากคือ เครื่องประดับฟันอย่าง กริลซ์ (Grillz)
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สื่อถึงความเป็น คาวบอย ก็คือลวดลาย “Parfleche” บนกระเป๋า Keepall ที่ลงสีด้วยมือซึ่งลวดลายบนภาชนะหนังดิบของชนพื้นเมืองอเมริกันที่ตกแต่งด้วยการทาสี การกรีด ผสมผสานพู่และอะไหล่ทองประดับบนกระเป๋า
สำหรับกระเป๋า Speedy คอลเลกชั่นนี้ Pharrell Williams ส่งให้กระเป๋ารุ่น Speedy ไปอีกเลเวลหนึ่ง โดยมีการใช้แมทริเรียลและสีสันที่ทำให้มีความหลายหลากและสนุกสนานมากขึ้น เช่น Monogram ในสีพื้นที่สด,ลวดลาย Damoflage,การใช้แมทริเรียล Exotic Skin และการปักลวดลาย Dakota Flower ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรากฐานที่สวยงามของธรรมชาติ นอกจากนี้ Dakota Flower ยังมีอยู่บนไอเทมอีกหลายชิ้นในคอลเลกชั่นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดตัวการทำงานรวมกันของ Louis Vuitton และ Timberland ที่ถือได้ว่าเป็นรองเท้า Workwear ไอคอนิกที่ใครๆก็ต้องนึกถึง ต้องจับตามองจริงๆสำหรับไอเทมนี้ว่าจะเป็นอย่างไร
นอกจากชิ้นงานแล้ว ฉากหลังและเพลงประกอบก็ยังเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ส่งให้ความเป็น American Western หรือ คาวบอย ชัดเจนและทำให้ผู้ชมเชื่ออย่างไม่มีข้อกังขา โดยเพลงที่ใช้ประกอบโชว์ที่มีการทำงานรวมกับศิลปินพื้นถิ่นอย่าง Dakota และ Lakota ชนพื้นเมืองอเมริกันในด้านเสียง การแสดงละครอีกด้วย อาทิ The Spirit of Saturday Night Live by the Native Voices of Resistance x Pharrell Williams (composed by Lakota “Hokie” Clairmont and Pharrell Williams),Good People by Mumford & Sons x Pharrell Williams, Shotgun Wedding by Pharrell Williams x Jelly Roll และ Doctor by Pharrell Williams x Miley Cyrus ที่เดบิวต์ในรันเวย์นี้
อย่างไรก็ตามนี้ถือเป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งของ Pharrell Williams ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Louis Vuitton ที่ใส่ใจในทุกดีเทล ทั้งงานเทเลอร์ลิ่งและสไตลิ่ง จนไปถึงการแสดงความเคารพต่อวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และคนพื้นถิ่นที่เขาได้หยิบยกเอาเรื่องราวในพื้นที่นั้นมาเล่าผ่านเสื้อผ้าได้อย่างลงตัว ต้องค่อยติดตามว่าเขาจะพา Louis Vuitton ไปในทางรุ่งโรจน์ได้เพียงใดต่อจากนี้