Saturday, December 7, 2024

Les Mondes de Diptyque คอลเลกชั่นเทียนหอมสุดพิเศษที่จะพาคุณเข้าสู่โลกของ Diptyque อีกครั้ง

มาพร้อมแก้วเทียนแบบใหม่สุดเรียบหรู และยังเป็นครั้งแรกที่เทียนหอมของ Diptyque สามารถรีฟิลได้

เชื่อว่าใครที่รักเทียนหอมเป็นชีวิตจิตใจ จะต้องมีเทียนหอมของ Diptyque รุ่นใดรุ่นหนึ่งอยู่ที่ที่พักอาศัยของคุณอย่างแน่นอน ด้วยกิล่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ คุณภาพชั้นดี และแพ็กเกจจิ้งน่าสะสม มาปีนี คุณพร้อมหรือยังที่จะเพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับเทียนหอม Diptyque ของคุณ กับคอลเลกชั่นใหม่ Les Mondes de Diptyque

Les Mondes de Diptyque หรือแปลได้ว่าโลกของดิปทีค คอลเลกชั่นเทียนหอมใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับความพิเศษมากมาย ตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้านเทียนหอม กับงานสร้างสรรค์ชิ้นใหม่ที่ผสานเอาไว้ด้วยความสวยงาม ความเป็นเลิศด้านงานฝีมือและกลิ่นหอมเอาไว้ด้วยกัน พร้อมสะท้อนมุมมองด้านวัฒนธรรมกับ 5 สถานที่ที่หลายคนไม่รู้จักให้โลกได้สัมผัสผ่านโลกของกลิ่นหอม

บรรจุอยู่ในแก้วเทียนทรงวงรีสีสันสวยงาม เทียนหอมในคอลเลกชั่น Les Mondes de Diptyque มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบโดย Cristina Celestino ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานเครื่องแก้วได้โดดเด่น ออกมาเป็นแก้วเทียนที่เปรียบเสมือนกับเสาหินราวกับแลนด์มาร์กเพื่อเปิดประตูสู่โลกอันสวยงาม พร้อมด้วยฝาปิดแก้วเทียนที่ประทับตราของแบรนด์พร้อมชื่อกลิ่น โดยคุณสามารถใช้เป็นถาดรองเทียนได้เช่นกัน

อีกหนึ่งจุดเด่นของเทียนหอมคอลเลกชั่น Les Mondes de Diptyque คือการรีฟิลเทียนหอมกลิ่นโปรดของคุณได้ ส่วนผสมของเทียนมาจากแว็กซ์หลายชนิด ตัวเทียนสามารถเปลี่ยนได้ด้วยบล็อกท่ีออกแบบมาให้พอดีกับรูปทรงของบรรจุภัณฑ์ ทำให้สามารถรีฟิลเทียนได้ในเวลาที่ใช้หมดแล้ว เทียนรูปแบบใหม่น้ีจึงกลายเป็นวัตถุแห่งความหรูหราท่ียั่งยืน

The Scents

Nymphées Merveilles

เทียนเล่มแรกตั้งอยู่ใกล้กับเมืองมิลานในสวน ของ Villa Borromeo Visconti ด้านหลังซุ้มหินและต้นไม้เขียวขจี
สวนที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงาม มีภาพอันน่าทึ่งปรากฎข้ึน ถ้ำนางไม้แกะสลักจานวนนับไม่ถ้วนตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง ทาสีการสะสมของเปลือกหอยและกระเบื้องโมเสกจัดแสดงไว้เพื่อยืนยันถึงความหรูหราทางศิลปะและจิต วิญญาณแบบ Baroque ในยุคนั้น เมื่อคุณเดินไปตาม เส้นทางของ ‘สวนมหัศจรรย์’ ท่ีเรียงรายไปด้วยต้นส้ม
ท่ีบานสะพรั่ง เป็นเรื่องดีท่ีเราจะเติมความสดช่ืนให้ ตัวเองท่ีน้าพุ และลิ้มรสกลิ่นหอมสดช่ืนของผลไม้รส เปรี้ยวท่ีสุกภายใต้แสงแดดของอิตาลี บรรยากาศเหล่าน้ี เผยออกมาในกลิ่นหอมของเทียน เมื่อจุดเทียน Nymphées Merveilles (Nymphaeum of Wonders) สีฟ้าอมเทาแล้ว คุณจะเข้าสู่สวนอันน่า หลงใหลของพระราชวังยุคเรเนซองส์ ดื่มด่ำกับความงดงามของอิตาลีในศตวรรษท่ี 16 โดยให้ดวงอาทิตย์

La Forêt Rêve

อีกโลกหน่ึงท่ีรอคอยให้ค้นพบอยู่ในใจกลางป่าเม็กซิกันคือ Las Pozas สวนกล้วยไม้โบราณท่ีถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานท่ีศักดิ์สิทธิ์สาหรับพืชพรรณและงานศิลปะตามจินตนาการของนักสะสมและกวีชาว อังกฤษ Sir.Edward James สถานท่ีอันหรูหราและน่าหลงใหลซึ่งมีประติมากรรมคอนกรีตเหนือจริง ผสมผสานกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ La Forêt Rêve (Forest Dreams) เลียนแบบจิตวิญญาณแห่งความฝันและความแปลกใหม่ในองค์ประกอบของโน้ตท่ีน่าหลงใหล ภาชนะแก้วสีโกเมนมีกลิ่นของดอกไม้เมืองร้อนท่ีไม่สามารถระบุช่ือได้และไม่มีกลีบดอกเหมือนกันราวกับเป็นการรวมตัวกันของสายพันธ์ุทั้งหมดท่ีพบในสวนท่ีไม่ธรรมดาแห่ง น้ี ทั้ง Tuberose, Ylang-ylang, Jasmine, Vanilla และGalbanum เมื่ออจุดเทียน La Forêt Rêve แล้ว คุณจะได้ลิ้มลองความรื่นรมย์ของสวนเอเดนท่ีน่าอัศจรรย์น้ี ซึ่งเจาะลึกเข้าไปในใจกลางเขาวงกตของพืชเขตร้อน ราวกับว่าสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อม

