Tuesday, March 18, 2025

4 เรือนเวลาต่างบุคลิกจาก Audemars Piguet

ถึงเวลาอัพเดทคอลเลกชั่นนาฬิกาที่ช่วยเติมเต็มสไตล์ให้กับไลฟ์สไตล์ของสาวทันสมัยกันแล้ว ใครที่เป็นแฟนของ Audemars Piguet แบรนด์นาฬิกาสวิสจากเมืองเลอ บราซุส ต่อไปนี้คือผลงานใหม่ล่าสุดที่เราอยากแนะนำ

Royal Oak

ถ้าพูดถึงคอลเลกชั่นยอดนิยมที่ครองใจสาวก Audemars Piguet ก็ต้องยกให้กับ Royal Oak นาฬิกตัวเรือน 8 เหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ผลงานการออกแบบของเจรัลด์ เจนตา นักออกแบบผู้ยิ่งยง ผลงานรุ่นแรกผลิตจากสเตนเลสสตีล จึงตอบโจทย์กระแสความนิยมของตลาดที่มีต่อนาฬิกาลักชัวรีที่ผลิตจากสเตนเลสสตีลในยุคนั้น

ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี คอลเลกชั่นนี้ก็ได้วิวัฒน์ไปหลากรุ่นและกลายเป็นที่ปรารถนาของลูกค้าทั้งชายและหญิงเรื่อยมา ดังเช่นผลงานล่าสุด Royal Oak Selfwinding 34 มม.​ ตัวเรือนไวท์เซรามิกที่เหมาะกับข้อมือของหญิงสาวนำสมัย หน้าปัดลายตาราง Grande Tapisserie สีเงิน ตัดกับเข็มและมาร์กเกอร์พิงก์โกลด์ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ กำลังลานสำรอง 50 ชั่วโมง

Royal Oak Offshore 

Royal Oak Offshore ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1993 โดยพัฒนามาจากนาฬิกายอดฮิตตลอดกาลอย่าง Royal Oak โดยมาพร้อมตัวเรือนขนาดใหญ่ เอาใจคนรุ่นใหม่ ฟรองซัวส์-อองรี เบนนาห์เมียส ซีอีโอซึ่งเพิ่งจะเกษียณไปยังเคยกล่าวไว้ว่า “ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แปลกและแตกต่าง รวมถึงขนาด Oversized ของ Royal Oak Offshore ได้เปิดประตูสู่วัฒนธรรมสตรีตให้กับ Audemars Piguet และวงการนาฬิกาในวงกว้าง”

ในโอกาสครบรอบ 30 ปีของคอลเลกชั่นนี้ ทางแบรนด์จึงได้นำเสนอผลงานรุ่น Royal Oak Offshore Selfwiding Chronograph ขนาด 37 มม. หน้าปัดลายตาราง Lady Tapisserie ขอบตัวเรือนตกแต่งด้วยอัญมณี อย่างรุ่นนี้ ตัวเรือนผลิตจากพิงก์โกลด์ ตัดกับหน้าปัดสีดำสนิท และเสริมความเด่นด้วยขอบตัวเรือนประดับอัญมณ๊ไล่เฉดสีรุ้ง ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ กำลังลานสำรอง 40 ชั่วโมง

Royal Oak Offshore Music Edition

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding – Music Edition คือผลงานพิเศษทที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดนตรี ตกแต่งหน้าปัดลายตารางซึ่งเรียกว่า tapisserie ด้วยสีสันสุดป็อปของปุ่มและไฟต่างๆ บนอีควอไลเซอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในระบบเสียง มีหน้าที่ในการควบคุมและชดเชยย่านความถี่ของเสียงให้อยู่ในระดับสัญญาณที่เหมาะสม ตัวเรือนเซรามิกสีดำขนาด 37 มม. ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 5909 ซึ่งสำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง 

Code 11.59 by Audemars Piguet

CODE 11.59 by Audemars Piguet เผยโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2019 ทั้งยังเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ไม่ธรรมดา ทั้งการเลือกใช้กระจกหน้าปัดที่มีความสลับซับซ้อน ทำให้เกิดมิติพิเศษเมื่อมองจากมุมต่างๆ อีกทั้งการผสมผสานตัวเรือนชั้นกลางทรงแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และการออกแบบขาตัวเรือนแบบโอเพ่นเวิร์กเพื่อไม่ให้บดบังขอบข้างแบบแปดเหลี่ยม และที่ขาดไม่ได้ก็คือการขัดแต่งตัวเรือนด้วยเทคนิคต่างๆ อย่างประณีตบรรจง 

ล่าสุด ทางแบรนด์ได้เปดตัวขนาดใหม่ 38 มม. ซึ่งแม้ว่าจะมีขนาดหน้าปัดที่เล็กลง แต่นาฬิกาทั้งสองเรือนนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความงามของคอลเลกชั่นนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน โดดเด่นด้วยตัวเรือนพิงก์โกลด์ หน้าปัดประทับลายนูนที่นำเสนอรายละเอียดของการไล่ระดับสีได้อย่างโดดเด่น สร้างสรรค์โดยช่างกิโยเช่ชาวสวิสผู้ชำนาญ ยานน์ ฟอน ไคเนล (Yann von Kaenel) นำเสนอออกมาสองเฉดสีด้วยเทคนิคการเคลือบพีวีดี คือ สีม่วงและสีงาช้าง พร้อมสายหนังจระเข้โทนสีเดียวกัน เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาขัดเงาแบบใหม่ช่วยขับเน้นรายละเอียดที่ตัดกัน พร้อมเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง

Other Articles