น้ำชา-ชีรณัฐ คัมแบ็ก! แจกความสดใสครั้งใหม่ผ่านซิงเกิล ‘ชาบู (Cha Boo!)’

“ตอนนี้ชากลับมาทำเพลงนะคะ หลังจากห่างหายไปหลายปีมาก” น้ำชา-ชีรณัฐ ส่งยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกสดใสอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปเนิ่นนานพร้อมกับตัวเธอ การได้กลับมาทำสิ่งที่เธอรักมากๆ ทำให้ฟีลกู๊ดอย่างนี้นี่เอง ปัจจุบันน้ำชาเป็นศิลปินในสังกัดบริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด และเพิ่งปล่อย ‘ชาบู (Cha Boo!)’ ซิงเกิลแรกออกมาให้แฟนๆ ฟังแก้คิดถึง

เธอเล่าย้อนให้ฟังว่า “ชาอยู่กับค่ายมาสิบกว่าปี มีช่วงหนึ่งที่เป็นฟรีแลนซ์เพราะอยากลองอยู่ด้วยตัวเอง ช่วงที่ไม่มีบ้านก็เหมือนได้ผจญภัย เราคงชินกับการมีบ้านอยู่ รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ค่อยอยากผจญภัยแล้ว เลยไป propose ตัวเองกับค่ายต่างๆ หลายที่มาก เราเป็นศิลปินที่อายุค่อนข้างจะไม่ได้อยู่ในวัยเริ่มทำเพลง ออกจากวงการไปแล้วด้วย เขาอาจจะมองภาพไม่ชัด แล้วพอดีว่ามีพี่ที่เคยทำงานร่วมกันแนะนำให้มาที่นี่ พอคุยกันเขาก็สนใจ ทุกอย่างลงล็อกมากๆ ที่นี่ทำงานเป็นทีมจริงๆ เราได้ออกออกความเห็น แชร์ไอเดีย ได้บอกเล่าสตอรี่ต่างๆ รู้สึกว่าทุกคนน่ารักมาก”

เล่าถึงซิงเกิลแรกให้ฟังหน่อยค่ะ

“ชื่อว่า ‘ชาบู’ ค่ะ เป็นเพลงป็อป ฟังง่าย สนุก ฟังแล้วอารมณ์ดี เป็นเพลงที่ฟังได้ตลอด เดี๋ยวจะมีเพลงช้าปล่อยตามออกมาไล่ๆ กัน ตอนนี้กำลังเรียบเรียงอยู่ จริงๆ แล้วมู้ดชาถ้าย้อนกลับไปสิบกว่าปีที่แล้วมันมีเวอร์ชั่นที่คล้ายกันนะ มีภาพที่คล้ายกัน ยังคงมีสีสันเหมือนเดิม เพราะเราเป็นคนที่ชอบสีสัน ความสดใสยังเหมือนเดิม แค่ดูผู้ใหญ่ขึ้นเท่านั้นเอง

“ความหมายของเพลงมันได้หมดทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และ LGBTQ+ เป็นเพลงที่อยากเชื้อเชิญให้มาเป็นแฟนกัน เหมือนว่าถ้าเธอมารักกับฉัน ฉันจะรักเธอไม่อั้น เหมือนรักบุฟเฟต์ รักชาบู รักไม่อั้นเลย มาลองชิมหน่อยไหม เป็นฟีลแบบเต๊าะๆ คนที่เราชอบ เป็นฝ่ายรุก เป็นเวย์ที่น่ารักนะ ไม่ได้แสบ น่ารักผสมเปรี้ยวๆ”

เพลงนี้มีส่วนร่วมอะไรบ้าง นอกจากการร้อง

“ชาเข้าไปทำงานร่วมกันหมดเลย รวมทั้งคาแร็กเตอร์ที่เราชอบ แฟชั่นที่เราต้องการ เรามีการประชุมกันทุกอย่าง คุยกันทุกขั้นตอนว่าเราต้องการลุคแบบไหน ชอบแบบไหน สไตล์เพลงที่ชอบ เป็นการจูนกันระยะนึงค่ะ จนกระทั่งคลอดออกมาเป็นเพลงนี้”

แพสชั่นในการเป็นนักร้องไม่เคยหายไปเลยนะคะ  

“การร้องเพลงเป็นอะไรที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เด็ก อ้าปากได้ก็ร้องเพลงแล้ว คือเราชอบดนตรี เสียงดนตรีมันมีอิมแพ็กต์กับชีวิตเรามาก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าฟังดนตรีปุ๊บเราจะรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกนึงเลย ชาเชื่อว่าสิ่งที่เรารักจริงๆ มันจะอยู่กับเราไปจนตาย มันคือทำด้วยแพสชั่นจริงๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นงานด้วยซ้ำ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอาชีพ เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำมัน”

