ไต้หวัน จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปเที่ยว ด้วยเหตุผลว่าเดินทางสะดวก นั่งเครื่องแค่สองชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว และที่สำคัญมีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกเยอะมาก อาหารก็อร่อย ช็อปปิ้งก็เพลิน หลายคนไปมาหลายครั้งแล้วยังหาโอกาสดอดไปเที่ยวอยู่เนืองๆ เพราะอยากเปิดหูเปิดตาไปกับมุมมองใหม่ที่ค้นหาเท่าไรก็ไม่รู้จบ ถ้าคุณชอบเมืองที่มีความสงบ เรียบง่าย งดงามด้วยธรรมชาติเกินคาด ขอป้ายยาว่าควรไปเยือนเมืองไทเปและนิวไทเป ซึ่งรุ่มรวยด้วยเสน่ห์แบบไม่ปรุงแต่ง
เถาหยวนเป็นเมืองทางเหนือของไต้หวัน แม้จะไปช่วงหน้าร้อน อากาศก็ไม่อบอ้าวร้อนผ่าวเหมือนโดนเผาอย่างบ้านเรา สถานที่ที่ควรแวะไปคือ วัดเสียไห่เฉิงหวง (Xia Hai-City God Temple) ปกติจะมีทั้งคนไต้หวันและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเคารพสักการะไม่ขาดสาย เพื่ออธิษฐานขอพรเรื่องความรักจากเทพเจ้าเยว่เหล่า สำหรับคนไหนที่ยังไร้คู่ก็มาขอท่านได้ ส่วนถ้าใครมีคู่ตุนาหงันอยู่แล้วก็สามารถขอให้ความรักของตนยั่งยืนยาวนานได้เช่นกัน เมื่อจุดธูปขอพรเรียบร้อยแล้วให้ปักไว้ด้านนอกตามธรรมเนียมของวัด แล้วค่อยเดินชมด้านในที่สวยงามเต็มไปด้วยเทพเจ้าหลายองค์ ถ้าอ่านภาษาจีนออกคงจะได้เกร็ดความรู้ไม่น้อยจากวัดที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปีแห่งนี้
จุดหมายถัดมาคือ ตลาดท่าเรือต้าเต้าเฉิง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน สามารถเดินมาตาม ถนนตี๋ฮว่า (Dihua Street) ระหว่างทางมีร้านขายสินค้าจำพวกสมุนไพร ขนม อาหารแห้งอย่างโสม รังนก ฟีลคล้ายเยาวราชบ้านเรา ย้อนไปในปี 1851 ย่านนี้เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในไทเป เป็นแหล่งค้าขายใบชาและผ้าอีกด้วย ปัจจุบันอาคารพาณิชย์สองชั้นบนถนนตี๋ฮว่าส่วนใหญ่ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ บางร้านออกแบบตัวตึกให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นชัดเจนว่าสินค้าลือชื่อของร้านเป็นอะไร เรียกว่าจกตาไม่หลงไปผิดร้านแน่นอน อย่างร้านเก่าแก่ในรูปด้านบนที่ขายโสมมานานหลายชั่วอายุคน เป็นการดีไซน์ที่ล้ำมากในยุคสมัยนั้น จนถึงวันนี้ก็ยังคลาสสิกร่วมสมัย
หลังกำแพงสูงที่เพนต์เป็นลวดลายเรือสำเภาคือ ตลาดท่าเรือต้าเต้าเฉิง (Dadaocheng Wharf) แหล่งฮิปสุดชิลของคนไต้หวันและนักท่องเที่ยว ผู้คนจะเริ่มหนาตาในช่วงเย็น บ้างก็ปั่นจักรยานผ่านฉิวไป อารมณ์ประมาณว่านี่คือทางสัญจรระหว่างที่ทำงานกับบ้านฉัน (สโลว์ไลฟ์ดีแท้) บ้างก็ตั้งใจแวะมานั่งรับลมชมแสงสุดท้ายของตะวัน ร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างทยอยกันเปิดต้อนรับลูกค้าที่มานั่งชิลรับลมริมแม่น้ำสายใหญ่ ซึ่งมีชื่อว่า ตั้นสุ่ย เดิมทีที่แห่งนี้เคยเป็นย่านการค้าหลักในการขนส่งทางเรือ แม้กาลเวลาจะผ่านไปแสนนาน ทว่าชาวไต้หวันก็มิได้หลงลืมอดีต แต่กลับยิ่งเพิ่มคุณค่า สังเกตได้ว่าวันเสาร์อาทิตย์จะคึกคักเป็นพิเศษ และทุกวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ของไต้หวัน ท้องฟ้าจะสว่างไสวไปด้วยพลุที่จุดเฉลิมฉลองให้กับทุกคนที่มีความรัก
อีกหนึ่งความประทับใจแบบไม่คาดคิดว่าการมาไต้หวันช่วงเดือนพฤษภาคมจะได้เจอความงดงามน้ำตาเอ่อขนาดนี้ เทศกาลทุ่งดอกไม้ไฮเดรนเยีย ในอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park) เชื่อว่าไม่มีใครไม่หลงรัก เพราะนอกจากมีวิวสวยมากมายให้ถ่ายรูปแล้ว อากาศยังเย็นสบายเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เหมาะกับการอยู่นิ่งๆ สูดโอโซนบริสุทธิ์ ซึมซับพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ไม่แปลกใจเลยที่หยางหมิงซานถูกยกให้เป็นเพชรน้ำงามของไต้หวัน
ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของไต้หวันยังไม่หมด เราไปต่อที่ อุทยานภูเขาสิงโต เพื่อชมหินคู่ ‘สามีภรรยา’ ซึ่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนรูปร่างเหมือนกับสามีภรรยาจับมือกันตามเรื่องเล่าในตำนาน การไปยังจุดชมวิวต้องเดินเท้าขึ้นไปตามความลาดชันของภูเขาประมาณ 800 เมตร ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปจะสวนกับกลุ่มผู้สูงวัยที่เดินกลับลงมา ท่าทางดูกระฉับกระเฉงแข็งแรง ไม่ต้องง้อให้ลูกหลานเดินประคอง นี่กระมังยาอายุวัฒนะของพวกท่าน นึกแล้วอยากให้เมืองไทยอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้ทุกเพศทุกวัยได้ออกกำลังกายเหมือนบ้านเขาบ้างจัง เพราะอุทยานบ้านเราก็สวยงามไม่แพ้ใคร
ใช้พลังไปกับการเดินจนเมื่อย ขอแวะแช่เท้าในแบบฉบับคนไต้หวันซะหน่อย บ่อน้ำพุร้อนหวงกวั่ง หรือน้ำพุร้อนทองคำ เป็นแบบเอาต์ดอร์ทั้งหมดสามบ่อ แต่ละบ่อมีป้ายบอกอุณหภูมิของน้ำไว้ให้เลือกตามความฮาร์ดคอร์ ระดับความสูงของน้ำอยู่ประมาณเข่า ดูเหมือนที่นี่จะมีคนท้องถิ่นเป็นขาประจำ อาจจะเพราะปวดเมื่อยตัวหรืออยากยืดเส้น เลยเห็นหลายคนเอาผ้ามาปูนอนตามกระดานหิน อาศัยไอร้อนระอุของน้ำพุด้านล่างบำบัด ช่างเรียบง่ายสบายใจกันดีจัง
- วัดเสียไห่เฉิงหวง เปิดทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น. สามารถเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) หรือรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงสถานี Taipei จากนั้นต่อรถไฟฟ้าไทเป (Taipei MRT) มาลงสถานี Shuanglian และต่อรถบัส Taipei City หมายเลข 811 หรือรถบัสสายสีแดง หมายเลข 33 มาลงป้าย Dihua St.
- ถนนตี๋ฮวา มาแถบนี้ทั้งทีควรแวะลองชิมขนมดั้งเดิมที่คนไต้หวันเรียกว่า ตั้นจ่ายเมี่ยน และหลู่โร่วฟ่าน ด้วยนะ
- ตลาดท่าเรือต้าเต้าเฉิง สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT (สายสีเขียว) ลงสถานี Beimen ทางออก 2 หรือ MRT (สายสีส้ม) ลงสถานี Daqiaotou ทางออก 1 และเดินต่อประมาณ 15 นาที
- เทศกาลทุ่งดอกไม้ไฮเดรนเยีย ช่วงเวลาที่ดอกไม้บานสะพรั่งเหมาะกับการท่องเที่ยวคือช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมของทุกปี
- อุทยานภูเขาสิงโต มีเส้นทางเดินป่าที่นักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์โปรดปราน ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ด้านบนยอดเขาสามารถมองเห็นหินราชินีเยว่หลิว และฝั่งท่าเรือประมงหวงกั่ง รวมถึงสิ่งมหัศจรรย์แห่งชายฝั่ง 3 จุด ได้แก่ เกาะเชิงทียนคู่ จับปลาด้วยไฟกำมะถัน และชมวิวแสงจันทร์สะท้อนน้ำ
- บ่อน้ำพุร้อนหวงกวั่ง มีสีน้ำตาลคล้ายกับสีชา เนื่องจากมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่มาก เมื่อสัมผัสกับอากาศทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีอย่างที่เห็น บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี และฟรี! อีกต่างหาก
ใครที่มีแพลนไปเที่ยวไต้หวัน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง แนะนำให้กรอก Online Arrival Card ล่วงหน้าก่อนเดินทาง 30 วัน (https://niaspeedy.immigration.gov.tw/webacard/) ติดตามข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดได้จากสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ผ่านทาง https://www.taiwantourism.org/th/ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook: Taiwan Tourism Bureau