
PIAGET แบรนด์ลักชัวรี่จากสวิตเซอร์แลนด์นี้มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 150 ปี และโดดเด่นทั้งในเรื่องการสร้างสรรค์นาฬิกาและจิวเวลรี่ได้อย่างโดดเด่นสะดุดตาจนได้ชื่อว่า Maison of Extraleganza (ซึ่งมาจากคำว่า Extravagant กับ Elegant) ในปี้นี้ ทางแบรนด์ได้เดินหน้าบุกตลาดไทยอย่างเต็มกำลัง โดยมาพร้อมกับ 3 เซอร์ไพรส์ นั่นคือ การเปิดตัวบูติกแห่งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ สยามพารากอน การจัดนิทรรศการโชว์ชิ้นงานไฮจิวเวลรี่ตระการตากว่า 120 ชิ้น และการเปิดตัว Friend of Piaget คนแรกของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แก่ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์


ฟาติเมห์ ลาเลห์, ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์ของเพียเจต์ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับอาโปเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘เพียเจต์ โซไซตี้’ โดยเฉพาะความน่าตื่นเต้นครั้งใหม่ที่เราได้นำมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ และได้อาโปมาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันเด่นชัดของเขาที่สอดคล้องกับแบรนด์ เช่นเดียวกับเหล่าไอคอนในตำนานอย่าง แอนดี้ วอร์ฮอล หรือ ซัลบาดอร์ ดาลี – อาโปคือตัวแทนที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าที่จะแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ ทั้งยังมีทัศนคติที่สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแนวคิดให้กับทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา”
ลอฟฟีเซียลได้มีโอกาสร่วมชมนิทรรศการใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งมาใน Vibrant Nature และ Endless Radiance โดยมีชิ้นงานเด่นจาก 120 ชิ้นที่ถือเป็นไฮไลท์ อาทิ สร้อยคอ Celestial Ballet ที่หยิบยกแซฟไฟร์สีน้ำเงินและเพชร จำลองการเคลื่อนไหวของสายน้ำที่แปรเปลี่ยนไปแต่ละช่วงเวลา ซึ่งทีมนักอัญมณีศาสตร์ของเพียเจต์ใช้เวลามากกว่า 1ปี ในการเสาะหา สร้อยคอ Generous Laces ที่ถ่ายทอดสายน้ำอันคดเคี้ยวผ่านประกายงามของเพชรได้อย่างเหนือจินตนาการ และ Secret Watch Cuff ในชื่อ Exquisite Moments เรือนเวลาที่หลอมรวมความเชี่ยวชาญของเมซงแบบรอบด้าน โดยเฉพาะรูปแบบการฝังเพชรทรงมาร์คีส์ ที่ร้อยเรียงอย่างวิจิตรบรรจงเพื่อเลียนแบบขนนกขณะสยายปีกโบยบิน



นอกจากเมซงจะนำเรือนเวลาและเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงมาอวดโฉมแล้ว ยังนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เพียเจต์ส่งตรงมรดกล้ำค่ามากถึง 37 ชิ้น จาก Patrimony Collection มาจัดแสดงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยมีทั้งนาฬิกาซึ่งทำงานด้วยกลไกขนาดบาง P9 ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ นาฬิกาที่ผสมผสานไฮจิวเวลรี่ประดับด้วยหินสีบนหน้าปัด ไปจนถึงนาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาวแบบ Sautoir ผลงานเก่าแก่ที่ทำขึ้นในยุค 1960s
“เรารู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำนิทรรศการไฮจิวเวลรี่มาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ให้แขกคนสำคัญทั้งจากไทยและภูมิภาคได้ชม ซึ่งนอกจากจะได้ตื่นตากับผลงานไฮจิวเวลรี่กว่า120 ชิ้นแล้วมรดกทางประวัติศาสตร์บางส่วนจากPatrimony Collection ที่ไม่เคยเผยที่ไหนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน ก็ถูกรวบรวมมาไว้ที่นิทรรศการแห่งนี้เช่นกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แบ่งปันความเชี่ยวชาญและมรดกอันชวนหลงใหลของเมซงให้ทุกท่านได้สัมผัส” เอ็มมานูเอล คูอาคู, กรรมการผู้จัดการเพียเจต์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียกล่าว





ความเอ็กซ์คลูซีฟยังไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อ Piaget ยังได้จัดงานกาล่าดินเนอร์ HIGH JEWELLERY GALA DINNER โดย ‘อาโป’ ได้ร่วมปรากฏตัวในงานกาล่าดินเนอร์เฉลิมฉลองการมาเยือนของนิทรรศการ และภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญของแบรนด์มากมาย อาทิ ฮวังอินยอบ นักแสดงหนุ่มจากเกาหลีใต้, ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น จากประเทศไทย, ชา อัลยาห์ยาจากประเทศมาเลเซีย และ เวเลิฟ เวเซีย จากประเทศอินโดนีเซีย
โดยภายในงานเสิร์ฟเมนูที่ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการแสดงพิเศษและแฟชั่นโชว์เครื่องประดับ ก่อนจะปิดท้ายด้วยบทเพลงสุดพิเศษที่จัดมาเพื่อความบันเทิงเริงใจเพื่อ Piaget Society โดยเฉพาะ