ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ในลุคเท่สุดหรูหราจาก CELINE คอลเลกชั่น Summer 2023 แรงดลใจจากบทเพลงแห่งเสรีภาพและปี 2000 ที่นำทางเอดี สลิมานสู่ตำนานแฟชั่นสมัยใหม่ ผสานแนวไฮสตรีทอันร่วมสมัย สะท้อนอิสระเสรีของหญิงสาวยุคนี้
นอกจากจะเป็นนักแสดงยุคใหม่ที่ความสามารถในการแสดงเป็นที่น่าจับตามองแล้ว ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ยังเป็นหญิงสาวมีสไตล์ที่เราได้เห็นหน้าค่าตาบ่อยๆ ในงานแฟชั่น รวมทั้งเป็นสาวฮ็อตที่ได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นเป็นประจำ อย่างเช่นการขึ้นปกรับฤดูกาลแฟชั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2023 กับแบรนด์แฟชั่นสุดฮ็อตอย่าง Celine กับลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์ในครั้งนี้ บอกเลยว่าการทำงานกับเธอนั้นง่ายมาก เพราะสกิลและแอตติจูดแบบมืออาชีพของเธอ
“ชอบคอลเลกชั่นนี้มากๆ เลยค่ะ” นักแสดงสาวบอก เธอเองชื่นชอบสไตล์ของ Celine ที่มีความขบถ ร็อก และความคูล มาแต่ไหนแต่ไร “มันมีแจ๊กเก็ตที่เราคาดไม่ถึง ชอบยีนส์ ผ้าใบ รองเท้าบู๊ต มันดูมีอะไรดี ชอบใส่อะไรง่ายๆ แต่ทุกอย่างที่ใส่มันมีดีเทล พอเอามาใส่ด้วยกัน รู้สึกว่ามันเจ๋งดีค่ะ”
-มีปณิธานปีใหม่ หรือตั้งเป้าหมายสำหรับปีนี้ไว้ไหม
“เป็นคนไม่มี New Year Resolution เลยค่ะ ไม่ตั้งเป้าหมายอะไร เราอยู่กับปัจจุบัน เพราะรู้สึกว่าปัจจุบันเราก็โอเคแล้ว ถ้าจะมีสักอย่างก็คงเป็นความอยากไปทริปแบบยาวๆ สักหนึ่งทริปต่อปี ซึ่งปีที่ผ่านมาก็ได้ไปแล้วเดือนหนึ่ง ส่วนปีนี้ก็อยากไปอีก แต่คงไม่ไปนานเท่าเดิม เพราะงานเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว เลยไม่อยากแพลนมากค่ะ (หัวเราะ)”
-ทริปที่แล้วไปทำอะไร ไปชาร์จแบตให้ตัวเองเหรอ
“ณิชาไปเรียนภาษาที่อังกฤษมาหนึ่งเดือนค่ะ จริงๆ ก็คือไปเที่ยวนั่นแหละ แต่อยากหาอะไรใหม่ๆ ทำบ้าง ด้วยความที่เราทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย ชีวิตการเรียน การได้ตื่นไปมหา’ลัย อาจจะไม่ได้มีมากเท่าคนอื่น ตอนนั้นรู้สึกอยากมีโมเมนต์ที่เราแค่ตื่นแล้วก็ไปเรียน เพราะเราลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว เลยตัดสินใจไปเรียนภาษา เหมือนเป็นการลองใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่งด้วย แบบไม่ต้องแบกความรับผิดชอบเยอะๆ เหมือนตอนทำงาน มีช่วงที่ได้ปล่อยให้หัวโล่งๆ บ้าง คือเราอยากพัก ได้ลองใช้ชีวิตแบบไม่ต้องคิดอะไรบ้าง”
-หนึ่งเดือนที่อยู่อังกฤษเป็นอย่างไร คิดถึงบ้านไหม
