ปลายเดือนกุมภาฯ เราได้ไปเยือน ‘หลวงพระบาง’ หนึ่งในเมืองที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางมาประเทศลาว ราวกับได้ย้อนเวลามาเห็นความสวยงามของกรุงเทพฯ ในอดีต ได้สัมผัสธรรมชาติ เห็นความเรียบง่ายของผู้คน และอมยิ้มทุกครั้งที่มีคนมาทักทาย “สะบายดี” ด้วยท่าทีเป็นมิตร
“หลวงพระบางไม่มีไฟเขียวไฟแดงครับ” ความอเมซิ่งดอกแรกที่ได้ยินจากปากของ เตี้ย พนักงานหนุ่มที่เล่าถึงบ้านเกิดของเขาให้ผู้มาเยือนรับรู้ระหว่างทางขณะขับรถพาเรามา โรสวูด หลวงพระบาง (Rosewood Luang Prabang) โรงแรมระดับลักชัวรี่ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 15 นาที แอบนึกอิจฉาคนหลวงพระบางที่ไม่เคยเครียดกับรถติด

โรสวูด หลวงพระบาง เป็นรีสอร์ตแห่งที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือ Rosewood Hotels & Resorts® เปรียบเสมือนบ้านหลังงามในพงไพรที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ด้วยฝีมือของบิล เบนสลีย์ สถาปนิก/นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง พรรณไม้น้อยใหญ่ต่างผลิใบเติบโตอย่างอิสระ โอบล้อมด้วยความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ทั้งน้ำตกที่ไหลผ่านกลางรีสอร์ต และโตรกลำธารเล็กๆ คดโค้งไหลรินทุกวันคืน ห้องพักที่มอบความเป็นส่วนตัวทั้งหมด 23 หลัง แบ่งเป็น ห้องดีลักซ์ 4 ห้อง ห้องสวีท 4 ห้อง วิลล่าริมน้ำ 3 ห้อง พูลวิลล่า 6 ห้อง และเต็นท์หรูบนไหล่เขาที่มองเห็นวิวสวยจากมุมสูง 6 หลัง ความตื่นตาก็คือทุกห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลย!



ห้องพักแต่ละห้องได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยคอนเซ็ปต์เมืองบนเนินเขาของลาวในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ประดับด้วยของแอนทีคไม่ซ้ำแบบ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้พื้นเมืองและงานศิลปะจากท้องถิ่น ภายใต้ธีมที่แตกต่างซึ่งได้แรงบันดาลใจจากบุคคลสำคัญในยุคอดีตที่เคยเกี่ยวข้องกับหลวงพระบาง อาทิ Louis Delaporte นักสำรวจ/นายทหารเรือชาวฝรั่งเศสผู้เคยสำรวจแม่น้ำโขงเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว, Ernest Hebrard สถาปนิก/นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส และ Henri Mouhot นักธรรมชาติวิทยา เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นของลาวและโคโลเนียลสไตล์ ภายในห้องพักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันเฉกเช่นโรงแรมหรูห้าดาว พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำส่วนตัว และอ่างอาบน้ำไม้กลางแจ้ง




ห้องอาหารหนึ่งเดียวของที่นี่ชื่อว่า The Great House รายรอบด้วยที่นั่งสบายๆ รับอากาศธรรมชาติ พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าไปจนถึงเย็นค่ำ ด้วยเมนูคาวหวานพื้นเมืองแสนอร่อยจากวัตถุดิบท้องถิ่น รวมไปถึงเมนูที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารที่เคยเสิร์ฟในพระราชวังหลวง โดยเชฟมากฝีมือชาวลาว หลายเมนูมีความคล้ายคลึงกับบ้านเรา ส่วนรสชาติบอกได้เลยว่ายังติดใจมาจนถึงวันนี้ ส่วนใครที่โปรดปรานค็อกเทลจะต้องชอบมุมนั่งชิลของ Elephant Bridge Bar บาร์ที่วางตัวอยู่เหนือแม่น้ำซึ่งในอดีตเคยเป็นทางสัญจรของช้าง เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ควรลองคือ Lao Punch และอีกหลากหลายเมนูเด็ด โดยมิกโซโลจิสต์นามว่า น้อย ชายหนุ่มที่อินกับการมิกซ์ส่วนผสมชั้นดีเข้ากับสมุนไพรอย่างพิถีพิถันจนกลายเป็นความว้าวอย่างไม่ต้องสงสัย



อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Sense Spa สปาที่อบอวลไปด้วยความผ่อนคลาย ผสานการปรนนิบัติแบบลาวซึ่งมีประวัติยาวนานกับเทคนิคของตะวันตกไว้ด้วยกัน ความฟินเริ่มบังเกิดตอนเอนตัวนอนคว่ำหน้า และอเมซิ่งยิ่งกว่าก็คือพื้นกระจกใสที่มองเห็นธารน้ำไหล เพลินตาเพลินใจจนเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว คงมีแต่ สม เทอราพิสต์สาวสวยที่เห็นอาการ เราแอบยกให้เธอเป็นมือวางอันดับหนึ่งไปแล้วเรียบร้อย สมบอกว่าที่นี่ทำลูกประคบเอง พร้อมกับชี้ให้ดูพืชสมุนไพรซึ่งปลูกไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
นอกเหนือจากความสะดวกสบายที่มีในโรงแรมแล้ว เมืองมรดกโลกของยูเนสโกแห่งนี้ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเที่ยวเล่นในเมือง ชมวัดวาอารามที่มีมนตร์ขลังงดงามทางสถาปัตยกรรม แวะชิมอาหารลาวแท้ๆ หรือจะลองไปเดินป่า (Hiking) เพื่อพิชิตน้ำตกตาดกวางสี หนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นความเอ็นจอยที่เกิดขึ้นบนเส้นทางสิบกิโลนิดๆ นำทีมเดินป่าโดย น้อย หนึ่งในพนักงานโรสวูด หลวงพระบาง ผู้เลื่อมใสคำสอนของพระพุทธเจ้าตัวยง ถ้าใครมาพักที่นี่ แนะนำให้ลองท้าทายพละกำลังตัวเองดูสักครั้ง แล้วอย่าลืมเตรียมรองเท้าผ้าใบไปด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำดื่ม เพราะทางโรงแรมเตรียมให้เสร็จสรรพ รวมทั้งของขบเคี้ยวระหว่างทางอีกด้วย และที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ นั่งเรือล่องแม่น้ำโขงชมวิวพระอาทิตย์ตก บนเรือหรู Sunset Cruise ของโรสวูด หลวงพระบาง ด้วยบริการสุดประทับใจ แท็กทีมโดย จัน น้อย บุญมี พร้อมอาหาร ผลไม้ ไวน์รสเลิศ แถมยังมีไวไฟบนเรืออีกต่างหาก
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เพิ่งจะเข้าใจสำนวนนี้อย่างแจ่มแจ้งในเช้าตรู่ของวันที่ออกจากโรงแรมไปตักบาตรข้าวเหนียว ต่อด้วยเดินชมตลาดเช้า ตื่นตากับอาหารท้องถิ่น บ้างก็หน้าตาแปลก บ้างก็คุ้นชินแต่อร่อยกว่าที่เคยกินมา ไม่รู้ว่าหิวหรือเป็นเพราะบรรยากาศ…แต่ที่แน่ๆ สีสันของหลวงพระบางไม่ใช่แสงสียามค่ำคืน หากแต่เป็นแสงแดดยามเช้า วิถีชีวิตเรียบง่ายของผู้คน วัฒนธรรมประเพณี มิตรไมตรี และแม่น้ำโขงที่ยังคงความบริสุทธิ์งดงาม
- เยี่ยมชมเว็บไซต์และจองห้องพัก โรสวูด หลวงพระบาง ได้ที่ www.rosewoodhotels.com/en/luang-prabang เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม @rosewoodluangprabang ติดต่อโรงแรมโดยตรง โทร. +856 7121 1155 หรืออีเมล luangprabang@rosewoodhotels.com
- ทางโรงแรมมีบริการรถรับ-ส่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในกรณีที่ต้องการไปตักบาตร ชมตลาดเช้า หรืออยากไปนั่งคาเฟ่ในเมือง
- ไม่จำเป็นต้องแลกเงินบาท เพราะทุกร้านรับธนบัตรไทย แต่ร้านส่วนมากจะไม่รับเศษเหรียญ
- ขอขอบคุณทุกๆ มิตรภาพที่ร่วมอยู่ในช่วงเวลาอันมีค่าต่อใจ