นับตั้งแต่ปี 1906 เป็นต้นมา เพชรได้มีส่วนร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับเมซง แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เพลส์มาโดยตลอด ล่าสุดในคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ Legend of Diamonds ซึ่งดำเนินมาถึงบทที่สอง ทางเมซงตั้งใจเชิดชูเพชรขาวหรือเพชรน้ำ อัญมณีน้ำงามเปล่งประกายอันไร้กาลเวลา
Legend of Diamonds – White diamond variations นำเสนอมนตร์เสน่ห์ของเพชรขาว สัญลักษณ์ของความสะอาดบริสุทธิ์และความเป็นนิรันดร์ โดยคัดสรรมาเฉพาะเพชรที่ได้มาตรฐานชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงบาแก็ตต์ ทรงมาร์คีส์ ทรงเหลี่ยมกุหลาบ และทรงหยดน้ำ เพื่อนำมาร้อยเรียงเป็นชิ้นงาน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์โลกนับตั้งแต่ยุคต้นศตวรรษที่ 20 เรื่อยมาจนถึงทศวรรษที่ 1970 ผสมผสานเข้ากับมรดกตกทอดของเมซง ไม่ต่างไปจากการถักทอ และร้อยเรียงเหตุการณ์แต่ละช่วงทางประวัติศาสตร์ ก่อนสะท้อนเรื่องราวผ่านแต่ละหน้าตัด และเหลี่ยมมุมเจียระไนของเพชร สุดยอดอัญมณีที่คงความงดงามเหนือกระแสความนิยมแห่งยุคสมัยตราบนิรันดร์
หนึ่งในผลงานเด่นของคอลเลกชั่นนี้คือ สร้อยคอ Roaring Twenties และตุ้มหู Chrysler ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อยุค 1920s โดยนำแรงบันดาลใจมาจากสไตล์สร้อยคอเส้นยาวที่ออกแบบมาเพื่อให้กลมกลืนกับชุดกระโปรงแฟล็ปเปอร์ ซึ่งเป็นที่นิยมของเหล่าสุภาพสตรีในแวดวงสังคมชั้นสูงยุคนั้น (ลองนึกภาพตัวละครในนิยาย The Great Gatsby ก็ได้)
ภาพความงามนั้นได้รับการถ่ายทอดสู่ผลงานร่วมสมัย บริเวณสายสร้อยทั้งสองข้างของ Roaring Twenties ประดับเพชรใหญ่เล็กร้อยเรียงกันไป พร้อมด้วยโมทีฟโรสโกลด์ประดับเพชร ทวีความหรูหราอลังการดุจจุดรวมสายตาด้วยจี้ประดับเพชรคุณภาพระดับ DIF Type 2A อันบริสุทธิ์งดงามหาได้ยากยิ่ง ดั่งจะเห็นได้จากประกายกระจ่างสุกใสในน้ำเพชร 4.46 กะรัต เจียระไนเป็นทรงเหลี่ยมกุหลาบเล่นหน้าตัดสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสำหรับรับแสงตกกระทบ ส่งให้แสงสะท้อนไปมาตามเหลี่ยมมุมในเนื้อเพชร ทอประกายงดงามจนมิอาจละสายตา ไม่เพียงเท่านั้น ตัวจี้ยังห้อยเพชรทรงหยดน้ำขนาด 10.32 กะรัต โดยมีเส้นระย้าเพชรทิ้งสายกรุยกราย ชวนให้นึกถึงพู่ชายครุยที่ประดับชายชุดเดรสชาร์ลส์ตันซึ่งสะบัดพลิ้วไปมาอย่างงดงามขณะเต้นรำ จุดเด่นของสร้อยคอเส้นนี้คือ transformability ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของเมซง โดยสามารถดัดแปลงสวมใส่ได้หลากหลายสไตล์รวม 8 รูปแบบ โดยสามารถแยกชิ้นเป็นสร้อยคอสั้นสามแบบ ปรับระดับเป็นสร้อยคอยาวได้สามแบบ และลดทอนเป็นสร้อยข้อมือได้อีกสองเส้น
รูปทรงเรขาคณิตกับรายละเอียดเส้นตรงสลับเหลี่ยมมุมตัดก่อเกิดลูกเล่นขัดแย้งกับเส้นโค้งเส้นเว้ายังถูกสะท้อนผ่านงานออกแบบตุ้มหู Chrysler ซึ่งตั้งชื่อตามหนึ่งในตึกระฟ้าอันโด่งดัง และมีความสำคัญที่สุดแห่งมหานครนิวยอร์กเจ้าของสมญา ‘อัญมณีระฟ้า’ และเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมยุคอาร์ตเดโค ผลงานการออกแบบโดยสถาปนิกวิลเลียม แวน อเล็น ด้วยความสูงกว่า 1,000 ฟุต รองรับพื้นที่อาคาร 77 ชั้น ครองตำแหน่งสัญลักษณ์สำคัญของดินแดนแห่งเทพีเสรีภาพมานับตั้งแต่ปี 1939 ได้ถูกจำลองแบบรังสรรค์เป็นตุ้มหู ประกอบด้วยชิ้นส่วนฝังเพชรลูกทรงกลมเรียงแถวประกบขนาบเพชรหยดน้ำไล่ระดับถึงสี่ชั้น ขึ้นโครงสร้างตัวเรือนฉลุโปร่ง เอื้อต่อการรับแสงส่องผ่านรอบทิศทางเพื่อให้ไฟในน้ำเพชรแต่ละเม็ดเพิ่มระดับความสว่างตระการตา เฉกเช่นคราวที่อาคารสูงเสียดฟ้าต้นแบบแรงบันดาลใจได้สร้างความตื่นตะลึงแก่คนทั้งโลกในวันเปิดตัว
