ต้อนรับฤดูกาลไปกับนักแสดงสาวรุ่นใหม่ พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี ในลุคแฟชั่นเรียบเท่เฉียบคม แฝงความขบถ ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะและงานสถาปัตย์สุดโมเดิร์น แมตช์กับกับจิวเวลรี่หลากคอลเลกชั่นจาก Cartier แบรนด์ระดับตำนาน สะท้อนถึงมุมมองแฟชั่นที่ทั้งอิสระ สง่างาม และร่วมสมัย
Writer: Anya Wan

จากนักแสดงเด็กที่มีโอกาสเข้ามาสัมผัสงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงวันนี้ในวัย 19 ปี พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี เติบโตมาเป็นหนึ่งในนักแสดงคุณภาพของสังกัด GMM TV ที่ยังคงเสน่ห์ความน่ารักสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งฝีมือในการแสดงก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอดูจะไปได้ดีมากๆ ในเส้นทางบันเทิง แค่ดูจากยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมที่มีถึงหลักล้าน ก็คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะว่าผู้คนชื่นชอบเธอมากแค่ไหน
พรีมเริ่มต้นจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง ‘ตุ๊กแกรักแป้งมาก’ (2557) ‘ของขวัญ’ (2560) และยังฝากฝีไม้ลายมือทางการแสดงละครไว้ในเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ ในบทแม่เดือน ลูกสาวของแม่หญิงจันทร์วาด ก่อนจะมีผลงานซีรีส์เรื่องแรกอย่าง ‘Blacklist นักเรียนลับ บัญชีดำ’ แต่มาโด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างมากจากซีรีส์เรื่อง ‘F4 Thailand: หัวใจรักสี่ดวงดาว Boys over Flowers’ และล่าสุดในปี 2566 พรีมได้เวียนกลับมาร่วมงานกับนักแสดง/นายแบบสุดฮ็อตอย่างวิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร อีกครั้ง ในซีรีส์เรื่อง ‘Enigma คน มนตร์ เวท’ ซึ่งเป็นบทบาทที่น่าสนใจและมีหลายคนจับตามอง ขณะเดียวกันในชีวิตอีกด้าน เธอเพิ่งจะเข้ามาเป็นนิสิตจุฬาฯ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต เรียกได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่ท้าทายอยู่ไม่น้อย เรามาทำความรู้จักพรีมให้มากขึ้นถึงเบื้องหลังความสวยและเก่งของเธอกัน


ในบทบาทการแสดงที่เคยเล่นมา พรีมชอบบทไหนมากที่สุด เพราะอะไร
“ตอนนี้มีสองบทที่ชอบมากๆ ค่ะ บทแรกคือ เกรซ จาก Gifted Graduation รู้สึกว่าบทนี้ท้าทายความสามารถพรีมมาก ทั้งเรื่องของบทและการแสดง คือบทมันยาวมาก ต้องจำเป็นพารากราฟเลย และก็มีศัพท์เทคนิคศัพท์เฉพาะที่บิดไม่ค่อยได้ เลยต้องเป๊ะมาก เป็นตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องเล่นเป็นคนอายุ 30 เข้ามาสิงร่าง
“และอีกบทก็คือ ใหม่ ในเรื่อง Good Old Days เขามีความเป็นมนุษย์มากที่สุดที่พรีมเล่นมา คือช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องเคยผ่าน พรีมต้องถ่ายทอดโมเมนต์นั้นให้คนดูรู้สึกตามได้จริงๆ ก็เป็นอีกผลงานที่พรีมค่อนข้างชอบมากค่ะ”
ช่วยเล่าความรู้สึกในผลงานล่าสุด Enigma และการได้มาเป็นนางเอกคู่กับวิน-เมธวิน
“โห เรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายมากกับเรื่องจินตนาการ เพราะเป็นเรื่องราวแบบ surrealistic หรือความเหนือธรรมชาติ เกี่ยวกับเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ เลยต้องทำเวิร์กช็อปนู่นนี่เพื่อหาเครื่องมือในการดึงมาใช้เวลาเข้าซีน มันยากเพราะไม่ใช่สิ่งที่เราเจอในชีวิตประจำวันน่ะค่ะ
“ดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่วินอีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันตอน F4 ตอนนั้นเราไม่ได้เข้าซีนกันเยอะ แต่เรื่องนี้เรารู้จังหวะ รับส่งอารมณ์กันได้ดีมากขึ้น เชื่อว่าทุกคนจะว้าวกับบทนี้ของพี่วิน แบบไม่เคยเห็นมาก่อน และรู้สึกว่าเขาจะกินเก่งขึ้น (หัวเราะ) คือพรีมกับพี่วินชอบกินทุเรียนเหมือนกัน ก็อาจจะมีปาร์ตี้ทุเรียนบ้างในกอง”