“คิดถึงค่ะ เพราะเป็นคนติดบ้านมาก เพื่อนๆ จะรู้เลยว่าชอบอยู่บ้าน และออกมาเจอเพื่อนน้อยมาก พอไปอยู่ที่อังกฤษก็เลยคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงหมา เราชอบอยู่ในบ้านที่มีคนเยอะๆ มีเพื่อนๆ มานอนด้วย แต่พอไปอยู่คนเดียวที่นู่นเลยทำให้คิดถึงครอบครัว แต่การได้อยู่คนเดียวก็ดีนะ เพราะถึงเราจะติดบ้าน ติดครอบครัว แต่ก็เป็นคนชอบเดินทางคนเดียว ไปเล่นเซิร์ฟคนเดียว ทำกิจกรรมคนเดียว คือชอบอยู่กับตัวเองเหมือนกัน แค่ว่าพอไปอยู่ตัวคนเดียวหนึ่งเดือน มันนานกว่าปกติ เลยทำให้คิดถึงชีวิตที่ไทย”
-แล้วได้ทำอะไรที่เรียกว่าเป็นการใช้ชีวิตบ้าง
“ตอนไปที่นั่นเราตั้งใจจะเรียนศิลปะด้วย อยากเรียนวาดรูปสนุกๆ ถ้ามันแมตช์กับตารางเรียนภาษา แต่ก็ไม่ลงตัว เลยใช้เวลาครึ่งวันไปกับการเที่ยว ไปมาหมดเลย ถ้าวันนั้นอยากไปไหนก็ไป ไม่ได้แพลนค่ะ แต่จะมีสถานที่หนึ่งซึ่งเป็นที่แห่งความลับของเรา ไม่เคยบอกใคร และขอไม่บอกว่าที่ไหน ครูเป็นคนแนะนำให้ไป มันเงียบสงบมากกกก ไปคนเดียว ไม่ชวนเพื่อนด้วย ก็ไปนั่งอ่านหนังสือ ฟังเสียงน้ำพุ มองแดดสวยๆ ตอนนั้นที่ไปเป็นช่วงซัมเมอร์ ก็ชิลล์ดีค่ะ แบบหลับได้เลย”
-พูดถึงการเดินทาง ปีที่ผ่านมาณิชาได้ไปฝรั่งเศสหลายครั้งเหมือนกันนะ
“เป็นประเทศที่ชอบมาก ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวมาเยอะด้วยแหละ พอไปที่ไหนแล้วชอบก็จะไปซ้ำๆ อย่างปารีสก็ไปบ่อย ไม่ออกนอกเมืองด้วยนะ ชอบมู้ด ชอบศิลปะ ชอบแสง ชอบตึก ชอบบรรยากาศที่นั่นมากๆ”
-ได้ไปปารีสในช่วงแฟชั่นวีกด้วย แล้วทำให้เราชอบแฟชั่นมากขึ้นไหม
“จริงๆ ชอบแฟชั่นมากอยู่แล้ว ชอบดูดีเทล ขอบดูดีไซน์ พอได้ไปที่นั่นก็เลยฟูลฟิล เรายิ่งรักมันเหมือนเดิม แต่พอได้ไปเห็น มันสนุกขึ้น ได้เห็นคนอื่นๆ ที่แต่งตัวเข้ามาร่วมงาน มันอินสไปร์เราได้ สนุกดีค่ะที่ได้เห็นความหลากหลาย”
-มีแฟชั่นไอคอนที่ชอบหรือเปล่า
“ชอบหลายคนมากๆ แต่ละคนก็คนละสไตล์ อย่างเคนดัล เจนเนอร์, เซนเดอา และคริสเตน สจวร์ต หลักๆ คือสามคนนี้เลย แต่จะชอบคริสเตนที่สุด ชอบในความดิบและความเท่ของเขา”
-จากการได้ทำงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย มองคำว่า luxury อย่างไร
“ถ้าเป็นสิ่งของ คิดว่ามันเป็นเรื่องของคุณภาพ สิ่งของนั้นอาจจะไม่ได้เป็นแฟชั่น แต่ว่ามีคุณภาพ มีเรื่องราว และดีเทล รู้สึกว่านั่นแหละ luxury ถ้าเปรียบกับมนุษย์ก็เหมือนคนที่มั่นใจ เก่ง มีเรื่องราวของตัวเอง และหนักแน่นในความเป็นตัวเองมากๆ…ดูแพงมาจากข้างใน ไม่ใช่เพราะว่าเขาใส่อะไร แต่มันมาจากอินเนอร์ของเขา ตัวตนข้างในของเขา”
-ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสได้แสดงหนังที่แฟชั่นเข้ามามีบทบาทอย่างมากๆ
