เอ็กซ์คลูซีฟ! อินไซด์ทุกช็อต ‘แพทริเซีย กู๊ด’ ว่าที่เจ้าสาวที่เผย “…แพทรู้สึกได้ว่ามันใกล้วันจริงแล้ว”

L’Officiel Thailand พาคุณไปส่องลุคหวานของว่าที่เจ้าสาวคนสวย ‘แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด’ แบบช็อตต่อช็อตตั้งแต่วันที่เธอลองชุดครั้งแรก ณ ห้องเสื้อวนัชเฟิร์ส (Vanus First) โดยดีไซเนอร์ สรรค์-สรรค์ สุดเกตุ และออม-ณภัทร์ นิยมแย้ม และโมเมนต์สวยงามจับตาในวันเข้ารับพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อเช้าวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

แพท: ครั้งแรกที่เห็นชุด แพทรู้สึกว่าสวยมากๆ ไม่คิดว่าชุดจะมีดีเทลขนาดนี้ เพราะตอนแรกที่ดูจากสเก็ตช์จะเห็นแค่สี แต่ยังนึกไม่ออกว่าลายปักหรือดีเทลต่างๆ ถ้าเป็นของจริงจะละเอียดขนาดไหน ตอนที่ลองผ้าดิบจะเป็นแค่โครงค่ะ ตอนนั้นยังไม่ทราบด้วยว่าจะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชวันไหน พอได้วันปุ๊บกลายเป็นเหลือเวลาน้อยมาก ตอนแรกก็เครียดด้วยค่ะ ไม่อยากกดดันพี่สรรค์กับพี่ออม เพราะอยากให้เวลากับงานประดิษฐ์เต็มที่ โชคดีมากที่พี่ๆ เร่งให้สุดฤทธิ์ พอออกมาเป็นชุดจริงคือตะลึงเลยค่ะ มันดูเต็มนะคะ แต่ลงตัว ไม่ได้รู้สึกว่าเยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป เห็นแล้วประทับใจมาก ยิ่งพอได้ลองใส่ก็ใช่เลย นี่แหละชุดที่เหมาะกับเราและเป็นตัวเรา ในเวลาเดียวกันก็เคารพในความเป็นไทยโบราณ แต่ดัดแปลงให้มีความโมเดิร์น ใส่ความเป็นตัวแพทเข้าไป แฮปปี้มากๆ ค่ะ

แพท: เหตุผลที่เลือกตัดชุดกับวนัชเฟิร์ส เพราะว่าเอาจริงนะคะ แพทใส่ชุดไทยถ่ายแบบ โห! เยอะไปหมด หลายแบรนด์เลยค่ะสิบปีที่ผ่านมา ประทับใจพี่สรรค์กับพี่ออมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แพทรู้สึกประทับใจแบบชุดของวนัชเฟิร์ส ใส่มาแล้วเกือบทุกแบบจริงๆ จำได้ว่าลองทั้งชุดไทยชุดสากล ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจด้วยค่ะ ทำให้นึกถึงที่นี่เป็นที่แรก ไม่ได้ไปดูที่อื่นเลยค่ะ พุ่งตรงมาที่นี่ที่เดียว แพทไล่ดูชุดของพี่สรรค์เยอะมากๆ ตามไอจี แล้วก็ส่งแบบให้พี่สรรค์ว่าชอบแบบนี้ สีประมาณนี้ แล้วก็ปล่อยให้พี่สรรค์เนรมิตขึ้นมาเลยค่ะ เพราะเราไว้ใจฝีมือมาก

แพท: ครั้งแรกที่คุยกันแพทบอกพี่สรรค์ว่าแพทชอบความคลาสสิก อยากให้เป็นอะไรที่สามารถกลับมาดูได้ตลอดไม่ว่าจะผ่านไปสิบปีหรือยี่สิบปี ปรึกษาว่าจะเป็นสีงาช้างดีไหม แต่พอดูไปดูมาทุกคนก็ทำแบบนั้น ควรทำยังไงให้ชุดของเรามีความยูนีกขึ้นมาหน่อย พี่สรรค์กับพี่ออมก็ให้ดูลุคบุ๊กคริสตัลค่ะ ซึ่งมีสีเยอะมากๆ จนเลือกไม่ถูก ตอนแรกมองแล้วก็คิดว่า ตายละ! ทำอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ ไม่คิดว่าชุดไทยจะสามารถใส่อะไรได้เยอะขนาดนี้ แพทมานั่งคิดว่าตัวตนเราเป็นยังไง ก็รู้สึกว่าเราชอบอะไรที่มันเบาๆ เลยบอกว่าขอเป็นพาสเทลแล้วกัน พี่สรรค์เลยลองสเก็ตช์มาให้สองแบบค่ะ เป็นการไล่เฉดสี (ombre) ทั้งแบบพาสเทลเฉดสีฟ้ากับเฉดสีชมพู พอดูแล้วก็เลือกชมพูค่ะ ไม่ลังเลเลย คงเพราะเราชอบสีชมพูจริงๆ แหละ (หัวเราะ) เป็นสาวหวาน เห็นแล้วชอบมาก มันหวานแบบละมุนน่ะค่ะ ไม่ได้หวานเจี๊ยบ 

