ความสามารถอันแพรวพราวของผู้หญิงชื่อ ‘มัจฉา โมซิมันน์’

ลอฟฟีเซียล พลัส (L’Officiel +) คอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ ประจำเดือนพฤษภาคมนี้ พบกับ ‘มัจฉา โมซิมันน์’ นักร้อง-นักธุรกิจ-ดารา-นางแบบ

และถ้าจะให้ครบต้องเติมคำว่านักศึกษาต่อท้ายเข้าไปด้วย ในวัยเพียง 21 เธอยังคงทำทุกอาชีพที่กล่าวมาทั้งหมด และทำได้ดีเสียด้วย นารีมีรูปเป็นทรัพย์คงเป็นตรรกะที่ไม่จีรัง ถ้าใครคนนั้นไม่ได้ทุ่มเทหรือก้าวผ่านความพยายาม มัจฉาเป็นหญิงสาวที่ครบเครื่องทั้งรูปร่างหน้าตา ความสามารถ เธอไม่ผลักไสโอกาสที่เข้ามา แถมยังมีพลังเหลือๆ เผื่อไว้สำหรับงานที่อยากทำต่อไปอีกด้วย

ตอนนี้มัจฉาทำอะไรอยู่บ้าง

“ในพาร์ตของนักร้อง ตอนนี้กำลังทำอัลบั้มอยู่ค่ะ ปล่อยเพลงมาแล้วสามเพลง เหลืออีกสองเพลง และจะมีไลฟ์โชว์เร็วๆ นี้ แต่ว่าต้องดูสถานการณ์โควิดก่อน ฉาทำแบรนด์เสื้อผ้าของผู้หญิงด้วย และแบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกาย ทำเพจเกี่ยวกับเรื่องกินและออกกำลังกาย ชื่อว่า dietsocietythailand นอกจากนี้ก็เรียนไปด้วยค่ะ ด้านแฟชั่นดีไซน์ปีสุดท้ายแล้ว”

ทำหลายอย่างแบบนี้ โฟกัสอะไรมากกว่ากัน

“ถ้าเป็นธุรกิจจะให้ความสำคัญเท่ากัน แบ่งเวลาทำเท่ากัน แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำหลักๆ คือนักร้อง เป็นสิ่งที่เราทำมากที่สุด และใช้เวลามากที่สุดด้วย”

ทำไมถึงรีบสนใจเรื่องธุรกิจล่ะคะ

“ฉาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมานานแล้วตั้งแต่จบไฮสคูล รู้สึกว่าไม่สมควรที่จะรอ เราทำได้เลย ฉาชอบเสื้อผ้าและอยากทำอยู่แล้ว เลยถามตัวเองว่าทำไมไม่เริ่มทำเลยล่ะ ยิ่งเราเริ่มเร็วก็ยิ่งมีสิทธิ์จะประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น แค่รู้สึกว่าอยากทำค่ะ มีเวลาว่างเยอะก็เลยเป็นโอกาสที่ดี”

นักร้องกับนางแบบเหมือนจะคนละฟีลกันเลย ทำไมมารวมอยู่ในตัวมัจฉาได้กลมกลืน

“ฉาชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กอยู่แล้วค่ะ ชอบแฟชั่น ชอบดูดารา โตขึ้นมารู้ว่าอยากเรียนแฟชั่นดีไซน์แน่นอน ตอนอายุ 13 มีโอกาสได้ไปแคสติ้งงานเดินแบบกับโฆษณา ซึ่งเป็นงานในวงการที่ชอบอยู่แล้ว เราเรียนไปด้วย ทำงานเดินแบบไปด้วยเหมือนเป็นงานอดิเรก เล่นละครบ้าง มีโอกาสอะไรเข้ามาเราทำหมด เมื่อต้นปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปออดิชั่นที่ค่าย White Fox ให้ค่ายแกรมมี่ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองทำดีไหม แม้เราจะชอบเพลงอยู่แล้วแต่ไม่ได้มั่นใจสูงขนาดนั้น คือเราไม่ได้ร้องเพลงจริงจัง สุดท้ายก็คิดว่าเปิดโอกาสให้ตัวเอง เลยไปลองออดิชั่น White Fox บอกเราว่าเขาแพลนตรงกับสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้ว เราก็โอเค งั้นลองทำดู หลังจากเข้ามาในค่ายก็เริ่มเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เข้าคลาสเพื่อพัฒนาสกิลมาเรื่อยๆ จนมาเริ่มอัดเพลง เล่นเอ็มวี”

