เป็นเวลกว่า 15 ปีแล้วที่ MB&F ได้จารึกชื่อไว้ในโลกนาฬิกาในฐานะแบรนด์นาฬิกาอิสระผู้พัฒนานวัตกรรมและนำเสนอไอเดียสุดล้ำ ดังผลงานล่าสุดที่เพิ่งคว้ารางวัล นาฬิกายอดเยี่ยมแห่งปี 2022 จากเวที GPHG โดยทั้งหมดเกิดจากการทำงานร่วมกันของ แม็กซ์ บุสเซอร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ กับเหล่าเฟรนด์ของเขา “ผมสร้าง MB&F ขึ้นมาเพื่อทำในสิ่งที่ผมเชื่อ นั่นคือสร้างสรรค์งานศิลปะเคลื่อนไหวที่สามารถบอกเวลาได้” เขาบอก
การคอลลาบอเรชั่นนำมาซึ่งไอเดียใหม่ๆ มากมาย อย่างเช่น ผลงานล่าสุดของแบรนด์ Legacy Machine FlyingT Ice & Blizzard ซึ่งเป็นการร่วมงานกับ นักออกแบบเครื่องประดับอัญมณีชาวฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล ตาร์แปง (Emmanuel Tarpin)
Legacy Machine FlyingT เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 เป็นผลงานแรกที่แม็กซ์นำแรงบันดาลใจมาจากผู้หญิงในชีวิตของเขา ซึ่งผลงานนี้ยังคว้ารางวัลนาฬิกาคอมพลิเคชั่นสำหรับผู้หญิงจากเวที GPHG ไปครองได้ในปีนั้นด้วย “ผมอยากให้ LM FlyingT เป็นตัวแทนของความเป็นผู้หญิงดังเช่นผู้หญิงในชีวิตของผม โดยเฉพาะแม่ ต้องเป็นนาฬิกาที่มีความสง่างามแต่ก็มีชีวิตชีวาด้วย โครงสร้างของฟลายอิงทูร์บิญงซึ่งมีลักษณะคล้ายเสานั้นมีความสำคัญสำหรับผมมาก เพราะผมคิดว่าผู้หญิงเป็นเสาหลักของมนุษยชาติ ส่วนโรเตอร์ (สำหรับขึ้นลานนาฬิกา) รูปทรงดวงอาทิตย์ก็สื่อถึงองค์ประกอบที่ให้กำเนิดชีวิต แหล่งพลังที่ชีวิตของเราได้ดำเนินหมุนไปรอบๆ มัน” เขากล่าวไว้
ตาร์แปงก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองและรับสร้างสรรค์ผลงานแบบ bespoke สไตล์ของเขามีความออร์แกนิก ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และนี่เป็นการร่วมงานกับแบรนด์นาฬิกาครั้งแรก “ผมทำงานด้านความร่วมมือน้อยมากเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นเพราะผมชอบที่จะทุ่มเทให้กับงานสร้างสรรค์ของตนเองมากกว่า” เอ็มมานูเอล ทาร์แปง อธิบาย “แต่เมื่อเราได้พูดคุยกันและหลังจากนั้นก็ได้พบกันส่วนตัวก็ดูเหมือนว่าเราจะเข้ากันได้ดีผมได้ค้นพบว่าโครงการนี้น่าสนใจอย่างมากและการร่วมงานกับแม็กซ์นั้นมีความเป็นธรรมชาติและง่ายดายแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของผมกับการทำงานกับนาฬิกาก็ตาม!”