มีบทบาทที่ใฝ่ฝันอยากเล่นไหม
“อยากเล่นบทแอ็กชั่น แบบเรื่อง My Name มีความบู๊นิดนึง รู้สึกว่ามันเท่มาก น่าเล่น หรืออีกบทก็คือแบบคนที่เย็นชา ลึกลับหน่อยๆ ท้าทายในการแสดงออก ที่จริงพรีมคิดว่าตัวเองเป็นคนค่อนข้างลุยนะ ไม่ได้หวานมาก แต่เราอาจจะพูดน้อย คนเลยมักจะคิดว่าเป็นลุคหวานๆ”
ถามถึงเรื่องเรียนบ้าง ตอนนี้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ทำไมถึงเลือกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี แล้วแบ่งเวลาการเรียนกับการทำงานยังไง
“มีความสนใจด้านนี้ค่ะ อนาคตอยากทำธุรกิจ เร็วๆ นี้ก็ฝากติดตามนะคะ อาจจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ ส่วนเรื่องเรียนด้วยทำงานไปด้วย เราก็ต้องจัดการเวลาดีๆ ค่ะ แต่ทางกองก็ช่วยดูให้ด้วย เช่น จะไม่ให้คิวชนกับวันสอบ บางครั้งวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดยาวที่คนส่วนใหญ่ได้หยุดพักหรือไปปาร์ตี้กัน ส่วนเราอาจจะมีถ่ายงานหรือไม่ก็อ่านหนังสือสอบในช่วงนั้น เพราะถ้าไม่ใช้ช่วงเวลานี้มันอาจจะไม่ทัน”
รู้สึกอย่างไรที่มีผู้ติดตามในโซเชียลเป็นหลักล้าน คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองที่ทำให้มีคนเข้ามาติดตามมากมายอยู่ตรงไหนคะ
“ไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะ…เพราะอะไรเหรอคะ (หัวเราะ) หลักๆ ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่มาติดตาม รู้สึก appreciate มากกับทุกยอดทุกคอมเมนต์เลย”


การมีผู้ติดตามเยอะทำให้วิธีคิดในการเล่นโซเชียลเราเปลี่ยนไปไหมจากเมื่อก่อน มีอะไรต้องระวังหรือเปล่า
“พรีมว่าเราต้องคิดก่อนเสมอในการจะทำอะไร แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็น common sense อยู่แล้วค่ะ ไม่ได้จะต้องระวังอะไรมากไปกว่าปกติ คือเราจะพูดหรือทำอะไร เราต้องคิดก่อนอยู่แล้ว
“ด้วยอาชีพที่เราทำ ออนไลน์ก็เป็นเนเจอร์ที่เราจะต้องอยู่กับมันอยู่แล้ว คือเราอยู่กับออนไลน์ตลอดเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เราต้องอย่าไปหมกมุ่นกับมันมากค่ะ ต้องรู้จักใช้ออนไลน์ให้เป็น แล้วพยายามไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง อย่างตอนนี้พรีมชอบอ่านหนังสือ มันก็ช่วยผ่อนคลายเราได้ดีเหมือนกัน แล้วก็จะไปออกกำลังกายด้วย ช่วงนี้กำลังอิน ชอบฟีลลิ่งหลังออกกำลังกาย มันทำให้เราเฟรชทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งพอเราได้เริ่มออกกำลังกาย มันก็จะเชื่อมโยงให้เราหันมาดูแลเรื่องอาหารให้ดีขึ้นด้วย เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเองค่ะ ทุกคนก็สามารถหาสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะคนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน พรีมเองเป็นคนที่สนใจเรื่องสุขภาพ เรื่องบิวตี้อยู่แล้ว คิดว่าการดูแลตัวเองก็คือการรักตัวเอง ถือว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่ทำเพื่อตัวเอง”
สนใจแฟชั่นตั้งแต่เมื่อไร
“ตั้งแต่ได้ลองถ่ายแบบค่ะ มันสนุกที่ได้ลองหลายๆ สไตล์ และเห็นว่าเราแมตช์กับสไตล์นั้นสไตล์นี้แล้วเป็นยังไง พรีมสนุกมากค่ะ”

