As the Way It Comes to Be คือคอลเลกชั่น ที่เล่าเรื่องผ่านสีสันและรูปทรงที่พบได้ตามธรรมชาติ และหยิบเอาหัวข้อดังกล่าวมาศึกษาภายในบริบทของผืนผ้าทรงสี่เหลี่ยม โดยต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามและความแข็งแกร่งของธรรมชาติซึ่งปราศจากการปรุงแต่งอย่างแท้จริง ในคอลเลกชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2021/22 จาก ISSEY MIYAKE
คอลเลกชั่นนี้ Satoshi Kondo เสมือนการเล่าเรื่องผ่านไอเดียและเหล่าธรรมชาติผสมผสานกับเทคนิค DNA การพับการจับจีบการตัดต่อและลวดลายเฉพาะตัวของ ISSEY MIYAKE อย่างลงตัวพร้อมให้ความคลาสสิกอันเป็นนิรันดร์ได้ชัดเจน
อีกทั้งให้ความสำคัญกับผิวสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปของเนื้อผ้าแต่ละชนิด และได้แบ่งเป็น 6เทคนิค 6ดีเทลมากถึง 6ซีรีย์ด้วยกันเริ่มกันที่
ซีรีย์แรก CLIFF เนื้อผ้าในซีรีส์นี้ทอขึ้นด้วยเส้นด้ายสองแบบ อย่างแรกคือเส้นด้ายสำหรับการจับพลีท และสองคือเส้นด้ายสำหรับบริเวณที่ไม่ได้จับพลีท จุดเด่นงานดีไซน์อยู่ที่ผิวสัมผัสแบบหนึ่งซึ่งแปรเปลี่ยนไปสู่อีกแบบหนึ่ง ในขณะที่ส่วนที่เป็นพลีทของเสื้อผ้าปรากฎความโค้งมนที่มีลักษณะคล้ายรอยกระเพื่อมขนาดใหญ่ ส่วนที่ไม่จับพลีทให้สัมผัสนุ่ม และมีผิวสัมผัสที่เป็นเงาเล็กน้อย ทำให้ได้ลุคที่ดูละเอียดอ่อนชวนมอง
RISE ซีรีส์นี้ที่ใช้เนื้อผ้าผสมคอตตอน-โพลีเอสเตอร์ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย บางส่วนของเสื้อผ้าทอขึ้นด้วยเส้นด้ายอีลาสติคที่มีการหดตัวก่อนการซัก ทำให้ได้โครงร่างแบบออร์แกนิกจากงานคัตติ้งในรูปทรงสี่เหลี่ยม
STONE ลวดลายของซีรีส์นี้ได้แรงบันดาลใจจากหิน และทำขึ้นโดยช่างฝีมือในเกียวโตซึ่งใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า suminagashi เทคนิคดังกล่าวนั้นสร้างสรรค์ขึ้นโดยการหยดสีย้อมผ้าลงบนผิวน้ำและปล่อยให้มันค่อย ๆ ขยายตัวอย่างเป็นอิสระเข้าหากัน จากนั้นจึงนำผ้าสะอาดมาซับเอาสีและลวดลายลงไป ซีรีส์นี้ประกอบด้วยเสื้อผ้า5ไอเทมซึ่งรวมถึงเสื้อเชิ้ตและเดรส โดยปรากฏในโครงร่างที่คลุมไว้บนเรือนร่างอย่างอ่อนโยน ซึ่งช่วยดึงเอาความงามของลวดลายออกมาให้เห็นเด่นชัดยิ่งขึ้น
SILK SHADE ลวดลายของซีรีส์นี้ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ในจินตนาการซึ่งบานอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ โดยทำขึ้นจากเทคนิคย้อมผ้าแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า hogushigasun*โดยดีไซน์ของซีรีส์นี้เลือกใช้ผ้าเต็มตามความยาว เพื่อให้ได้เสื้อผ้าที่สามารถวางแบนราบและพับได้ในรูปทรงสี่เหลี่ยมแต่ขณะเดียวกันก็ยังได้ลุคแบบสามมิติเมื่อสวมใส่ลงบนร่างกาย
