เบลล่า-ราณี แคมเปน นักแสดงคุณภาพที่ฝีมือไม่เคยตก ไม่ว่าจะมีผลงานอะไรออกมาก็ได้รับเสียงตอบรับและถูกพูดถึงเสมอ นอกจากผลงานหลายต่อหลายเรื่องที่เราหลงรักตัวละครที่เธอเล่น ล่าสุดเบลล่าได้เผยความสามารถอีกด้านเป็นครั้งแรก นั่นคือการพากย์เสียงเป็นนางสีดาในภาพยนตร์แอนิเมชั่น ‘นักรบมนตรา: ตำนานแปดดวงจันทร์’ (Mantra Warrior: The legend of the eight moons) ที่เพิ่งลาโรงไปไม่นาน
แอนิเมชั่นแอ็กชั่น-ไซไฟเรื่องนี้เป็นฝีมือของคนไทย โดย RiFF Studio ได้หยิบยกเรื่องราวบางส่วนของรามเกียรติ์มาตีความใหม่ทั้งหมด บอกเล่าถึงมหาศึกสงครามระหว่างกองทัพแห่งองค์รามและจักรพรรดิทศกัณฐ์ที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานไม่รู้จักจบสิ้นในจักรวาลอีกห้วงมิติหนึ่ง
การเป็นนักพากย์ครั้งแรกในชีวิต ต้องเตรียมตัวอะไรบ้างคะ
“เรียกว่าเตรียมใจดีกว่าค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าไม่เคยพากย์หนังแอนิเมชั่นแบบนี้มาก่อน รู้สึกว่ามันน่าจะยากด้วย แต่ว่าเบลรู้จักกับพี่ผู้กำกับ (ตุลย์-วีรภัทร ชินะนาวิน) มาก่อน เห็นผลงานของเขาแล้วรู้สึกว่า โห คนไทยเจ๋งมากนะ แล้วหนังคือสวยงามอลังการมาก เบลรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งกับหนังเรื่องนี้ก็เลยตอบตกลง
“เบลไม่ได้ไปฝึกสกิลอะไรเพิ่มเติม ลุยหน้างานเลยค่ะ จะมีพี่ที่เป็นนักพากย์คอยแนะนำกำกับตลอด ซึ่งช่วยเบลเยอะมากๆ ก่อนหน้านี้เบลเคยได้พากย์หนังที่ตัวเองเล่นกับทีมงานนี้มาแล้วด้วย”
แล้วพากย์เสียงตัวละครที่เราแสดงเอง กับพากย์หนังแอนิเมชั่น ต่างกันไหมคะ
“ต่างมากเลยค่ะ เรียกว่ายากกันคนละแบบดีกว่า ถ้าพากย์เสียงตัวละครที่เราแสดงก็ต้องพากย์ให้ตรงกับที่เราเคยเล่นเอาไว้ แต่อันนี้คือมันใหม่หมดเลย ตัวละครก็ใหม่ เราต้องพากย์เป็นคนคนนั้น การใช้เอเนอร์จี้ในทุกๆ คำที่เปล่งออกมาต้องมีพลัง แล้วเราต้องทำยังไงให้เสียงของเรามันส่งภาพด้วย”
การเลือกใช้เสียงล่ะคะ เบลใช้เสียงปกติ หรือเฟ้นหาเสียงที่เหมาะกับตัวนางสีดา
“เป็นโทนเสียงของเบลค่ะ แต่เป็นโทนเสียงที่มีน้ำหนักมากขึ้น คือมันจะมีน้ำหนักในทุกๆ คำที่พูดออกไป แทนที่ปกติเราจะเน้นแค่คำสองคำในหนึ่งประโยค แต่อันนี้คือเน้นทุกคำ แล้วจะมีทอดเสียงตอนท้ายอีก ถ้าตื่นเต้นหรือกลัวก็จะใหญ่เข้าไปอีกสเต็ปหนึ่ง”
แล้วต้องแอ็กชั่นตามด้วยหรือเปล่า
“ต้องค่ะ โอ้โห! เบลเหงื่อแตก ตัวเปียกเลย เพราะใช้พลังเยอะมาก เราต้องจินตนาการว่ากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ การพากย์แบบนี้ต้องมีความเล่นใหญ่ เปรียบเหมือนถ้าเราร้องเพลงก็คือร้องโอเปร่า คือฟีลอย่างนั้นเลย”
คาแร็กเตอร์นางสีดาในเรื่องนี้เป็นคนยังไง อ่อนช้อย นุ่มนวล หรือร่วมสมัย
“ตัดภาพในวรรณคดีทิ้งไปเลย คาแร็กเตอร์นางสีดาในเรื่องถูกครีเอตขึ้นมาใหม่ เป็นนางสีดาที่มีความน่ารัก ชอบความสวยงาม มีความรักท่านพี่มาก เบลว่าเขาทำให้ดูเด็กด้วยค่ะ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีผู้ชายมาแย่ง แต่จะมีความการ์ตูนอยู่ในตัวแบบ ‘อย่าจับฉัน อย่าจับฉัน’ แต่ความจริงคือยังไม่มีใครโดนตัวนางเลย มีความเล่นใหญ่น่ะค่ะ”
ทักษะในการแสดงอันเก่งกาจของเรามีส่วนช่วยในการพากย์บ้างมั้ย
“โอ๋ย ขอบคุณค่ะ เบลว่ามันได้เรื่องจินตนาการ จินตนาการว่าสิ่งนี้ที่เรากำลังดูอยู่มันเกิดขึ้นจริงและเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะนำพาให้เราไปสู่ในซีนได้ เบลว่าสิ่งที่ยากคือการตามอารมณ์ของซีนมากกว่าค่ะ มันจะมีทั้งแอ็กชั่นและต้องอิมโพรไวส์เยอะ เบลว่าการควบคุมลม การจะเปล่งแต่ละคำให้ได้ทั้งประโยคด้วย อันนี้ก็ยาก”
พอเห็นผลงานของตัวเองแล้วรู้สึกยังไง
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเสียงเราค่ะ เพราะเบลไม่เคยใช้เสียงแบบนี้มาก่อนด้วย แล้วพอเสียงเราไปเข้ากับภาพ รู้สึกว่าดีจังเลย แทบจะยืนตบมือให้ตัวเอง ความจริงต้องขอบคุณทีมงานที่ช่วยให้เราทำสำเร็จ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีค่ะ เหมือนได้ทักษะเพิ่มมาอีกอย่างด้วย”
ถ้าสามารถสลับเสียงกับตัวการ์ตูนได้ อยากสลับกับใคร
“ขอสลับกับเซเลอร์มูนค่ะ เพราะเป็นการ์ตูนที่ชอบดูตั้งแต่เด็ก อยากรู้ว่าถ้าเรามีเสียงเป็นเซเลอร์มูนแล้วจะเป็นยังไง”
มีอะไรที่อยากลองทำอีกบ้างไหม นอกเหนือจากที่ทำมาตั้งหลายอย่างแล้ว
“ที่ยังไม่เคยทำเลยนะคะ ก็คือร้องเพลง ออกซิงเกิล เบลอยากทำนะคะ”
Photographer: Perakorn Voratananchai
Stylist: Piphacha Vonpiankul
