“ปารีสสร้างอยู่บนความเพ้อฝัน” อัลฟี่ หนุ่มคนใหม่ที่เอมิลี่ คูเปอร์ได้พบพูดกับเธอ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ใน Emily Season 2 ซึ่งเอมิลี่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในเรื่องการงาน มิตรภาพ และความรัก แต่ทีมงานก็ตั้งใจเลือกสถานที่เก๋ๆ ให้เป็นฉากหลังของเรื่อง
ใครที่อยากตามรอยซีรีส์เรื่องนี้ ต่อไปนี้คือสถานที่ที่เราแนะนำ
Le Café Marly
ฉาก girl’s talk ถึงปัญหาความรักมันขาดไม่ได้ในซีรีส์สำหรับผู้หญิง แต่ถ้าจะให้เก๋ก็ต้องชวนกันมาเมาธ์ที่ เลอ กาเฟ่ มาร์ลี ซึ่งเป็นร้านอาหารสุดเก๋ที่ตั้งอยู่ข้างพีระมิดแก้วในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เรียกได้ว่าได้เสพบรรยากาศอาร์ตๆ และรับไอแดดและสายลมไปพร้อมๆ กัน
Address: 93 Rue de Rivoli, 75001
Bateau Mouche
บาโต มูช คือชื่อเรือล่องแม่น้ำแซนกลางกรุงปารีส บางคนอาจรู้สึกว่า อุ๊ย! กิจกรรมแบบทัวริสต์! แต่บอกเลยว่าในชีวิตถ้ามีโอกาสก็ไปสักครั้งเถอะ ไม่ว่าจะล่องเรือยามกลางวันหรือชมวิวยามค่ำ ดูอย่างเอมิลี่ที่ให้อัลฟี่ พ่อหนุ่มชาวอังกฤษมาเจอบนเรือซึ่งล่องผ่านหอไอเฟล โรแมนติกใช่ไหมล่ะ
Café de la Nouvelle Mairie
จริงๆ ปารีสมีร้านแนวนี้เต็มไปหมดเพราะคนปารีสชอบนั่งจิบเครื่องดื่มที่โต๊ะเล็กๆ หน้าร้าน จะได้ถือโอกาสชมบรรยากาศบนถนนด้านนอก อย่างเช่นที่ร้าน กาเฟ่ เดอ ลา นูแวล แมรี ในย่าน Quartier Latin ไม่ไกลจาก Panthéon ถ้าคุณเป็นนักเขียน ก็เหมาะที่จะไปนั่งสังเกตผู้คนเผื่อได้ไอเดียเหมือนกัน
Address: 19 Rue des Fossés Saint-Jacques, 75005 Paris,
La Samaritaine
ในซีรีส์ เอมิลี่ เดินเล่นฝึกภาษาฝรั่งเศสกับเพตร้า เพื่อนสาวชาวยูเครน และมาช็อปปิ้งด้วยกันที่ห้าง รวมทั้งงานอีเวนต์ของแบรนด์น้ำหอม Maison Lavaux ก็จัดขึ้นที่นี่ ห้าง ลา ซามาริแตน เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ตัวอาคารเคยเป็นห้างเก่าแก่ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1870 ทางกลุ่มบริษัทลักชัวรี่ LVMH ได้เข้าซื้อกิจการและรีโนเวตใหม่โดยยังคงเก็บรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมของการตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco สายช็อปตัวจริงห้ามพลาดไปเยือน
Address: 9 Rue de la Monnaie, 75001
Tortuga Galeries Lafayette Paris Haussmann
ปารีส เมืองมรดกโลก นั้นหาตึกสูงได้ยาก แต่ถ้าจะมีสักแห่งที่ควรค่าแก่การขึ้นไปชมวิว ก็ต้องยกให้กับ ตอร์ตูกา ที่ห้าง กาเลอรีส์ ลาฟาแยต ปารีส โอสมานน์ ร้านอาหารสุดชิคนี้มองเห็นวิวตึกโอเปร่า การ์นิเยร์ และเส้นขอบฟ้าของปารีส เหมาะจะนัดกันมานั่งชิลล์เพื่อเคลียร์ใจเหมือนเอมิลี่และกามิลล์
