

ไลลา มอสส์ (Lila Moss) เจริญรอยตามย่างก้าวของเคต มอสส์ (Kate Moos) ผู้เป็นแม่มาติดๆ มิลานแฟชั่นวีกที่ผ่านมาทั้งคู่เดินแบบด้วยกันในคอลเลกชั่น ‘Fendace’ ซึ่งเป็นการคอลแล็บกันระหว่าง Versace และ Fendi นางแบบวัย 18 ปีปรากฏตัวในชุดว่ายน้ำไฮคัตสีทองสไตล์บาโรกที่วิจิตรบรรจง ก่อนคอมพลีตลุคด้วยเบลเซอร์ปักลายสุดหรู สร้อยคอ กระเป๋าโท้ต และกระเป๋าถือใบเล็ก แต่สิ่งสะดุดตาที่สุดคือ Omnipod เครื่องปั๊มอินซูลินแบบไร้สายที่ต้นขาซ้ายของเธอ

ไลลาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ทำให้เธอต้องคอยฉีดอินซูลินอยู่ตลอด “ฉันคิดว่าไม่ค่อยมีใครรู้ว่าฉันเป็นเบาหวาน เพราะถ้าดูจากภายนอกจะไม่มีทางรู้ได้เลย” เธอเล่า นอกจากการตัดสินใจที่จะไม่ปิดบังแล้ว เธอยังแสดงออกอย่างภาคภูมิใจด้วยการติดเครื่องปั๊มอินซูลินไว้กับตัวตอนที่เดินบนแคตวอล์กในโชว์ครั้งนี้อีกด้วย ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างชื่นชมในตัวไลลาเป็นอย่างมาก “นี่คือหลักฐานที่เห็นชัดเจนว่าการเป็นเบาหวาน T1 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสรีระหรือรูปแบบการใช้ชีวิตของคนคนหนึ่งได้เลย” ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งกล่าว

Insulet บริษัทผู้ผลิตเครื่องปั๊มอินซูลินกล่าวว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างเหลือเชื่อ ในการได้เห็นเทคโนโลยีที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานสวมใส่อย่างภาคภูมิใจ และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเช่นเดียวกัน
โรคเบาหวานประเภท 1 (Type 1 diabetes) เป็นภาวะเรื้อรังที่เกิดจากตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้เพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้เลย จากข้อมูลของมาโยคลินิก (Mayo Clinic) ระบุว่าอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายต้องการ มีหน้าที่สำคัญคือนำน้ำตาล (หรือที่เรียกว่ากลูโคส) เข้าสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเพื่อสร้างเป็นพลังงาน ตอนนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด หากแต่มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดด้วยอินซูลิน การควบคุมอาหาร และการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 1 บางรายจะฉีดอินซูลินเป็นประจำเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่หลายคนจะใช้เครื่องปั๊มอินซูลินซึ่งตั้งโปรแกรมให้จ่ายอินซูลินในปริมาณที่กำหนดได้โดยอัตโนมัติ