Sang Bleu ซึ่งก่อตั้งโดยศิลปิน Maxime Plescia-Buchi ไม่ได้เป็นเพียง tattoo studio เท่านั้น แต่ยังรับทำหนังสือ แม็กกาซีนออนไลน์ ผลิตเสื้อผ้า ออกแบบฟอนต์ เป็นครีเอทีฟเอเจนซี่ และร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์นาฬิกาสวิส อูโบลท์ (Hublot) ซึ่งร่วมมือกันมาตั้งแต่ปี 2014
ผลงานล่าสุดนี้มีชื่อว่า Spirit of Big Bang Sang Bleu เป็นผลงานแห่งความร่วมมือครั้งที่สาม การนิยามขึ้นใหม่ให้กับเส้นสายต่างๆ ของ Spirit of Big Bang โดยไม่ทำให้สูญเสียซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิการูปทรงถังเบียร์นี้ แต่ได้มอบซึ่งบุคลิกใหม่ ด้วยงานออกแบบเชิงพื้นที่ใหม่ รวมถึงมีมิติมากขึ้นในเชิงสถาปัตยกรรม โดยเผยผ่านรูปทรงเรขาคณิตและความสมมาตร

ผลงานใหม่นี้มาพร้อมตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม. ที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้ตัวเลือกของสามวัสดุ ได้แก่ Titanium (200 เรือน), All Black ceramic (200 เรือน) หรือ King Gold (100 เรือน) เช่นเดียวกับผลงานอีกสองรุ่นซึ่งประดับตกแต่งด้วยเพชร 180 เม็ด น้ำหนักรวมประมาณ 2.4 กะรัต ในเวอร์ชัน Titanium และ King Gold โดยยังคงถ่ายทอดไว้ด้วยลวดลายสักเชิงเรขาคณิตที่สลับและซ้อนกัน นับตั้งแต่จากตัวเรือนสู่ขอบตัวเรือน พร้อมหน้าปัดแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟสเกเลตัน HUB4700 (เอชยูบี4700) ผ่านเข็มชี้แบบดิสก์ที่ประทับไว้ด้วยรูปเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับ Sang Bleu
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะสามารถรับกับส่วนโค้งของข้อมือขนาดต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ฝาหลังของตัวเรือนรวมถึงกระจกแซฟไฟร์จึงถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความโค้งในหลายจุด ขณะที่ในแง่ของความสามารถในการอ่านค่าบนหน้าปัดนั้น โครงสร้างของเข็มได้ถูกเสริมประสิทธิภาพของการแสดงเวลาได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์แสดงชั่วโมงและนาทีที่ได้รับการปรับให้มีความประณีตยิ่งขึ้น




มักซิมกล่าวว่า “ความร่วมมือของผมกับ Hublot เป็นเหมือนการสร้างบ้านหรือโครงการเชิงสถาปัตยกรรม Spirit of Big Bang Sang Bleu จึงเปรียบเป็นผนังด้านที่สามของโครงสร้างที่มีร่วมกันนี้ และได้สร้างซึ่งความหมายอันสำคัญของแลนด์มาร์ก ในฐานะบ้านที่เราได้ร่วมกันสร้างขึ้นอย่างมั่นคงในวันนี้และสอดคล้องตามปณิธานของเรา หลังจากที่ได้สร้างเอกลัษณ์ให้กับ Big Bang มาแล้ว กระบวนการสร้างสรรค์ของผมในวันนี้ได้ต่อยอดสู่รูปแบบใหม่ และนี่คือคอลเลกชั่นใหม่ ในรูปทรงถังเบียร์แห่ง Spirit of Big Bang ผมได้มีโอกาสตั้งคำถามและทบทวนในทุกส่วนประกอบ นับจากตัวเรือนจนถึงกระจกแซฟไฟร์ จากสายจนถึงตัวพับล็อกสายพิจารณาถึงแต่ละรูปทรงและสัดส่วนผ่านการสะท้อนแบบองค์รวม โดยมีเป้าหมายคือการผสาน DNA ของ Big Bang Sang Bleu II มาสู่ Spirit of Big Bang Sang Bleu ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือความสวยงามเชิงเรขาคณิตที่คล้ายกัน กับการตีความขึ้นใหม่ของรูปทรงและปริมาตร ผลงานสร้างสรรค์นี้ได้ถูกนำทางโดยรูปทรงที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบ ผสานสัมพันธ์ และเหลื่อมซ้อนกัน เป็นงานออกแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์หนึ่งเดียว ขณะเดียวกันก็เสริมไว้ด้วยเสน่ห์ด้านการยศาสตร์สำหรับผู้สวมใส่”