
ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ End of Days ของปี 1999 มีฉากหนึ่งที่นักแสดงนำ Arnold Schwarzenegger สวมใส่นาฬิกา Royal Oak Offshore จากเครื่องบอกเวลาชั้นสูง Audemars Piguet จนนาฬิกา ref. 25770SN ได้รับการเรียกขานว่ารุ่น End of Days และที่ถือเป็นผลงานสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่างแบรนด์และนักแสดงดัง และเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือสร้างสรรค์เรือนเวลาร่วมกับเหล่าเซเลบริตี้จวบจนถึงปัจจุบัน
อันที่จริง คอลเลกชั่น Royal Oak Offshore เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1993 สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยสัดส่วนของเรือนเวลาอันมหึมา (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร และความหนาของตัวเรือน 14.04 มิลลิเมตร) และใช้เวลากว่า 2-3 ปีกวาจะครองใจผู้คนหลากหลายวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสร้างสรรค์ร่วมกับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ “การร่วมมือสร้างสรรค์ Royal Oak Offshore End of Days ในปี 1999 กับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์นั้น ทำให้คอลเลกชันนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะผู้คนในวัฒนธรรมสตรีท นั่นจงเป็นเหตุผลที่เราเลือกนาฬิการุ่นนี้ให้เป็นต้นแบบอย่างไร้ข้อกังขา” ฟรองซัว-อองรี เบนนาห์เมียส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอเดอมาร์ ปิเกต์ กล่าว

ในวาระครบรอบ 30 ปีของคอลเลกชันในปีนี้ Audemars Piguet ได้นำเสนอนาฬิกา Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph รุ่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากรุ่นปี 1999 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่พลิคโชคชะตาของคอลเลกชัน พร้อมฉลองให้กับสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพกับคนดังจากวงการบันเทิง ดนตรี และกีฬาไปพร้อม ๆ กัน
ผลงานใหม่นี้มาพร้อมตัวเรือนขนาดใหญ่พิเศษ 43 มิลลิเมตร สร้างสรรค์ขึ้นจากแบล็กเซรามิกทั้งหมดพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมของไทเทเนียม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของหมุด ปุ่มกด และฝาหลัง นอกจากนี้ยังมีสกรูที่รังสรรค์ขึ้นด้วยสตีลอีก 8 ชิ้น เพื่อยึดขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมให้ติดกับตัวเรือน โดยเรือนเวลารุ่นนี้มีน้ำหนักเบาและรับกับสรีระได้อย่างลงตัว แม้จะมีสัดส่วนที่ค่อนข้างใหญ่ (น้ำหนักโดยรวมเพียง 103 กรัมเท่านั้น) หน้าปัดสีดำตกแต่งด้วยลวดลาย Mega Tapisserie เจเนอเรชันใหม่ และความโดดเด่นของสัมผัสจากสีเหลืองบนมาตรวัด tachymeter รวมถึงบนเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกา Royal Oak ไวท์โกลด์เคลือบดำและแต้มด้วยวัสดุเรืองแสงสีเหลือง โลโก้ AP สีทองโดดเด่นอยู่บริเวณ 12 นาฬิกา โดยมีหน้าปัดย่อยสีดำซึ่งอยู่บริเวณตำแหน่งบอกเวลา 3, 6 และ 9

นาฬิกาเรือนนี้ยังมาพร้อมคาลิเบอร์ 4401 ซึ่งเป็นกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติแบบ column wheel และฟังก์ชันฟลายแบ็กล่าสุดจาก Audemars Piguet สามารถถูกรีเซ็ตและเริ่มต้นการจับเวลาใหม่ได้ง่าย ๆ จากการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว ปุ่มกดยังถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ออกแรงกดอย่างเบามือเท่านั้น จึงช่วยเสริมความโดดเด่นภายใต้หลักสรีรศาสตร์ของนาฬิกาเรือนนี้ให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นไทเทเนียมของฝาหลังยังสลักคำว่า “Limited Edition of 500 Pieces” ไว้ด้วย