“ณิชาจะรับเลยค่ะ อยากให้มีคนทำแนวนี้มากๆ ถ้ามีจริงๆ เราจะทิ้งทุกอย่างไปเรียนตัดเย็บเพื่อมาแสดงเลย อยากอยู่กับมันจริงๆ ต้องสนุกแน่ๆ และในไทยยังไม่ค่อยมีใครทำ น่าจะมันดีค่ะ”
-พูดถึงเรื่องการแสดงบ้าง ในฐานะนักแสดงที่อยู่วงการมาตั้งแต่อายุยังน้อย นอกจากทักษะการแสดงแล้ว คิดว่านักแสดงต้องพัฒนาอะไรบ้าง
“อืมม คิดว่าร่างกายค่ะ ต้องดูแลตัวเองเยอะมากๆ ยิ่งถ้าเป็นบทที่ต้องเปลี่ยนร่างกายภายนอก ยิ่งต้องดูแลมากขึ้นไปอีก แล้วก็…จิตใจด้วยนะ เพราะการแสดงเป็นงานที่ใช้สมาธิ ใช้จิตใจ ใช้พลังจากข้างในเยอะมาก ต้องดูแลจิตใจตัวเองให้ดีด้วย ต้องดูแลตัวตน ถ้าตัวตนเราอ่อนแอมากๆ อาจจะทำให้เราแสดงได้ไม่เต็มที่ ต้องมีสติ สมาธิ เหมือนเราต้องฝึกมันไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้ แล้วก็เรื่องความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ต้องมีควบคู่ไปกับการพัฒนาตัวเองค่ะ”
-ละครเรื่องใหม่ชื่อ ‘สะใภ้สายสตรอง’ ที่เริ่มออกอากาศไปเมื่อเดือนมกราคม เรื่องนี้น่าติดตามอย่างไร
“เป็นอีกผลงานที่สนุกค่ะ มีความเป็นซีรีส์นิดๆ ด้วยวิธีการถ่ายทำซึ่งเราชอบมากๆ เป็นละครครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น ไม่ได้ดราม่าจัด มีความตลก ได้เล่นอะไรแบบแปลกๆ เยอะมาก ตัวละครของเรามีความกล้าคิด กล้าแสดงออก เป็นผู้หญิงยุคใหม่ แต่ต้องมาเจอคุณแม่สามีที่มีความคิดตรงข้ามกับเรามาก แต่ทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง เรามีความเชื่อ แต่มันเป็นความเชื่อคนละชุด และเมื่อต้องอยู่ร่วมกัน มันปรับจูนกันยาก ต้องสู้และฝ่าฟัน เป็นคาแร็กเตอร์ที่กวนสุดๆ เลย”
-ที่ผ่านมาณิชามีงานแสดงให้เราได้ชมกันทุกๆ ปี มีอะไรที่อยากลองอีกบ้างไหม
“เยอะมากๆๆ ค่ะ ส่วนใหญ่จะได้เล่นละคร ก็อยากลองเล่นหนังและซีรีส์ที่แตกต่างออกไป เพื่อที่เราจะได้พัฒนาตัวเองต่อไปอีกเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำอยู่ค่ะ ชื่อเรื่อง ‘14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand’ (โดยผู้กำกับ เป้-นฤบดี เวชกรรม) เป็นหนังยุค 2000s ค่ะ เหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไป เป็นแนวน่ารักๆ อยากให้ดูเอง”
-อย่างนี้แฟชั่นในเรื่องต้องเป็นแนว Y2K ที่กำลังฮิตตอนนี้หรือเปล่า
“ใช่ค่ะ ทุกอย่างย้อนไปยุคนั้น ใครที่มาดูอาจจะคิดถึงวันเก่าๆ ของตัวเองได้”
-ถ้าไม่นับเรื่อง Ghost Lab ของเน็ตฟลิกซ์ เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกที่แสดงแบบเต็มตัวหรือเปล่า
“ใช่เลยค่ะ เรื่องนี้ได้แสดงกับนัท-ณัฏฐ์ กิจจริต แล้วยังได้เจอแก๊งเด็กๆ ด้วย เวลาเข้าฉากด้วยกันคือมันมากๆ”
-รู้สึกว่าเส้นทางที่ผ่านมาของตัวเองเป็นอย่างไร ท้าทายไหม