Address: 25 Rue de la Chaussée d’Antin, 75009
Place des Vosges
ย่านมาเรส์เป็นหนึ่งในย่านฮิปที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายที่คนหนุ่มสาวชอบไปเยือน และใกล้ๆ กันนั้นยังมีลานที่เรียกว่า ปลาซ เดส์ วอสจ์ ให้ไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ (แถมในบริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของ Maison Victor Hugo บ้านของ วิกตอร์ อูโก นักเขียนชื่อดังผู้แต่งวรรณกรรม Les Misérables) มินดี้กับเบอนัวต์ เพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันก็มาปิกนิกและจุมพิตกันที่นี่ โรแมนติกและติสต์สุดๆ
Address: Place des Vosges, 75004
Père Lachaise
การเดินเล่นในสุสานไม่ใช่เรื่องแปลกของคนฝรั่งเศส ความสงบของสถานที่ช่วยให้เราได้ขบคิดเกี่ยวกับชีวิต เหมือนที่ลุค เพื่อนร่วมงานของเอมิลี่ชวนเธอไปพักกินข้าวกลางวันในวันเกิดที่หน้าหลุมศพของ บัลซัก นักเขียนชื่อดังของฝรั่งเศส ที่นี่เป็นที่ฝังศพของคนดังมากมาย ทั้งออสการ์ ไวลด์, เอดิธ พิยาฟ, เออแฌน เดอ ลาครัวซ์ และเต็มไปด้วยงานประติกรรมที่น่าเคารพชื่นชม
Address: 28 Boulevard de Menilmontant, 75020
Passage Choiseul
นอกจากบูติกแบรนด์เนมชื่อดังระดับโลกที่ทุกคนอยากไป ปารีสยังมีมุมเล็กๆ น่ารักให้ได้ชม เหมือนที่ ปาสาจ ชัวเซิล ซึ่งเป็นทางเดินยาวมีหลังคาคลุม ทั้งสองข้างขนาบด้วยร้านขายของ ร้านหนังสือเก่า แกลเลอรี่ และร้านอาหารเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากย้านโอเปร่า เป็นสถานที่เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุค 1800s ถ้าให้เทียบก็คงเหมือนสยามสแควร์ในยุคเก่า
Address: Place du 11 Novembre 1918, 75010
Le Champo
โรงหนังในกรุงเทพนั้นโอ่อ่าหรูหราสุดๆ แล้ว แต่โรงหนังเล็กๆ เก่าแก่ก็มีเสน่ห์และโรแมนติกไปอีกแบบซึ่งพบได้หลายแห่งในปารีส อย่างเช่นที่ เลอ ชองโป สถานที่ประวัติศาสตร์ และเน้นฉายหนังคลาสสิก แบบที่ลุคชวนเอมิลี่ไปดูภาพยนตร์ Jules et Jim ของผู้กำกับฟรองซัวส์ ทรุฟโฟต์ หนึ่งในผู้นำกระแสหนัง Nouvelle Vague หรือ New Wave
Address: 51 Rue des Écoles, 75005
Pont Neuf
ปง เนิฟ แปลว่า สะพานใหม่ แต่ที่จริงแล้ว นี่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแซนที่เก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในปี 1578 มีภาพยนตร์หลายเรื่องใช้สะพานนี้เป็นฉาก (เช่น Les Amants du Pont Neuf, Before Sunset และ Midnight in Paris) ในตอนจบของซีซั่น 2 เอมิลี่ก็มายืนคิดถึงอนาคตของเธอที่นี่เหมือนกัน
Address: Pont Neuf, 75001
