
DANIEL ARSHAM เป็นศิลปินร่วมสมัยที่ป็อปสุดๆ ในยุคนี้ ด้วยสไตล์และมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย และล่าสุด เขายังได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของแบรนด์นาฬิกาสวิส Hublot

อาร์แชมประจำอยู่ที่นิวยอร์ก สร้างสรรค์ผลงานทั้ง จิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะจัดวางหรืออินสตอลเลชัน และภาพยนตร์ โดยเขามักสำรวจถึงแนวคิดของเวลาผ่านผลงานทางศิลปะของเขาเองเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านซีรีส์ผลงานอันโด่งดัง อย่าง Connecting Time และ Hourglass ที่เป็นไอคอนิกของเขา ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักและในหมู่นักวิจารณ์ยังได้อธิบายไว้ว่าเป็นเสมือน ‘โบราณคดีร่วมสมัยแห่งตำนาน’ เนื่องจากเขามักใช้รูปทรงอันคุ้นเคยมาปรับแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงเหล่านั้นขึ้นมาใหม่

อาร์แชมจบการศึกษาจากวิทยาลัย Cooper Union ในนิวยอร์ก และได้จัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งใน นิวยอร์ก ปารีส โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ลอสแอนเจลิส และลอนดอน ทั้งยังได้รับรางวัล Gelman Trust Fellowship Award และชนะรางวัลอันทรงเกียรติ GNMH Award ซึ่งทำให้เขาเป็นที่สนใจในโลกแห่งศิลปะตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา Daniel ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลสูงสุดและเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด
เพื่อเป็นการฉลองจุดเริ่มต้นแห่งความร่วมมือระหว่างอาร์แชมกับ Hublot ศิลปินหนุ่มจึงได้สร้างสรรค์งานศิลปะจัดวาง หรืออินสตอลเลชันอาร์ตในรูปแบบนาฬิกาแดด ขนาด 20 เมตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Hublot (อูโบลท์) โดยติดตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของผืนหิมะแห่ง Zermatt ใน Schwarzsee (ชวาร์ซี) ณ ระดับความสูง 2583เมตร

ศิลปะจัดวางแบบชั่วคราวนี้มีชื่อว่า Light & Time โดยใช้องค์ประกอบทางธรรมชาติเพื่อหลอมรวมรากเหง้าต่างๆ ของการแสดงเวลามาผสมผสานเข้ากับงานฝีมือภายใต้ศิลปะแห่งพรมแดน โดยศิลปะจัดวางที่มีฟังก์ชันของการวัดเวลากลางแจ้งนี้มีพื้นฐานมาจากแสงเงาที่ทอดผ่านอนุสาวรีย์แท่งหินสูงรูปทรงผลึกควอตซ์ ซึ่งเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนโคจรในหนึ่งวัน แสงเงาที่ทอดผ่านโดยตัวชี้กลางจะทำหน้าที่แสดงเวลาบนหิมะซึ่งคราดรอยไว้
อาร์แชมยังได้ผสมผสานระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันในการสร้างสรรค์นาฬิกาแดดจากองค์ประกอบทางธรรมชาติของ Swiss Alps โดยวิธีการนี้ หิมะและแสงได้หล่อหลอมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมโยงจักรวาลแห่งผลึกและแสงของเขาเข้ากับมรดกและประวัติศาสตร์แห่งงานหัตถศิลป์การประดิษฐ์นาฬิกาของ Hublot นาฬิกาแดดนี้ยังได้ร่วมสะท้อนถึงภาษาการออกแบบของ Hublot และการผสมผสานสัญลักษณ์ต่างๆ ที่คุ้นเคย อาทิ สกรูอันโด่งดังซึ่งทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนของนาฬิกา Big Bang โดยศิลปะอินสตอลเลชันนี้ยังมาพร้อมกับความพิเศษเหนือความคาดหมาย จากการที่จะสามารถมองเห็นได้เพียงเฉพาะจากยอดเขาเท่านั้น และเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ ผู้ที่หลงใหลในศิลปะจะต้องใช้ลิฟต์สกีของ Zermatt เพื่อร่วมชื่นชมศิลปะชิ้นนี้
“The Art of Fusion ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดอันชาญฉลาดที่สุดของการประดิษฐ์นาฬิกาของ Hublot ผมรักในแนวคิดการรังสรรค์ของ Hublotรวมถึงอิทธิพลและวัสดุที่นำมาใช้ร่วมกันในการสร้างรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Hublot Family (ครอบครัวอูโบลท์) และผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับโปรเจกต์นาฬิกาแดด Hublot x Daniel Arsham ใน Zermatt นี้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ศิลปะอินสตอลเลชันร่วมสมัยนี้จะจับซึ่งบางสิ่งของชั่วขณะเวลาที่ผ่านไปที่เราเองสามารถรู้สึกและรับรู้ได้ แต่มันก็ยังคงอยู่อย่างเหนือกาลเวลา และสร้างซึ่งความทรงจำที่ส่งทอดผ่านการเดินทางของวินาที นาที ชั่วโมง และวันต่างๆ สำหรับผู้คนทึ่เดินหน้าขึ้นสู่ขุนเขาเพื่อชื่นชมมัน”