หลายคนในที่นี้น่าจะเคยเห็นคำว่า ‘Upcycled’ มาไม่มากก็น้อย ตั้งแต่ Louis Vuitton, Stella McCartney, Chloé ไปจนถึง ‘Upcycled by Miu Miu’ ที่ได้ออกมา upcycled ผลงานชิ้นเก่าๆ ของตัวเองในอาร์ไคฟ์และนำมาใส่ไว้ในคอลเลกชั่นใหม่


คำว่า ‘Upcycled’ หากอิงจาก พจนานุกรมเคมบริดจ์ (Cambridge Dictionary) มีความหมายว่า “การทำเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของใหม่โดยการนำของเก่า ของใช้แล้ว หรือวัสดุเหลือใช้มาหยิบใช้ใหม่” ซึ่งอย่าสับสนระหว่าง ‘Recycle’ กับ ‘Upcycle’ เพราะไม่เหมือนกันและมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ การรีไซเคิลนั้นคือการทำลายของเก่าเพื่อนำมาสร้างสิ่งใหม่ ในขณะที่อัพไซเคิลเป็นการนำของเก่ามาสร้างสิ่งใหม่โดยที่ยังคงสภาพเดิมของสิ่งนั้นๆ ไว้อย่างดีที่สุด…
หากเปรียบแฟชั่นเป็นภาพยนตร์ การนำเรื่องเก่าๆ มาฉายซ้ำก็คงเป็นเทรนด์ของวงการนี้
วงการแฟชั่นนั้นชอบการฉายซ้ำ—ตั้งแต่วัฏจักรของเทรนด์ ไปจนถึงการตีพิมพ์ซ้ำ และการเพิ่มขึ้นของคอแฟชั่นสายวินเทจ รวมไปถึงหนึ่งในปัจจัยเคร่งเครียดที่สังคมปัจจุบันให้ความสำคัญกันจริงจังมากขึ้น นั่นก็คือแนวคิด ‘การรักษ์โลก’ เรียกได้ว่าหากแบรนด์ไหนผันตัวมาสนใจเรื่องนี้ก็จะได้คะแนนใจจากผู้คนอย่างล้นหลาม และเพราะเหตุนี้เทรนด์การอัพไซเคิลนั้นจะคงมีต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

ส่วนที่มาที่ไปของกระบวนการรวมไปถึงคำว่า ‘อัพไซเคิล’ นั้นจากที่ ลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์ได้ทำการค้นหาข้อมูล และพบว่าตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแฟชั่น สำหรับคำว่า Upcycling ถูกยกขึ้นมาโดยดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน Dapper Dan of Harlem ในปี 1990 ซึ่งเขาได้นำเสื้อผ้าเก่าที่ลูกค้าส่งมาให้ปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อดีไซน์ที่แปลกใหม่ รวมไปถึงไซส์และสไตล์ของลูกค้าด้วย เขาพบวิธีการนำของเก่ากลับมาทำใหม่โดยที่ดูดีกว่าเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเหตุนี้ทำให้ดีไซเนอร์คนต่อๆ มาหันกลับมาคิดและทบทวนกระบวนการสร้างสรรค์ของพวกเขาใหม่เช่นเดียวกัน จนเกิดเป็นเทรนด์อย่างที่เห็นในทุกวันนี้