พอได้เป็นนักร้องแล้ว ตรงกับที่เคยฝันหรือแพสชั่นของเราไหม

“ตรงนะคะ เพราะได้ทำทุกอย่างที่เราฝันไว้ ได้ถ่ายเอ็มวี เลือกเสื้อผ้าของตัวเอง อยากแต่งตัวแบบไหน หรืออยากให้ออกมาเป็นยังไง ฉาชอบริฮานนามาก จำได้ว่าแค่แป๊บเดียวก่อนจะได้ไปออดิชั่น ฉาคิดเล่นๆ ว่าชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นเขา (หัวเราะ) ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้คาดว่าจะมาทำตรงนี้เลย เหมือนมีโอกาสเปิดให้เราแบบนี้ รู้สึกดีใจมากๆ ที่มันเกิดขึ้นค่ะ ซึ่งจะว่าไปมันก็ไม่ง่าย เราต้องตั้งใจทำ กว่าจะเต้นได้ เราต้องไปเรียน และใช้เวลาเยอะมากเหมือนกัน”

ระหว่างเป็นนางแบบกับนักร้อง บอกได้ไหมว่าชอบอะไรมากกว่า

“มันเปรียบเทียบกันไม่ค่อยได้ งานคนละแบบกันค่ะ นางแบบจะง่ายกว่าคือเราไม่ต้องคุยกับใคร เวลาอยู่บนเวทีเราเดินแบบ ถ่ายแบบเราแค่ต้องโพส ซึ่งเราทำสิ่งนั้นมานานมาก นางแบบคือสิ่งที่เราเคยชิน สิ่งที่เรารักมาตั้งนาน แต่การเป็นนักร้อง เราต้องสื่อสารกับคนฟังในเรื่องของเพลงที่ร้องออกไป เป็นสิ่งใหม่ที่เรากำลัง explore แน่นอนว่าต้องตื่นเต้นมากกว่า”

เป้าหมายของการนางแบบของฉาคือโกอินเตอร์หรือเปล่า

“ฉาว่าทุกคนคิดแบบนี้แหละ อยากไปไกลให้ถึงเมืองนอก มันคือเรื่องปกติ เพราะเราก็เป็นนางแบบ แต่จริงๆ เราแฮปปี้กับการอยู่ที่นี่ด้วย เพราะมีหลายอย่างที่ทำอยู่”

แล้วเป้าหมายสูงสุดของการเป็นนักร้องล่ะ

“ยากมากเลยเวลาคนถาม เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายตัวเองให้ชัดเจนขนาดนั้น คือเรา hope แต่เราไม่ expect รู้สึกว่าเราทำให้มันใช่ที่สุดในแบบของเรา มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ แล้วทำออกมาให้ดีที่สุด สุดท้ายถ้ามันจะไปได้ดี มันก็คือสิ่งของเรา แต่ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่เวิร์ก มันก็ไม่ใช่ของเรา เป้าหมายการเป็นนักร้องของฉาคือหวังว่าวันหนึ่งเพลงของเราจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทย มีคนต่างชาติมาชอบเพลงของเราบ้าง และในอนาคตอยากเขียนเพลงเอง แต่มันยากมากเลย หวังว่าตัวเองจะเขียนได้ค่ะ”

มิวสิกวิดีโอแต่ละเพลงอลังการมาก

“ใช่ค่ะ โปรดักชั่นใหญ่มาก ทุกคนทำงานด้วยกันแบบเป็นทีมใหญ่มาก เป็นสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ฉาประทับใจมากเลย Run to Youเป็นเพลงที่เพราะที่สุดสำหรับฉา และฟังง่ายที่สุด ในมุมของฉามันเป็นเพลงที่ฟังตอนไหนก็ได้ ชอบความหมายด้วย เพลงนี้เหมือนเป็นตัวเรามากที่สุดในเรื่องของเนื้อหา เพราะเราเป็นคนค่อนข้าง emotional ฟังแล้วเหมือนมี special place ในหัวใจเรา ล่าสุดฉามีเพลงใหม่ชื่อ So Over You เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อขอบคุณแฟนคลับทุกคนค่ะ สามารถฟังแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ที่ Apple Music และจะมีเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วยค่ะ ออกพร้อมอีพีอัลบั้มชื่อ Dreaming ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”

ทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด

“ครอบครัว งาน สุขภาพของเราด้วย รูทีนของเราคือทำงาน ชิลกับคนที่เรารัก และออกกำลังกาย”

ปลื้มอะไรในตัวเองมากที่สุด

“ขอคิดก่อนนะ ยากจังเลย อืม ก็อาจจะไม่ได้ภูมิใจ แต่แฮปปี้ในตัวเองมากกว่า เหมือนเรามีความมุ่งมั่นในสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่เรารัก หรือกับคนที่เรารัก ฉาเป็นคนที่คิดถึงคนรอบข้างที่ฉารัก กับงานก็ให้ความสำคัญมาก ตั้งใจทำงาน”

ไม่เคยท้อเลยเหรอ

“มีอยู่แล้วค่ะ บางวันก็เบื่อไม่อยากทำอะไรเลย (หัวเราะ) ไม่อยากออกกำลังกาย ไม่อยากทำงาน มีท้อบ้าง แต่ก็เท่านั้นอะเนอะ ก็กลับมาสู้ต่อไป”

อะไรที่ช่วยชาร์จพลังให้เราได้

“ต้องพยายามคิดถึงเรื่องดีๆ หรือเรื่องที่ทำให้เราแฮปปี้ ถ้าเราทำสิ่งนี้ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ ประมาณว่า look forward to something ถ้ารู้สึกเบื่อหรือดาวน์หลายวัน สิ่งแรกที่จะทำให้เรากลับมาแอ็กทีฟก็คือออกกำลังกาย พอออกกำลังเสร็จปุ๊บเราก็จะรู้สึกดีกับตัวเอง”

มีอะไรที่อยากทำอีกบ้าง

“อยากเล่นหนังใหญ่ค่ะ ถ้าแนวในฝันก็ต้องเป็นแบบวันเดอร์วูแมน (หัวเราะ)”

เสื้อแบบไหนที่มีเยอะสุด

“เสื้อคร็อปท็อปค่ะ เพราะฉาชอบใส่กางเกงยีนส์กับคร็อปท็อป เวลาชีวิตประจำวันก็จะขี้เกียจแต่งตัว แล้วเราอยู่เมืองไทยด้วย มันร้อนอะเนอะ จริงๆ ก็อยากแต่งเหมือนเมืองนอก ใส่โค้ต แต่งตัวมากกว่านี้ แต่มันไม่ได้ไง”

ไอเท็มที่อดใจไม่ได้เลย

“รองเท้าสนีกเกอร์ กระเป๋า อยากซื้อตลอด”

มัจฉาเป็นคนติดแบรนด์ไหม

“รู้สึกว่าติดเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าเสื้อผ้าจะไม่เท่าไร กระเป๋าจะติดแบรนด์ แต่ฉาไม่ได้ซื้อกระเป๋าบ่อยขนาดนั้น ปีหนึ่งก็อาจจะใบหนึ่งหรือสองใบ ถ้าไม่ถูกใจก็ยังไม่ซื้อ แต่บางใบเห็นแล้วก็ ฮ้า! รองเท้าผ้าใบก็ชอบไนกี้ แต่เดี๋ยวนี้รองเท้าผ้าใบแพง ซื้อมากไม่ได้เหมือนกันค่ะ”

“เรา hope แต่เราไม่ expect เราทำให้มันใช่ที่สุดในแบบของเรา มีความสุขกับสิ่งที่ทำ แล้วทำออกมาให้ดีที่สุด สุดท้ายถ้ามันจะไปได้ดี มันก็คือสิ่งของเรา แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่เวิร์ก มันก็ไม่ใช่ของเรา”

Photographer: Adison Rutsameeronchai

Stylist: Piphacha Vonpienkul

Photographer Assistants: Panupong Banluesin, Anurak Duangta

Stylist Assistant: Tanawat Nitithaiyapong

Makeup: Pradchaphan Prayoonpan

Hair: Manasawee Kitpisut