และตอนที่เขาสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมา เขายังเห็นความเป็นไปได้ในการ collaboration เนื่องจากมีพื้นที่มากมายภายใต้โดมแซฟไฟร์ให้เราต่อเติ่มไอเดียลงไป “เราไม่ได้เป็นช่างอัญมณีแต่เราคือช่างนาฬิกา” แม็กซิมิเลียน บูซเซอร์ ผู้ก่อตั้ง เอ็มบีแอนด์เอฟ เผย “และเมื่อเราต้องการที่จะประดับเพชรไว้บนเรือนเวลาของเรานั่นจึงเป็นสิ่งที่เราแทบไม่มีความเชี่ยวชาญดังนั้นผมจึงเริ่มมองหาช่างอัญมณีช่างอัญมณีผู้ยิ่งใหญ่เพื่อเสาะหาผู้ที่ต้องการร่วมงานกับเราในการผสมผสานศิลปะและความเชี่ยวชาญด้านอัญมณีของพวกเขาลงในLegacy Machine FlyingT ซึ่งจริงๆแล้วอาจเปรียบเหมือนกับการมอบผืนผ้าใบเปล่าให้พวกเขาได้วาดจินตนาการและศิลปะลงไป”
นับจากปีที่แแล้วที่ Legacy Machine FlyingT ได้รับการแปลงโฉมด้วยอัญมณีโดยร่วมกับร่วมงานกับแบรนด์หรูสัญชาติอิตาลีอย่าง บุลการี ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ล่าสุดก็ถึงเวลาของ Legacy Machine FlyingT Ice & Blizzard ซึ่งทางแบรนด์ได้ร่วมงานกับ เอ็มมานูเอล ตาร์แปง นักออกแบบเครื่องประดับรุ่นใหม่จากฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก กระทั่งริฮันน่า นักร้องสาวชื่อดังก็เคยสวมใส่ผลงานของเขามาแล้ว
อันที่จริง แม็กซ์กับตาร์แป็งเคยพบกันมาก่อนสมัยที่ตาร์แป็งยังศึกษาอยู่ ณ Haute école d’art et de design (HEAD) โรงเรียนสอนศิลปะและการออกแบบในเจนีวา เมื่อแม็กซ์ได้เข้าไปถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ เอ็มบีแอนด์เอฟ กับนักศึกษา และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีต่อมา ชื่อของ เอ็มมานูเอล ทาร์แปง ก็โด่งดังขึ้นในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับอัญมณีที่กำลังมาแรงจนเป็นที่จับตามอง การมองเห็นเขามีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ แม็กซ์จึงเพิ่งสังเกตว่า จริงๆ แล้วพวกเขานั้นเชื่อมโยงถึงกันอยู่แล้วใน ลิงค์อิน (LinkedIn) จึงได้ส่งข้อความหาเขา จากนั้น ที่เหลือก็อย่างที่รู้กันและนำมาสู่ความร่วมมือครั้งนี้
ผลงานล่าสุดได้แรงบันดาลใจมาจากฤดูหนาว แบ่งเป็นสองธีมคือ Blizzard ที่ดูเหมือนเกิดพายุหิมะภายใต้โดม ตัดกับแบ็กกราวด์สีน้ำเงินของลาปิซลาซูลีแบบแมตต์เพื่อให้ตัดกับประกายขงเพชร อีกธีมคือ Ice เหมือนน้ำแข็งกำลังเกาะอยู่บนโดม ธีมละ 8 เรือน ตัวเรือนไวท์โกลด์ ส่วนเม็ดมะยม ทูร์บิญง ประดับพาไรบาซึ่งหายากมาก สีเหมือนกับน้ำในทะเลสาบ
“แวบแรกอาจจะคิดว่าเพชรเกาะอยู่บนโดมแก้ว แต่ที่จริงต้องผลิตโครงสร้างขึ้นมาเพราะประดับเพชรลงไป โดยโครงสร้างนั้นมีความโค้งในองศาที่พอดีกับโดม ซึ่งนั่นคือความท้าทายของโปรเจ็กต์นี้ซึ่งกินเวลาสองปี”
ไม่เพียงเท่านั้น ตาร์แปงยังขอขจัดองค์ประกอบที่เป็นสีทองออกทั้งหมด เพื่อไม่ให้ชนกับสีของตัวเรือนไวท์โกลด์และธีมน้ำแข็ง โดยคำขอที่ฟังดูคล้ายจะเรียบง่ายนี้ ทว่า จริงๆ แล้ว กลับเป็นความท้าทายอย่างมาก ด้วยเพราะองค์ประกอบของเยลโลโกลด์ หรือเรดโกลด์ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องถูกเปลี่ยน ขณะที่บาลานซ์วีลเองก็ถูกทำให้เป็นสีน้ำเงิน ส่วนอีกหนึ่งคำขอคือการเปลี่ยนการประดับเพชรไว้ลงบนศูนย์กลางของตูร์บิญง และเม็ดมะยมสองเม็ดซึ่งประดับไว้ด้วยอัญมณีพาไรบา โดยระหว่างชิ้นส่วนควบคุมและโรเตอร์ ยังประกอบด้วยตลับลานที่มั่นใจได้ถึงการสำรองพลังงานได้นาน 100 ชั่วโมง โดยการลดจำนวนของเฟืองเกียร์ต่างๆ ลง ส่วนกระจกแซฟไฟร์โค้งโดมด้านบนมอบซึ่งการประกอบแบบสามมิติ ที่ช่วยให้สามารถชื่นชมองค์ประกอบการขับเคลื่อนราวกับมีชีวิตของกลไกด้านใต้ได้
ความสวยงามแห่งสัมพันธภาพครั้งนี้ยังอยู่เหนือยิ่งกว่าอาณาจักรแห่งเรือนเวลาประดับอัญมณีสุภาพสตรีสลับซับซ้อน แต่ได้ร่วมตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์สองด้านของโลก กับสองการตีความของพลังสร้างสรรค์ที่มีความแตกต่างกันในรูปแบบอย่างสิ้นเชิง ทว่า ยังคงหลอมรวมไว้ภายใต้สสารแห่งการร่วมกันสร้างสรรค์ได้อย่างผสมผสานและกลมกลืน ที่แสดงออกถึงพลังแห่งความร่วมมืออย่างแท้จริง
