ประวัติศาสตร์ของ Hermès (แอร์เมส) เริ่มต้นจากการผลิตอานม้ามาตั้งแต่ปี 1837 เนื่องจากตอนนั้นม้าคือพาหนะที่ใช้เป็นหลักในปารีส ก่อนที่เมซงจะค่อยๆ เติบโตและขยายไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ งานฝีมือชั้นสูง และความคิดสร้างสรรค์
ในปีนี้ Hermès ได้เปิดตัวนาฬิกาพกรุ่นใหม่ชื่อว่า Slim d’Hermès Pocket Masan Masan (ออกเสียงว่า สลิม แดร์เมส พ็อกเก็ต ม้าสาน ม้าสาน) ซึ่งตัวเรือน Slim d’Hermès นั้น ฟิลิปป์ เดโลตัล ได้ออกแบบไว้เมื่อปี 2015 นำแรงบันดาลใจมาจากม้า อันเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเมซง ตกแต่งเป็นลวดลายม้าสองตัวต่างเฉดสีแบบหยินหยางบนฝาหน้าปัดนาฬิกาพก
ฟังจากชื่อรุ่นนาฬิกา ‘ม้าสาน ม้าสาน’ หลายคนคงเดาถูกว่ามาจากภาษาไทย นั่นเพราะฝาปิดและหน้าปัดของนาฬิกาพกหนึ่งเดียวนี้ได้ผ่านการตีความใหม่มาจากลวดลายผ้าพันคอไหม ม้าสาน & ม้าสาน (Masan & Masan) ที่ออกแบบโดยนักออกแบบชาวไทย ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ทั้งยังได้ประยุกต์ศิลปะโบราณของงานถักขนม้ามาใช้เป็นเทคนิคการตกแต่งหลักโดยจำลองเสน่ห์การถักตุ๊กตาม้าผ้าตบชวาของไทย
ในการถักลวดลายลงบนฝาปิดและหน้าปัดนาฬิกา ช่างฝีมือจำเป็นต้องคัดสรรขนม้าอย่างพิถีพิถัน จากนั้นจึงนำมาตัด และบรรจงติดกาวทีละชิ้นทีละชิ้นลงบนฝาปิดและหน้าปัด เพื่อประกอบกันขึ้นเป็นลวดลายอันสวยงามละเอียดอ่อน จากการผสมผสานอย่างประณีตระหว่างความสว่างไสวและการตัดกัน ขณะที่ช่างแกะสลักเป็นผู้เนรมิตรูปร่างของม้าตัวที่สองให้ปรากฏขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา จากเทคนิคการสร้างภาพแบบนูนต่ำและมีมิติบนทอง ที่รังสรรค์ขึ้นโดยการใช้เพียงสิ่วและสลักตามประเพณีแห่งงานฝีมือดั้งเดิม
นาฬิกานี้ผลิตขึ้นเพียงหนึ่งเรือนเท่านั้น ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติบางพิเศษ Manufacture H1950 สำรองพลังงานได้ 45 มม. พร้อมทั้งประกอบคู่มากับสายเชือกหนังจระเข้ที่เสริมความโดดเด่นให้กับโทนสีทองของตัวเรือน