แพท: ถึงตอนนี้โครงงานหลักๆ เตรียมไปเยอะแล้วค่ะ แต่รายละเอียดจุกจิกยังเหลือเยอะกว่าที่คิดค่ะ (ยิ้มหวาน) ไม่คิดเหมือนกันว่างานแต่งงานจะต้องมีอะไรเยอะขนาดนี้ ส่วนธีมวันแต่งมีแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้เคาะชื่อนะคะ ประมาณ Summer in the Garden ไอเดียมาจากสวนไฮด์พาร์กในลอนดอนตอนที่ถูกขอแต่งงาน ยกความเป็นสวนอังกฤษมาที่เมืองไทยค่ะ ด้วยสีสันของดอกไม้ที่ใช้ในงาน เราอยากให้แขกใส่เป็นฟีลสดใสแบบพาสเทล ซึ่งจะลิงก์กับชุดนี้ด้วยค่ะ

“แพทรู้สึกว่าการใส่ชุดไทยเวลาเราถ่ายแบบทำงาน มันไม่ได้เป็นฟีลแบบ ‘วันของเรา’ ขนาดนั้น แต่พอเราได้รับพรแล้วก็จะค่อยๆ ตกตะกอน แพทรู้สึกได้ว่ามันใกล้วันจริงแล้ว”

สรรค์: ชุดนี้เป็นชุดไทยศิวาลัยแบบดั้งเดิมครับ เราใช้ผ้าไหมยกลำพูนมาตัดเย็บ ด้วยความเชื่อของคนสมัยก่อนที่ว่าผ้าแนวมงคลควรจะเป็นผ้าชิ้นเดียวกัน เพื่อไม่ให้แยกจากกัน เราเลยสั่งทอเป็นผ้าชิ้นเดียวกัน แล้วค่อยนำมาตัดเย็บเป็นผ้านุ่ง เสื้อ และสไบ ความพิเศษของไหมลำพูนชิ้นนี้คือการไล่สี ซึ่งเป็นครั้งแรกในการทอไล่สีแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่จะสลับสีมากกว่า ชุดนี้เป็นการเรียงสีที่ค่อยๆ ไล่ทีละนิด เราต้องไปอธิบายให้คนทอเข้าใจและเลือกสีเอง หลังจากคุยกับน้องแพทแล้วว่าอยากได้สีชมพูประมาณไหน

ออม: ปกติเวลาไล่สีบนผ้าทั่วไปมันคือการจุ่มสี เป็นการย้อมน่ะครับ ผ้าจะมาเป็นผืนสีเดียว เวลาไล่สีเราก็จุ่มผ้าลงไป ตรงไหนที่อยากให้เข้มก็จุ่มไว้นานหน่อย ตรงไหนอยากให้อ่อนก็จุ่มเบาหน่อย แต่สำหรับผืนนี้เป็นการทอจากเส้นไหม ไม่มีการจุ่มสี เพราะฉะนั้นคนทอจะต้องเปลี่ยนตัวกระสวยที่เป็นเส้นไหม แล้วไล่สีจากชมพูระดับกลางไปจนถึงไอวอรี

สรรค์: ลักษณะของชุดไทยศิวาลัยจะมีความวิจิตรกว่าชุดไทยแบบอื่น เนื่องจากสไบจะมีความกรุยกรายและดูเรียบร้อย เพราะการเข้าเฝ้าพระอริยวงศาจารย์ฯ ต้องถูกต้องตามพระราชประเพณีด้วย ดังนั้นลักษณะชุดจะต้องปกปิด การห่มสไบจะมีความพลิ้ว ดูอ่อนช้อย และมีความงดงาม ส่วนลวดลายของผืนผ้า เราได้แรงบันดาลใจมาจากกลีบดอกบัวหลวง ซึ่งปลายกลีบเป็นสีชมพู ตรงโคนกลีบเป็นสีขาวนวล เราอยากสื่อถึงเครื่องสักการะ เลยเลือกใช้สัญลักษณ์เป็นดอกบัว รวมทั้งลายปักด้วย ผ้าที่ทอออกมาก็เป็นลักษณะของกลีบดอกบัวเล็กๆ ร้อยเรียงกัน คือเรามีสตอรี่ ตัวเข็มขัดและเข็มกลัดก็ใช้พลอยสีชมพู ใช้สัญลักษณ์ว่า PV ​(Patricia & Vises) น้องแพทขอให้ใส่โลโก้ลงไปด้วย เพราะอยากจะเก็บชุดและเข็มกลัดกับพินสูทเอาไว้ด้วยกัน 