Temple des Mousses

การเดินทางท่ีสามมุ่งหน้าสู่เกียวโตบนเนินเขาทาง ตอนใต้ของภูเขาอาราชิยามะ คุณจะพบกับวัดญี่ปุ่นท่ีมีสวนเซนซึ่งมีมอสท่ีหายากและ ละเอียดอ่อนกว่า 120 สายพันธุ์เติบโตท่ามกลางแสงราไรเพียงครึ่งหน่ึงของป่า Temple des Mousses (Moss Temple) บันทึกประสบการณ์และความงามน้ีผ่านการสร้างสรรค์ กลิ่นท่ีเน้นกลิ่นไม้ของมอสสีเขียวเปลือกไม้ และไลเคน บวกกับกลิ่นอันนุ่มนวลของมัทฉะท่ีชวนให้นึกถึงพรมท่ีเต็มไปด้วยพืชพรรณท่ีไม่น่าเช่ือน้ี
ความสงบและความอ่อนโยนของสถานท่ี ซึ่งเอื้อต่อการทาสมาธิและการครุ่นคิดได้รับการถ่ายทอดอย่างหรูหราบนหินสีเขียว เมื่อจุดเทียน Temple des Mousses และคุณจะได้รับสิทธิเข้าถึงความมหัศจรรย์ของสวนเซนแบบญี่ปุ่นท่ี
เคลื่อนตัวลึกเข้าไปในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติท่ีบริสุทธิ์เปรียบกับสิทธิพิเศษท่ีหายาก

La Vallée du Temps

La Vallée du Temps (Valley of Time) ดั่งการหลบหนีไปยังประเทศจีนท่ีนั่นในมณฑล เจียงซี เราพบจิงเต๋อเจิ้น เมืองแห่งทางแยก ระหว่างประเพณีกับกาลเวลามาบรรจบกัน แหล่งกาเนิดเครื่องลายครามจีนน้ี ซึ่งครั้งหน่ึงเคยใช้ “ทองคำขาว” ในการแลกเปลี่ยน ทั้งยังมีช่ือเสียงในเรื่องชาขาวท่ีปลูกในพื้นท่ีโดยรอบและการดื่มจากถ้วยท่ีเก่าแก่ตามหลักปฏิบัติ มาตรฐาน ผู้ท่ีเรียนรู้พิธี ‘Gong Fu Cha’ หรือ ‘การใช้เวลาดื่มชา’ เพื่อเข้าใจถึงวิธีการลิ้มรสอันละเอียดอ่อนท่ีมีอยู่ในชาอันล้าค่าน้ีด้วยกลิ่น หอมอันเป็นเอกลักษณ์และใบสีเงิน เมื่อจุดเทียน La Vallée du Temps
แล้วคุณจะค้นพบเวิร์กช็อปงานฝีมือท่ีมีอายุนับพันปี ตั้งอยู่ท่ามกลางสวน ชาเขียวขจีหวนให้นึกถึงการพบกันของรสชาติ
และแนวปฏิบัติของบรรพบุรุษในยุคปัจจุบันการวมกันของความงามอันเป็นนิรันดร์

Terres Blondes

การเดินทางของเรามาถึง Terres Blondes (Golden Lands) เวลาก็ถูกหยุดไว้สถานท่ีน้ีคือ Mesa Verde เป็นเมืองท่ีมีโครงสร้างหินตั้งอยู่ใต้หน้าผาท่ียื่นออกไปบนท่ีราบสูงในทะเลทรายของรัฐ โคโลราโด สร้างข้ึนเมื่อหลายศตวรรษก่อน โดยชนพื้นเมืองอเมริกันโบราณ ผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมเหล่าน้ีรู้วิธีควบคุมดินแดนสีเหลืองสดท่ีเป็นปรปักษ์ท่ีแห้งแล้งในฤดูร้อน และกลายเป็นน้าแข็งในฤดูหนาว เปลี่ยนให้เป็นท่ีพักพิงท่ีมีดินอันอุดมสมบูรณ์พืชธัญญาหารสุกงอมจนเหลืองอร่าม ทั้งข้าวโพด ถั่ว และผลสควอช ทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นสีทองราวกับแสงอาทิตย์ท่ีส่องประกายไปจนสุดขอบฟ้า ราวกับแก้วมณี สร้างข้ึนเพื่อเทียนเล่มน้ี เมื่อ จุดเทียน Terres Blondes เปรียบเสมือนคุณกาลัง หลบหนีเข้าสู่ดินแดนตะวันตกของอเมริกาอันยิ่งใหญ่ ท่องไปในดินแดนดั้งดิมและอุดมสมบูรณ์ ลิ้มรสสาย ลมอันอบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นการกลับคืนสู่รากเหง้า สู่แก่นแท้

Photos courtesy of Diptyque

Other Articles