Casablanca ของ Charaf Tajer หนุ่มฝรั่งเศสที่มีเชื้อสายโมร็อกโค แบรนด์ที่โดดเด่นด้วยเสื้อผ้าที่มีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานพร้อมผสมสานวัฒนธรรมและกีฬาเข้าด้วยได้อย่างมีเสน่ห์ ได้เปิดที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย!

พร้อมนำเสนอ For the Peace เพื่อเฉลิมฉลองความเยาว์วัยอันสดใสของเหล่าผู้คนในประเทศซีเรีย เพราะชาวซีเรียไม่เพียงแต่ดำรงชีวิตไปตามวิถีเท่านั้น แต่พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างเต็มที่ และดื่มด่ำกับความรัก ความสุข อย่างเต็มอิ่ม ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวของ Charaf Tajer (ชาราฟ ทาเจร์) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ จึงเลือกเมืองดามัสกัสมาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ ให้เขาตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ ความงดงาม ตลอดจนงานศิลปะ และสามารถถ่ายทอดออกมาทั้งแง่มุมของเฉดสีที่หลาก แต่ยังครอบคลุมไปถึงมิติของแสงเงาและด้วยเหตุนี้เองคอลเลกชั่น AW23 For The Peace จึงได้ถือกำเนิดขึ้น


แต่แคมเปญที่เป็นตัวถ่ายทอดคอลเลกชั่นได้เลือกถ่ายทำในเบรุต ทำหน้าที่เป็นสื่อสะท้อนของเรื่องราวเหล่านี้ โดยบอกเล่าถึงความกล้าหาญและความเป็นมนุษย์ ทั้งยังมุ่งส่งเสริมให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ และความสามัคคีปรองดองกัน สงครามนำมาซึ่งการทำลายล้างและความสิ้นหวัง ทว่าภายใต้เงามืดแห่งความขัดแย้งนั้น ยังมีเรื่องราวที่เล่าขานถึงความแข้มแข็ง ส่วนจุดเริ่มต้นของแคมเปญนี้ได้เริ่มต้นจากเรื่องราวอันทรงพลังที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเลกชั่น ถ่ายทอดโดย Maya Chantout (มายา ชานเทาต์) ผู้กำกับศิลป์และเพื่อนของ Charaf Tajer ซึ่งว่าด้วยกลุ่มคนหนุ่มสาวธรรมดาๆ ที่ยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแสวงหาความสุข สำหรับพวกเขาที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวว่าจะถูกโจมตีอยู่เสมอ การจะมีโอกาสได้สังสรรค์กันสักครั้งต้องอาศัยทั้งความกล้าหาญและพลังต่อต้านมหาศาล Love Against War จึงบอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่เกิดขึ้นจริงในซีเรียที่ยังไม่เคยมีใครได้รับรู้ และเป็นเรื่องราวที่ซึ่งความงามและความหายนะอยู่คู่กัน

Maya Chantout ได้กล่าวถึงคอลเลกชั่นและความในใจของเขาว่า “เมื่อปี 2012 ฉันต้องลี้ภัยจากซีเรีย บ้านเกิดเมืองนอนของฉัน ด้วยเหตุผลจากสงคราม เหตุการณ์นั้นเป็นหนึ่งในเรื่องยากที่สุดที่ฉันเคยทำมา นับว่าฉันโชคดี แต่ฉันก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกผิดของการเป็นผู้รอดชีวิตได้ ฉันนับถือในความเข้มแข็งของเพื่อนๆ และความสามารถในการแสวงหาความหวังในรูปแบบใหม่ๆ ของพวกเขา ปู่ย่าของฉันไม่คิดจะจากบ้านไปเลยแม้แต่น้อย ปู่ของฉันยังคงอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลที่ดินและต้นมะกอกของเขา ส่วนย่าก็เลือกที่จะอยู่ต่อเพื่อปู่ ความเป็นมนุษย์ของท่านสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันในทุกๆ วัน พวกเขายังคงใช้ชีวิตกัน รักกัน และก้าวไปข้างหน้ากันแม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด พวกท่านสอนให้ฉันรู้จักถึงพลังแห่งความหวังและความสำคัญของการเห็นคุณค่าของชีวิตแม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด”–
“ปีที่แล้ว เพื่อนของผม มายา ได้เล่าเรื่องราวอันเหลือเชื่อเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวในซีเรีย ผู้พร้อมที่พร้อมจะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อค้นหาความสุข ให้ผมฟัง ผู้คนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามต่างก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ แต่พวกเขาสามารถฟื้นตัวจากวิกฤติทางการเมืองเพื่อใช้ชีวิตได้ นี่ล่ะคือเครื่องเตือนใจให้เรารู้จักเฉลิมฉลองและเห็นคุณค่าของชีวิตในทุกสภาวการณ์ ทั้งยังเป็นบทเรียนที่เราทุกคนควรเรียนรู้ตาม สิ่งสำคัญสำหรับเราในแคมเปญนี้คือการแสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งระหว่างการค้นหาความรักและความสวยงาม ท่ามกลางความเจ็บปวดและความเสื่อมสลาย มันง่ายที่เราจะมองโลกเป็นสีขาวดำ ดีและชั่ว ความสุขและความเจ็บปวด สงครามและสันติภาพ แต่ในความเป็นจริงนั้น เราต่างถูกรายล้อมไปด้วยความแตกต่าง สีสัน และเฉดสี” – กล่าวโดย Charaf Tajer ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์



ใครที่ชื่นชอบ Casablanca และสนใจอยากลองสัมผัสเสื้อผ้าที่มาแรงบันดาลใจพร้อมนำพาคุณโลดแล่นสู่การเดินทางพักผ่อนในไลฟ์สไตล์ต่างๆ กันได้แล้ว ณ Casablanca pop-up ครั้งแรกในประเทศไทยที่ SIWILAI Store ชั้น 5 ใน Central Embassy