เมื่อสองปีก่อน ศิลปินนักวาดหนังสือการ์ตูน อูโก้ เบียงเวอนู (Ugo Bienvenu) ได้ออกแบบผ้าพันคอไหมให้กับแอร์เมส และตั้งชื่อให้ว่า Wow นับเป็นการนำเอาจิตวิญญาณของนักขี่ม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของแอร์เมส มารังสรรค์เป็นการ์ตูนได้อย่างน่าอัศจรรย์ เล่าเรื่องราวผ่านซีนของฮีโร่หญิงผู้เดินทางข้ามกรุงปารีสในชุดเจ็ตสกีบนหลังม้า
Hermès Horloger ได้นำลวดลายบนผ้าพันคอนั้นมาถ่ายทอดลงบนหน้าปัดนาฬิกา Arceau Wow ทั้งยังผสานแรงบันดาลใจจากความบางและกึ่งโปร่งแสงเหมือนกับเส้นด้ายผ้าไหม โดยเลือกใช้มาเธอร์ออฟเพิร์ล วัสดุที่ทั้งสวยงาม สง่างาม และมีความเป็นผู้หญิง ทั้งยังปล่อยให้แสงไฟสามารถส่องประกาย โดยนำมาเขียนลายหลากหลายสีบนด้านหน้า และเวอร์ชันโมโนโครมบนด้านหลัง
โดยบนด้านแรก งานออกแบบนั้นเริ่มต้นจากการผลิตขึ้นใหม่ด้วยหมึกสีดำ ที่สามารถมองเห็นได้บนทั้งสองด้าน และเป็นการนำทางไปสู่สัมผัสอันเชี่ยวชาญของศิลปินจวบจนลายเส้นพู่กันสุดท้าย จากนั้น การตกแต่งทั้งหมดของลวดลายเหล่านี้จะถูกวาดขึ้นด้วยมือบนด้านแรก ด้วยเฉดสีพาสเทลหรือสีอ่อนที่ค่อยๆ บรรจงวาดลงทีละสี และด้วยความหนาพอสำหรับมอบมิติความลุ่มลึกให้กับงานออกแบบ ขณะเดียวกันก็บางพอที่จะปล่อยให้แสงส่องผ่านได้ เป็นความสมดุลอันลุ่มลึกละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยงานหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญและประณีตสูงสุด โดยใช้ประมาณ 20 ชั้นของการวาดสีเพื่อนำเอาทุกๆ มิติอันแตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อยของงานออกแบบนี้ให้เผยออกมา แต่ละชั้นยังต้องผ่านการเผาภายในเตาไฟที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เพื่อสร้างความแข็งแรงและทนทานให้กับเม็ดสีอันล้ำค่า
ขณะที่ม้าและฮีโร่หญิงนั้นครองความยิ่งใหญ่บนหน้าปัดที่สอง ซึ่งสอดคล้องกับหน้าปัดด้านบนของนาฬิกา ด้วยเฉดสีสันที่คมชัดขึ้น ปริมาตรที่ทึบขึ้น งานออกแบบนี้จึงค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นทีละน้อยเมื่อฮีโร่หญิงปรากฏกายบนหลังม้า และเมื่ออยู่รวมกัน พวกเขาจึงดูคล้ายแทบจะกระโจนจากหน้าปัดด้วยความมีชีวิตชีวา ความคลาสสิกแห่งการควบม้าของ แอร์เมส ยังสอดคล้องกับสีเอิร์ธโทนราวกับผืนผ้าไหมที่วาดลงบนด้านกลับกันของนาฬิกาด้วยเฉดสีที่แตกต่างและสดใส พร้อมทั้งมิติลวดลายแบบนูนและหนักแน่น ขณะที่การเคลื่อนไหวของม้ายังมอบการปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากความชำนาญของการทำงานอันแสนละเอียดอ่อนและอดทนที่ใช้เวลาในการรังสรรค์กว่า 35 ชั่วโมงของการผลิตหน้าปัดเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
นาฬิกา Arceau Wow ซึ่งตัวเรือนออกแบบขึ้นครั้งแรกโดย อองรี ดอริญี (Henri d’Origny) ในปี ค.ศ. 1978 นี้ ขับเคลื่อนของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Manufacture H1912 เวอร์ชันแรกมาพร้อมหน้าปัดในโทนสีชมพูอ่อน ขณะที่เวอร์ชันที่สองเลือกใช้เฉดสีฟ้าน้ำเงินมากกว่า ทั้งคู่ลงตัวกับสายหนังวัวแอร์เมส ตัวเรือนผลิตจากไวท์โกลด์สง่างาม พร้อมด้วยขอบตัวเรือนประดับเพชร 82 เม็ด ผลิตในจำนวนจำกัดเพียงเวอร์ชันละ 24 เรือน