สไตล์ยุครีเจนซี่ (Regency) ได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อซีรีส์ Bridgerton เข้าฉาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีซีซั่นสอง ทำให้มีการค้นหาคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับสไตล์รีเจนซี่มากขึ้น แน่นอนว่าสไตล์นี้ไม่ได้แปลกใหม่ เพราะมักพบได้ในภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่สร้างจากนิยายของนักเขียน เจน ออสเต็น (Pride & Prejudice, Emma, Sense & Sensibility)
ในช่วงปลายยุค 1700s ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสถือเป็นมหาอำนาจทางการปกครองในทวีปยุโรป แต่เมื่อเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงการปกครองในฝรั่งเศสในปี 1785 ทำให้เกิดความพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ก็ตามที่มาจากระบอบเก่า หรือ Ancien Régime ไปด้วย
ในช่วงที่นโปเลียนที่ 1 สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิของฝรั่งเศสในปี 1804 ตรงกับยุคสมัยของเจ้าชายจอร์จ (ต่อมาขึ้นเป็นกษัตริย์ จอร์จที่ 4) ซึ่งเป็น Prince Regent ของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ใ ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับแนวคิดแบบนีโอคลาสสิกหรือสิ่งที่เคยรุ่งโรจน์ในสมัยกรีกโรมันโบราณ นโปเลียนได้นำแนวคิดนี้มาใช้สร้างประเทศซึ่งตอนนั้นเรียกว่าเป็นจักรวรรดิ เพื่อสะท้อนถึงความรุ่งเรือง แต่ก็แตกต่างจากยุคเก่าก่อน
ระบอบและค่านิยมที่เปลี่ยนไปก็ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตด้วย ที่เห็นได้ชัดก็คือแฟชั่นการแต่งกาย จากชุดกระโปรงคอร์เซ็ตใส่สุ่มฟูฟ่องในยุคกษัติรย์ ก็เปลี่ยนมาเป็นชุดเดรสทรงเอ็มไพร์ (empire dress) หรือที่แปลกันว่า ชุดกระโปรงต่อใต้อก เนื่องจาก waistline ยกสูงขึ้นมาอยู่ใต้อก แขนเสื้อพองเล็กน้อย คอเสื้อแบบตัดตรงและค่อนข้างลึก
โครงชุดสไตล์นี้เรียบง่าย แต่เน้นความสง่างามและเฟมินีน ผ้าพลิ้วบางเบา สบายๆ ทำให้นึกถึงการแต่งกายของผู้หญิงกรีกโรมันยุคโบราณ ถ้าดูภาพจิตรกรรมก็จะเห็นพระนางโจเซฟีน จักรพรรดินีในสมัยการปกครองของนโปเลียนสวมชุดกระโปรงสไตล์นี้ (ฝรั่งเศสในยุคจักรวรรดิ ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะเรียกชุดสไตล์นี้ว่าชุดเอ็มไพร์ ซึ่งมาจากคำว่าจักรวรรดินั่นเอง)
ทางฝั่งอังกฤษเองก็รับเอาค่านิยมแบบนีโอคลาสสิกมาเช่นกัน แต่เรียกกันว่ายุค Regency สไตล์ของชุดก็จะมีความคล้ายคลึง แต่ในซีรีส์เรื่อง Bridgerton ถือเป็นนำสไตล์นี้ไปทวิสต์ใหม่ ให้เหมาะกับเรื่องราวที่จะเล่าผ่านซีรีส์ ถ้าจะคล้ายกับยุคดั้งเดิมที่สุดก็คือการแต่งกายของสาวๆ ตระกูลบริดเจอร์ตัน
ย้อนกลับไปในซีซั่น 1 Ellen Mirojnick คอสตูมดีไซเนอร์ (ซึ่งเคยมีผลงานในเรื่อง Maleficent: Mistress of Evil, The Greatest Showman) ได้ผสมผสานยุคประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เธอจึงลงมือค้นคว้าสไตล์การแต่งกายในยุครีเจนซี และแต่งเติมรายละเอียดลงไปให้น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ชมในยุคปัจจุบัน
“เราคิดว่าจะนำเสนอยุคสมัยด้วยเฉดสีและรูปแบบการผลิต เราทำให้มันดูมีสีสัน แต่ในส่วนการผลิต เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เราได้ศึกษาว่าผ้าไหมและผ้าแฟนซีจากฝรั่งเศสนั้นไม่ได้ถูกนำเข้ามาในอังกฤษยุครีเจนซี่ เพราะเป็นช่วงสงคราม คนยุคนั้นเลยใส่แต่ผ้าหนาๆ แบบผ้าฝ้าย แต่เราไม่ทำแบบนั้น”
สำหรับสาวๆ ยุคใหม่คนไหนที่กำลังอินกับสไตล์คนยุคปัจจุบันเรียกกันว่า Regencycore (ตามแนวการเรียกชื่อเทรนด์ในยุค TikTok ที่มักนำคำนามมาบวกกับคำว่า core เช่น normcore, cottagecore) ก็ลองนำเอเลเมนต์บางอย่างเช่น ชุดกระโปรงทรงเอ็มไพร์ เนื้อผ้าเบาสบาย เฉดสีละมุน แขนตุ๊กตา มาปรับใช้เพื่อเติมความสนุกให้กับการแต่งกายในชีวิตประจำวันได้นะ
