ต้องบอกว่า Jaeger-LeCoultre (เจเกอร์-เลอกูลทร์) เป็นแบรนด์นาฬิกาชั้นสูงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทั้งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งในด้านกลไก เทคนิค และงานหัตถศิลป์ โดยมีโรงงานขนาดใหญ่ที่รวมแทบจะทุกแผนกเข้าไว้ในสถานที่แห่งเดียวกัน ณ เมือง เลอ ซองติเยร์ และที่สำคัญ ทางแบรนด์ยังมีสายสัมพันธ์อันดีกับโลกภาพยนตร์ ทั้งผ่านการสนับสนุนเทศกาลภาพยนตร์เก่าแกที่สุดในโลกอย่างเวนิซ รวมทั้งเซี่ยงไฮ้ การที่นาฬิกาได้รับเลือกให้เข้าฉากในภาพยนตร์ (ถ้าล่าสุดก็ต้องยกให้กับเรื่อง Dr. Strange) รวมทั้งการทำงานร่วมกับนักแสดงชั้นนำผ่านแคมเปญต่างๆ
ดังเช่นในโปรเจ็กต์แคมเปญล่าสุดที่ได้ร่วมงานกับ Amanda Seyfried นักแสดงสาวมากความสามารถจากภาพยนตร์หลายเรื่อง (ล่าสุดคือ Mank ที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิง) ในภาพนี้ อแมนดาได้โพสท่าให้กับ Alique ช่างภาพชาวดัตช์ถ่ายทอดความสง่างาม เสน่ห์แบบเฟมินีน และความมั่นใจของเธอออกมา พร้อมกับนาฬิกา Reverso One Duetto Moon ซึ่งออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ
Reverso One Duetto Moon คือหนึ่งในผลงานใหม่ประจำปีจากคอลเลกชั่น Reverso ซึ่งครบรอบ 90 ปีในปีนี้ คอลเลกชั่นไอคอนิกของแบรนด์ซึ่งดีไซน์แบบอาร์ตเดโคมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าปัดซึ่งสามารถพลิกกลับด้านได้ กำเนิดของคอลเลกชั่นนี้มาจากกีฬาโปโลม้าซึ่งเต็มไปด้วยความแรงและเสี่ยงอันตราย ผู้เล่นจึงต้องการนาฬิกาที่มีระบบป้องกันไม่ให้หน้าปัดเสียหาย ดีไซน์พลิกกลับด้านหน้าปัดได้จึงได้รับสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และกลายเป็นหนึ่งในลูกเล่นที่คนชื่นชอบ
“ถ้าให้นิยามนาฬิกา Reverso ฉันขอใช้คำว่า ไร้กาลเวลา นวัตกรรม และเรียบง่ายบริสุทธ์ค่ะ” อแมนดากล่าว เธอยังบอกด้วยว่า “ฉันชอบนาฬิกาที่สวมกับเชิ้ตก็ได้หรือกับกระโปรงก็ได้ แล้วมันก็เข้ากับสไตล์ของฉันค่ะ แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าความประณีตและรายละเอียดมากมายจะลงตัวอยู่กับตัวเรือนขนาดเล็กนี้ได้ แล้วการที่มีหน้าปัดสองหน้าอยู่ในเรือนเดียวก็วิเศษที่สุด”
ดีไซน์ที่สามารถพลิกกลับด้านได้ทำให้ใช้ประโยชน์จากหน้าและหลังนาฬิกาได้อย่างเต็มที่ โดยจะใช้เป็นหน้าปัดเวลาด้านหนังและดีไซน์ให้อีกด้านเป็นดั่งแคนวาสตกแต่งด้วยงานศิลปะก็ได้ หรือจะใส่ฟังก์ชั่นเวลาลงไปบนหน้าปัดทั้งสองด้านก็ได้ อย่างเช่น Reverso One Duetto Moon ซึ่งด้านหน้าปัดสีขาวแสดงชั่วโมงและนาที และด้านหน้าปัดสีแดงแสดงชั่วโมง นาที และมูนเฟส ทั้งยังประดับเพชร เรียกได้ว่าเหมือนได้นาฬิกาสองเรือนในเรือนเดียว
