
ในช่วงโอตกูตูร์แฟช่นวีคเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา Gucci แบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลกได้นำเสนอชิ้นงานไฮจิวเวลรี่ใหม่ๆ ในคอลเลกชั่น Hortus Deliciarum ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 แต่ละชิ้นผลิตออกมาชิ้นเดียวในโลก แสดงให้เห็นถึงทักษะความเชี่ยวชาญ ความประณีตละเอียดอ่อนของการสร้างสรรค์งานฝีมือ และวิสัยทัศน์ของแบรนด์
Hortus Deliciarum เป็นภาษาละติน หมายถึง Garden of Delights และยังเป็นชื่อของต้นฉบับเอกสารในยุคกลาง ซึ่งเขียนโดยแม่ชีเฮอร์ราดแห่งแลนด์สเบิร์ก และเป็นสารานุกรมฉบับแรกของโลก ผลงานที่เพิ่มเติมนี้ถือเป็นภาคต่อของบทที่สามซึ่งเพิ่งนำเสนอไปที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีเมื่อปีที่แล้ว โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจากการเดินทางทั่วโลก


ผลงานใหม่นี้ยังคงโดดเด่นด้วยการเลือกใช้อัญมณีหลากสีสัน อย่างเช่นแหวน multi-finger ซึ่งใช้เวลาสร้างสรรค์นับร้อยชั่วโมง โดดเด่นด้วยทัวร์มาลีนสีเขียวขนาด 38.8 กะรัต ล้อมด้วยเพชร ตัดกับตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ เช่นเดียกับเอียร์คัฟฟ์ประดับโกเมน เบริลสีเหลือง รูเบลไลต์ และเพชร


อีกชิ้นที่ต้องพูดถึงคือสร้อยคอและต่างหูเพชรที่ดูราวกับธารน้ำตก หรือ cascades of diamonds ซึ่งนำแรงบันดาลใจมาจากดาวตกและน้ำตก ตัวสร้อยใช้เวลาในการสร้างสรรค์ 300 ชั่วโมง ตกแต่งด้วยโบว์สุดเฟมินีนและเพชรห้อยระย้ารวมกว่า 16.7 กะรัต

สร้อยข้อมือเยลโลว์โกลด์ลายตัว V เรียงร้อยดูกราฟิกแฝงความวินเทจ โดดเด่นด้วยรูเบลไลต์รูปไข่หนัก 16 กะรัต เช่นเดียวกับแหวนโซลิแตร์โดดเด่นด้วยสีสันของอัญมณี เรียกได้ว่าเป็นไฮจิวเวลรี่ที่สอดประสานไปกับชีวิตประจำวัน


สุดท้าย คือไฮไลต์ของครั้งนี้ เป็นสร้อยคอโซ่เส้นยาวดีไซน์แบบเรขาคณิต จับคู่กับจี้ที่เน้นเส้นสายแบบออร์แกนิก ประดับด้วยเพชร โกเมนสีเขียว และเซ็นเตอร์สโตนเป็นแมนดารินกาเน็ตรูปไข่ขนาด 40.5 กะรัต