สไตล์การแต่งตัวที่อธิบายตัวตนของเราได้ดี
“พรีมไม่ได้มีสไตล์ที่ฟิกซ์ขนาดนั้นค่ะ มันแล้วแต่มู้ดช่วงนั้นด้วย แต่ถ้าถามถึงช่วงนี้ พรีมกำลังอินกับเสื้อผ้าวินเทจค่ะ พวกเสื้อผ้ามือสอง หรือเสื้อผ้าตอนคุณแม่ยังสาว เราเคยเอามาลองดูแล้วก็ เออ สวยดีนะ มันก็ยังใส่ได้วนไป บางชิ้นไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ แต่ลองเอาของเดิมมามิกซ์แอนด์แมตช์ดู มันก็สวยได้ค่ะ”
ดูเหมือนว่าพรีมใส่อะไรก็สวย อยากรู้ว่ามีลุคแบบไหนที่ไม่เข้ากับเราไหม
“(หัวเราะ) โห เขินเลยค่ะ คือก็มีเหมือนกันนะคะ ตรงที่พรีมเป็นคนร่างเล็กและผอม จะมีบางชุดที่ใส่ออกมาแล้วสัดส่วนของบอดี้อาจจะดูไม่เวิร์กหรือไม่เหมาะ เป็นเรื่องของรูปทรงค่ะ”
รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์คาร์เทียร์
“คาร์เทียร์เป็นแบรนด์ไฮจิวเวลรี่ที่เราชื่นชอบอยู่แล้ว ยิ่งพอได้มาทำงานร่วมกัน ทุกอย่างสมูธ ผลงานออกมาน่าพึงพอใจมากค่ะ แฮปปี้”

พรีมมีทริกในการเลือกเครื่องประดับอย่างไรให้แมตช์กับเสื้อผ้า หรือเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละโอกาสอย่างไร
“อย่างแรกต้องดูกาลเทศะก่อนว่าเป็นโอกาสอะไร เรากำลังจะไปที่ไหน ต่อมาอาจจะดูว่าวันนี้เราอยากใส่อะไรเป็นหลัก ถ้าสมมติเรามีหนึ่งอย่างที่อยากใส่ ชิ้นอื่นๆ มันก็จะตามมาค่ะ”
เครื่องประดับช่วยเสริมสร้างความมั่นใจหรือ empower เราในแง่ไหนบ้าง
“พรีมชอบนาฬิกาค่ะ รู้สึกว่าใส่แล้วคอมพลีตลุคมากขึ้น มีเล็งของคาร์เทียร์เอาไว้เหมือนกัน มีรุ่นในใจที่อยากได้คือนาฬิกา Tank หน้าปัดเหลี่ยมดูเท่ ทะมัดทะแมง กับ Panther ที่สวย มีพลัง ชอบมากเหมือนกันค่ะ แต่จริงๆ แล้วขึ้นชื่อว่าเครื่องประดับก็ชอบหมดล่ะค่ะ เพราะช่วยเสริมบุคลิกภาพ เป็นสิ่งที่บอกตัวตนเราได้ดี และ empower ให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นด้วย”
ตั้งเป้าหมายในอนาคตเรื่องการงานอย่างไร
“ในส่วนของงานบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์หรืออะไรก็ตาม พรีมอยากผลิตผลงานที่มีคุณภาพ เพราะว่าคนดูหรือแฟนคลับตั้งตารอชม เราอยากให้เกียรติเขาด้วยการทำผลงานที่ดีที่สุดออกมา
“ส่วนเรื่องของธุรกิจ โปรเซสอาจจะใช้เวลาหน่อย เพราะพรีมเป็นคนที่ละเอียด อยากจะ launch อะไรที่เราชื่นชอบหรืออธิบายความเป็นตัวตนของเราจริงๆ พรีมรู้สึกว่าการที่เราจะทำอะไรสักอย่างออกมา มันเชื่อมโยงกับอะไรอีกหลายๆ อย่างเลย แฟนคลับน่าจะมีโอกาสได้เห็นเร็วๆ นี้ค่ะ”
Photographer: Napat Gunkham
Fashion Editor: Watcharachai Nun-ngam
Makeup: Sapsiri Siriwong
Hair: Promya Bangpong
Photographer Assistants: Anan Eiammee, Rattana Phetsuk,
Saran Wannaphurk
Stylist Assistants: Junjira Wangaug, Panitan Subongkot