อะไรเป็นตัวจุดประกายให้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง

“เราเห็นว่าทุกวันนี้มีศิลปินออกเพลงใหม่เยอะแยะมากมาย รู้สึกว่ายุคนี้เป็นยุคที่น่ากลับมาทำเพลงมาก เพราะเป็นยุคที่คนเปิดใจกับทุกอย่าง ไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ว่าทำได้แค่นี้ ถ้านอกเหนือไปจากนี้แล้วจะไม่มีคนฟัง ซึ่งทุกวันนี้มันมีตลาด มันโอเพ่นขึ้นเยอะ รู้สึกว่าสนุก นี่คือช่วงที่สนุกที่สุดในการได้ทำเพลง เพราะคนฟังอะไรหลายแนวมาก ไม่มีอะไรผิด

“อยากให้ทุกคนฟังแล้วมีความสุข ทำให้เขายิ้ม แค่นี้ชาก็รู้สึกบรรลุเป้าหมาย คิดว่าสำเร็จแล้ว ฟังแล้วยิ้ม ฟังแล้วชอบ อารมณ์ดี แล้วก็อยากที่จะบอกต่อ แค่นี้เราก็ฟินมากแล้ว นี่แหละที่ชาต้องการ และในมุมของชา ชาได้ทำในสิ่งที่ชารักต่อไป ได้เอาไฟกลับมาทำสิ่งที่เราชอบ”

ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษไหมในการกลับมาครั้งนี้

“ไม่นะคะ เราแค่ต้องทำการบ้านให้ดีว่าตลาดมันมีแบบนี้ๆ เราต้องเปิดตาให้มากที่สุด ฟังเพลงให้เยอะที่สุด เพื่อที่เราจะรู้ว่าเราจะเข้าไปเสียบตรงไหนได้ ที่ไม่ใช่แบบว่ามีแล้ว มันก็เหมือนเราออกไปเซย์เฮลโล แล้วก็มีอีกคนที่เซย์เฮลโลพร้อมกับเรา ซึ่งมันก็ no point เราต้องทำการบ้านให้ดีในเรื่องของไดเร็กชั่น นอกจากนี้ก็ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น เพราะเสียงมันมากับสุขภาพ เราแค่ต้องนอนเร็ว ดื่มน้ำเยอะๆ กินอาหารดีๆ ช่วงที่ไม่ได้ทำเพลง ชาใช้ชีวิตแบบอะไรก็ได้ ตอนนี้เราต้องมีระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น นอนเร็วๆ เพราะเกี่ยวมาก ถ้านอนดึก เสียงเราก็จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

“จริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาทำเพลงอีกแล้วตลอดชีวิต ก็คือมันจบตรงนั้นแล้ว เพราะค่ายต่างๆ ที่เข้าไปอาจจะมองว่าเราไม่ตรงกับทาร์เก็ตของเขา เราก็ทำใจ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ก็คือหวังเล็กๆ ว่าจะได้กลับมา ดีใจมากค่ะที่ได้ทำเพลงอีก ทุกอย่างที่ทำตอนนี้เอเนอร์จี้มาเต็มมาก วันไหนทำงานเยอะๆ พี่ทีมงานจะถามว่าเหนื่อยไหม เราจะไม่มีคำว่าเหนื่อยเลย แฮปปี้มากที่ได้กลับมาทำเหมือนที่เคยทำเมื่อหลายปีที่แล้ว”

ตอนนี้มีพาร์ตเป็นคุณแม่ด้วย แบ่งเวลายังไง

“จริงๆ กฎไม่มีอะไรมาก ว่างก็อยู่กับลูก ช่วงที่ยุ่งหน่อยก็อาจจะอยู่กับลูกน้อยลงหน่อย แต่ชาจะใช้วิดีโอคอลกับลูกตลอด เมื่อกี้ก็คุยกัน เหมือนชีวิตเราก็ต้องคงไว้ ชาไม่ได้เป็นฟุลไทม์มัม ด้วยตัวตนของชา ชาไม่สามารถเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูกฟุลไทม์ เราคงเป็นแม่แบบเวิร์กกิ้งมัม แล้วก็ทำงานที่เราทำให้ดีที่สุดเต็มความสามารถ เวลาอยู่กับลูกก็เป็นแม่ที่ดีที่สุดในเวอร์ชั่นของเรา ต้องแมเนจสองโลกให้อยู่ด้วยกันได้”

เราพร้อมตั้งรับทั้งคำชมและวิจารณ์

“ชาชิลมาก ชินกับทุกคอมเมนต์ทุกแบบอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ทิ้งท้ายกันหน่อยดีกว่า

“ฝากแฟนเพลงไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าที่เคยฟังเพลงชา แล้วก็รุ่นใหม่ที่ไม่เคยฟังเพลงชาเลย อาจจะเอ๊ะ คนนี้ใคร ไม่ต้องย้อนกลับไปฟังก็ได้ค่ะ แค่อยากให้ชอบในสิ่งที่ชาตั้งใจมากที่ได้ทำ อยากให้ซัพพอร์ตกันไปเรื่อยๆ แล้วก็สัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับเพลงของชาด้วย”

Photographer: Ponpisut Pejaroen