น้องแพทน่ารักมาก น้องบอกเราว่าอยากใส่ชุดไทย ‘หนูมั่นใจอยู่แล้วว่าพี่ทำให้หนูได้’ น้องอยากได้ความเป็นไทย แต่ไม่อยากให้รู้สึกว่าดูผู้ใหญ่เกินไป เพราะฉะนั้นชุดไทยทำยังไงให้ใส่แล้วดูไม่สูงวัย เราก็ต้องใช้สีเข้ามาช่วย รวมถึงรูปแบบของชุด แพตเทิร์น และคัตติ้ง ตัดออกมาแล้วดูเข้ารูป มีความสะโอดสะอง จุดเด่นของสาววัยแรกรุ่นก็คือรูปร่างที่สวยงาม ดังนั้นเราต้องชูจุดนี้โดยการตัดชุดให้เข้ารูป อก เอว สะโพกชัดเจน มีความเป็นตะวันตกผสมไทยซึ่งเป็นตัวตนของน้องแพทเลย

ออม: เรามีเวลาทำชุดประมาณสองเดือน ใช้เวลาทอผ้าหนึ่งเดือน รวมขั้นตอนการขอตรานกยูงพระราชทานจดทะเบียนเป็นชื่อลาย ‘ธัญชนก กู๊ด’ ก็เกือบจะ 40 วัน ตอนแรกกะว่าฤกษ์เข้าเฝ้าจะเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พอน้องแพทบอกว่าเคาะวันแล้วเป็นวันที่ 3 พฤศจิกายน ตอนนั้นเราเหลือเวลาอีกสิบกว่าวัน ก็เลยต้องระดมทุกคนมาทำตรงนี้ก่อนเพื่อให้ทันงาน

สรรค์: การทอผ้าต้องใช้เวลาเนื่องจากเป็นการทอคนเดียว เพราะความแน่นของเส้นไหมต้องสม่ำเสมอ งานปักก็เหมือนกัน ต้องใช้คนคนเดียวเพราะว่าฝีปักหรือน้ำหนักมือในการปักมีความสำคัญมาก เหมือนช่างตัดผมน่ะครับ จะซอยข้างหนึ่งแล้วให้อีกคนมาซอยก็ไม่ได้ เพราะน้ำหนักต้องเท่ากันหมด เป็นการใช้ทักษะของช่างเพียงคนเดียว พอได้ผ้าแล้วเราก็เร่งทำให้ทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายก็เสร็จทันพอดี

ออม: ถ้าให้แนะนำว่าที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวทุกคน อย่างแรกคือต้องรู้สิ่งที่ตัวเองต้องการก่อน อยากเห็นการปรากฏตัวของตัวเองเป็นแบบไหน เรียบหรู เรียบโก้ หรือแบบเจ้าหญิง สิ่งที่ต้องการและไม่ต้องการคืออะไร สุดท้ายแล้วคู่บ่าวสาวและดีไซเนอร์ต้องมาเบลนด์ความคิดกัน เราจะใช้ประสบการณ์ของเราในการแนะนำ ลูกค้าก็ใช้ความคิดของเขามาช่วยเรา แล้วก็มาตกผลึกกัน สุดท้ายก็จะได้ชุดที่เหมาะกับเขามากที่สุด การเลือกคนที่มีประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแพลนเนอร์ ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ ดังนั้นถ้ามีงบประมาณ แนะนำว่าให้เลือกคนที่มีประสบการณ์ คือการจ่ายไม่ได้หมายความว่าจ่ายแพงแล้วจะได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่ว่าการจ่ายเงินในราคาที่สมเหตุสมผล ยังไงคุณก็ได้ของที่ดีกว่า สุดท้ายขอฝากแบรนด์แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นชุดไทย ชุดแต่งงาน ชุดสูท แนะนำให้นัดหมายเข้ามาพูดคุยกับเรา อย่ากลัวเรา เราไม่ได้แพงขนาดนั้น (หัวเราะ) 

Photographer: Ponpisut Pejaroen

Writer: Angkana Wongwisetpaiboon