Friday, December 1, 2023

Total Transparency นาฬิกาตัวเรือนแซฟไฟร์

นอกจากวัสดุอย่างสตีลและทองซึ่งเป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับผลิตตัวเรือนนาฬิกาแล้ว ระยะหลังๆ มานี้ แบรนด์นาฬิกาชั้นนำได้หันมาทดลองใช้วัสดุแปลกใหม่ หนึ่งในนั้นคือ Sapphire Crystal เพื่อผลิตตัวเรือนด้วยวัสดุใสราวกับแก้ว เพื่อเผยให้เห็นความงดงามของกลไกที่อยู่ภายใน ชนิดที่ว่าเห็นได้จากทุกมุม ไม่ใช่แค่ผ่านหน้าปัดหรือฝาหลังตัวเรือนเท่านั้น 

Sapphire Crystal เป็นแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีความแข็ง (hardness) ระดับ 9 รองจากเพชรตามหลัก Moh Scale ซึ่งหมายถึงทนทานต่อการขีดข่วน  แต่ในความแข็งก็มีความเปราะ ไม่ได้เหนียวเหมือนวัสดุอื่นๆ จึงสามารถแตกได้ 

Sapphire Crystal  ผลิตจากแร่คอรันดัม หรืออะลูมิเนียมออกไซด์  ซึ่งผ่านการเพาะให้เติบโตในห้องแล็บจนได้ขนาดพอเหมาะรวมทั้งความกระจ่างใส จึงใช้ทั้งเวลาและพลังงานมาก มีความแข็งระดับเดียวกับแซฟไฟร์ธรรมชาติ แต่ต่างตรงที่ไม่มีสีมากมายเหมือนแซฟไฟร์ธรรมชาติ และต้องนำไปผ่านเครื่องมือที่มีปลายหัวเป็นเพชรเพื่อตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ 

การนำ Sapphire Crystal มาผลิตเป็นกระจกหน้าปัดและฝาหลังตัวเรือนเพื่อโชว์กลไกเป็นเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แบรนด์นาฬิกาชั้นสูงทั้งหลายได้ทุ่มเทและท้าทายตนเองด้วยการนำ sapphire crystal มาสร้างสรรค์เป็นตัวเรือนสามมิติซึ่งมีความซับซ้อน จึงต้องใช้ฝีมือ ต้นทุน และเวลา (ว่ากันว่าเป็นร้อยๆ ชั่วโมงเลยทีเดียว) 

RICHARD MILLE

นาฬิกาทรงตอนโนเป็นเอลกักษณ์จากแบรนด์ Richard Mille รุ่น RM 53-02 Tourbillon Sapphire  ตัวเรือน ขอบตัวเรือน และฝาหลังผลิตจากแซฟไฟร์สังเคราะห์ซึ่งท้าทายในการผลิตและมีราคาสูง ทั้งยังโปร่งใสจนชื่นชมกลไกอันสลับซับซ้อนอย่างทูร์บิญง 

BELL & ROSS

BR 01 Cyber Skull Sapphire คือหนึ่งในผลงานพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่องานประมูลนาฬิกาการกุศล Only Watch โดยนำเอาคอลเลกชั่น BR 01 มาตีความใหม่  ประดับหัวกระโหลกคริสตัลบนหน้าปัดซึ่งใช้เทคนิคเคลือบเมทัลลิกสีส้ม บรรจุอยู่ในตัวเรือนโปร่งใส พร้อมด้วยทูร์บิญง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา

HUBLOT

Big Bang Tourbillon Orange Sapphire ตัวเรือนผลิตจากแซฟไฟร์ในเดสีส้ม  ทั้งใช้บริดจ์ที่ทำจากแซฟไฟร์ กลไกที่ดีไซน์แบบสเกเลตันที่มองเห็นได้ผ่านพื้นหน้าปัดแบบใส กำลังลานสำรอง 72 ชั่วโมง 

CHANEL

จากเดิมที่ใช้วัสดุไฮเทคเซรามิก แต่สำหรับ CHANEL J12 X-Ray ชาเนลเลือกสร้างสรรค์ J12 ด้วยแซฟไฟร์โปร่งใสโดยยังคงเอกลักษณ์การดีไซน์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งแซฟไฟร์ใสนี้ปรากฏทั้งบนตัวเรือน สะพานจักร แท่นเครื่อง หน้าปัด สายรัดข้อมือ ยกเว้นเข็มนาฬิกา วีล เมนสปริง และชิ้นส่วนจิ๋วๆ บางชิ้น

MB&F

กระจกแซฟไฟร์คริสตัลที่ครอบหน้าปัดทรงโดมโค้งของ Legacy Machine Flying T  นอกจากท้าทายในการขึ้นรูป ยังรับกับกลไกที่มีจักรกลฟลายอิ้งทูร์บิญง และหน้าปัดเวลาซึ่งวางตัวในแนวเอียง 50 องศา เห็นซับซ้อนขนาดนี้ ผลงานนี้ตั้งใจออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ 

LOUIS VUITTON

Tambour Moon Flying Tourbillon Poinçon de Genève Sapphire  คือผลงานชั้นสูงล่าสุดประจำปีนี้ ทั้งยังนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาประเภทนี้ที่ได้รับตราประทับ Poinçon de Genève กลไกฟลายอิงทูร์บิญงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านตัวเรือนแซฟไฟร์เฉดสีชมพูที่ผลิตขึ้นโดย La Fabrique du Temps Louis Vuitton  

Other Articles