

นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1839 Patek Philippe ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นาฬิการาวกับเป็นงานศิลปะเสมอ ดังเช่นผลงานล้ำค่าหาชมยากเหล่านี้ที่สร้างสรรค์ตกแต่งด้วยเทคนิคหัตถศิลป์เก่าแก่ที่นับวันยิ่งหาผู้เชี่ยวชาญได้ยาก ซึ่งถือหนึ่งในวิธีการของเมซงในการสืบสานให้มรดกของภูมิปัญญาเหล่านี้ได้รับการสืบทอดไปยังเจเนอเรชั่นต่อๆ ไป
ในระหว่างเข้าร่วมงานแสดงนาฬิกา Watches & Wonders ซึ่งจัดขึ้นที่นครเจนีวานั้น เราได้มีโอกาสแวะไปที่ Patek Philippe Salons ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการ ‘Rare Handcrafts 2023’ ซึ่ง Patek Philippe จัดขึ้นจนเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมประจำปีไปแล้ว โดยภายในงานนี้ได้คัดสรรผลงานสร้างสรรค์งานฝีมือที่หาได้ยากเกือบ 70 ชิ้นมาจัดแสดงให้ผู้สนใจได้สัมผัสกับความวิจิตรงดงามด้วยตาของตนเอง


ผลงานเหล่านี้ประกอบด้วยนาฬิการูปทรงโดม รวมทั้งรูปทรงโดมขนาดเล็กจำนวน 22 เรือน นาฬิกาตั้งโต๊ะ 3 เรือน นาฬิกาพกจำนวน 12 เรือน และนาฬิกาข้อมืออีก 30 เรือน แต่ละชิ้นล้วนงดงามประณีตด้วยเทคนิคการประดับตกแต่งนาฬิกาที่ Patek Philippe ตั้งใจธำรงและสืบสานอย่างต่อเนื่องนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งการแกะสลักด้วยมือ การสลักลวดลายด้วยมือแบบกิโยเช่ การตกแต่งพื้นผิวด้วยเทคนิคมาร์เก็ตทรี การประดับอัญมณี และการลงยาอีนาเมลซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการลงยาด้วยความร้อนสูง การลงยาเป็นลวดลายด้วยการเดินเส้นทอง cloisonné หรือการสลักพื้นผิวก่อนถมสีแบบ champlevé ไปจนถึงการระบายสีรูปภาพขนาดเล็ก


ผลงานชิ้นเด่นในครั้งนี้มีทั้งนาฬิกาพก ‘Leopard’ Ref. 995/137 J-001 ประดับอัญมณีและตกแต่งด้วยวูดมาร์เก็ตทรีโดยใช้ไม้ขนาดเล็กถึง 363 ชิ้น และการฝังประดับ 50 ชั้นด้วยไม้ชนิดต่างๆ จำนวน 21 ประเภท รวมถึงการแกะสลักด้วยมือ และการเคลือบลงยาอีนาเมลแบบ champlevé รวมทั้งคอลเลกชั่นที่เชิดชูเกียรติแก่ตำนานอันยิ่งใหญ่ สำหรับการผจญภัยของมวลมนุษย์ ในกลุ่มของนาฬิกาที่อุทิศให้กับรถแข่ง ซึ่งรวมถึงนาฬิกาข้อมือ Calatrava Ref. 5189G-001 รุ่น ‘1948 Nations Grand Prix’ และนาฬิกาข้อมือ Calatrava Ref. 5189G-011 รุ่น ‘1956 Alpine Rally’ ที่งดงามด้วยหน้าปัดซึ่งรังสรรค์ร่วมกันโดยวิธีการเคลือบลงยาแบบ cloisonné และการเคลือบลงยาอินาเมลแบบ paillonné