*เทคนิคในการสร้างสรรค์ลวดลายโดยการนำเอาเส้นด้ายพุ่งออกจากเนื้อผ้าที่ทอขึ้นอย่างหลวม ๆ ซึ่งมีลวดลายที่พิมพ์ไว้อยู่ก่อนแล้ว และนำกลับมาทอซ้ำ ในระหว่างกระบวนการที่เส้นด้ายยืน(เส้นด้ายในแนวตั้ง) เคลื่อนที่เล็กน้อย ส่งผลให้รูปทรงของลวดลายดั้งเดิมดูเบลอขึ้นไม่ชัดเจน จนเกิดเป็นลุคที่ดูนุ่มนวล
MONOCHROME PLANET ซีรีส์ที่จับพลีทด้วยมือทำให้ได้มาซึ่งเครื่องแต่งกายในรูปทรงกลมมน พร้อมด้วยช่องและพลีทแบบมีศูนย์กลาง โดยมีให้เลือกสามเฉดสี ได้แก่ เทาอ่อน เทาเข้ม และดำ โดยแต่ละชุดสามารถนำมาพับให้มีขนาดกะทัดรัดตามแนวพลีท ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนรูปทรงจากผ้าที่แบนราบไปสู่รูปทรงอันโค้งมนแบบสามมิติได้
FINE SHIRT ซีรีส์เสื้อเชิ้ตทำจากเนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่นให้สัมผัสอันอ่อนนุ่มและมีน้ำหนักเบาโดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โก้หรูมีให้เลือกทั้งทรงสั้น ทรางปรกติ และทรางยาว โดยทรงปรกตินั้นจะมาพร้อมเข็มขัดที่ทำจากเนื้อผ้าเดียวกัน
“ลองมองไปยังธรรมชาติที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างพินิจพิเคราะห์ จดจำสีสันและรูปทรงดังที่มันเป็น ก้อนหินที่คงทนเปลือกหอยที่ถูกซัดขึ้นฝั่ง และหินทรงไข่ที่เรียงรายอยู่บนผืนทราย ในบางครั้งก็ยืนหยัด แต่บางครั้งก็เปราะบางบางครั้งก็เนียนเรียบ บางครั้งหยาบกระด้าง ดูดซับแสงและทอดเงา ขยาย บีบ และซ้อนทับธรรมชาติแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป การมีส่วนร่วมกับธรรมชาติและรูปแบบอันหลากหลายเราสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ด้วยมือของเรา เพื่อค้นหาความงามและความแข็งแกร่งอันเป็นสากล ซึ่งค้นพบได้ในผืนผ้าทรงสี่เหลี่ยม” นี่คือคำกล่าวที่เราจะเห็นได้ชัดและเข้าใจคอลเลกชั่นนี้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นจาก Satoshi Kondo
เรียกได้ว่า “As the Way It Comes to Be” จาก ISSEY MIYAKE นั้นนอกจากจะหลากหลายดีไซน์มากซีรีย์แล้วนั้นยังให้เสน่ห์ในความงามที่แตกต่างกันออกไปร่วมถึงแสดงให้เห็นถึงเทคนิคแรงบันดาลใจอัดแน่นไปด้วยความคิดที่ผสมผสานกับธรรมชาติและความปราณีตผ่านเครื่องแต่งกายได้อย่างชัดเจน สำหรับใครที่เป็นสาวก ISSEY MIYAKE แล้วล่ะก็คิดว่าต้องมีครอบครองแล้วละ เพราะมันคู่ควรจริงๆ
คุณสามารถเลือกชมคอลเลกชั่นเสื้อผ้าประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2021/22จาก ISSEY MIYAKE (อิซเซ่ มิยะเกะ) ได้ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น G โทร. 02-021-2142 นะคะ