“มันมีความท้าทายอยู่ตลอด การที่เราได้เปลี่ยนบทไปเรื่อยๆ ในการแสดง มันเลยมีอะไรที่เราไม่เคยทำหรือต้องออกจากคอมฟอร์ตโซนอยู่แล้ว อย่างบางเรื่องต้องไปขี่ม้า เล่นโปโล บางเรื่องเป็นสถาปนิก บางเรื่องต้องกลับไปเป็นเด็กมหา’ลัย มันมีอะไรใหม่ๆ ให้เราเรียนรู้ หรือแม้แต่งานอื่นๆ อย่างการถ่ายแบบ เสื้อผ้าคนละแบบ คนละคาแร็กเตอร์ ทุกองค์ประกอบต้องไปด้วยกัน รู้สึกว่ามันใหม่ตลอดเวลา และไม่ใช่ว่าทำได้แล้วจะพอแค่นั้น เพราะมันต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ”
-อะไรเป็นพลังขับเคลื่อนให้เราตื่นขึ้นมาทำอะไรต่างๆ ได้ในทุกวัน
“เอาจริงๆ นะคะ มันคือการทำงานที่สนุก อย่างตอนนี้ถ่ายหนัง และกำลังจะเริ่มละครเรื่องใหม่ ทุกครั้งจะอยากไปกองมาก พอไม่ได้ไปก็จะคิดถึงมาก อยากถ่าย อยากเป็นตัวละคร ความรู้สึกเราเฟรชมากๆ อยากตื่นไปทำงาน มันเป็นไดรฟ์การทำงานที่รู้สึกชอบมากๆ”
-การทำอาชีพนี้หรือการเป็นคนดังอาจทำให้ต้องสูญเสียอะไรบางอย่าง แต่มีอะไรที่เราไม่ยอมสูญเสียมันไหม
“ตัวตนของณิชาเอง เราจะไม่สูญเสียความเป็นตัวเองเด็ดขาด จะยังคงเป็นณิชาที่อยู่เชียงใหม่ จะยังเก็บความเป็นณิชาคนเดิมไว้ ไม่ยอมเปลี่ยน คือเราพัฒนาได้ แต่เราไม่อยากเปลี่ยนตัวตนของเรา ความเชื่อของเรา อยากให้มันแข็งแรงแบบนี้ตลอดไปค่ะ จะสูญเสียเวลาในชีวิต จะไม่ได้เดินทาง หรืออะไรก็ได้ แต่จะไม่สูญเสียความเป็นตัวเองเด็ดขาด”
-จนถึงตอนนี้ ภูมิใจอะไรที่สุด
“ภูมิใจในตัวเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนรอบข้างตอนนี้ รู้สึกว่าหาไม่ได้ง่ายๆ เลยค่ะ ครอบครัวที่ซัพพอร์ตทุกอย่าง พ่อแม่กับน้องที่พร้อมส่งเสริมเรา เราอาจจะไม่ได้สบายไปทั้งหมด แต่ทุกคนพร้อมที่จะโอบกอดกัน ครอบครัวเราเหนียวแน่นมากๆ และทำให้เราเดินต่อไปได้ ถ้าไม่มีทุกคน ณิชาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่แข็งแรงอย่างทุกวันนี้ก็ได้ รู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิต หรือกำลังจะออกไปแล้วด้วย มันทำให้เราเป็นเราที่มีความรักตัวเองมากๆ และภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำและสิ่งที่ตัวเองเป็นในวันนี้ด้วย เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ เราไม่สามารถยืนอย่างแข็งแรงได้แบบนี้ด้วยตัวเองคนเดียว”
Photographer: Napat Gunkham
Fashion Editor: Watcharachai Nun-ngam
Writer: Pimpilai Boonjong
Model: Nuttanicha Dungwattanawanich
Makeup: Yotiny Chuaysri
Hair: Thanupol Phoothepamornkul
Photographer Assistants: Ittipol Pensuk, SurathamThepphasut
Stylist Assistant: Tisakorn Kunchornnok