Tuesday, October 15, 2024

ชีวิตกับความคิดอ่านในช่วงวัยที่เปลี่ยนผ่านของ ‘นนน’

นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์ หนุ่มหน้าใสวัย 20 ที่เข้าสู่วงการตั้งแต่อายุสามขวบ ภาพยนตร์โฆษณาเป็นผลงานชิ้นแรกๆ ก่อนเติบโตและเริ่มทำงานหลากหลายขึ้น เขาสะสมไมล์ในการทำงานเรื่อยมาจนมีประสบการณ์ทั้งงานละคร ซีรีส์ พิธีกร เล่นเอ็มวี และร้องเพลง นนนเติบโตในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นนักแสดง (คุณากร เกิดพันธุ์) ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาคุ้นเคยกับกล้อง แสงไฟ และการทำงานร่วมกับผู้คนได้ไม่ยาก แรงสนับสนุนจากครอบครัวส่งให้เขาก้าวเข้าสู่วงการเต็มตัว เขาค่อยๆ เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเอง จนทำให้ชื่อของกรภัทร์ เกิดพันธุ์ เป็นที่ยอมรับในความสามารถ

ว่าด้วยเรื่องชื่อและฉายา

‘นนน’ ชื่อเล่นที่เรียกกันติดปากจนทำให้หลายคนนึกว่าเป็นชื่อจริง แต่หารู้ไม่ว่าเป็นความจงใจของครอบครัวที่ตั้งชื่อให้ฟังดูมีลูกเล่น เจ้าตัวขยายความที่มาของชื่อนี้ว่า “คุณแม่วางแผนตั้งแต่ผมเด็กๆ แล้วว่าอยากให้เข้าวงการ เพราะคุณพ่ออยู่ในวงการและคิดว่าอยากให้ลูกได้ทำงานในวงการด้วย เลยคิดกิมมิกขึ้นมาให้ทุกคนเวลาอ่านชื่อแล้ว เอ๊ะ! มันอ่านว่าอะไรวะ บ้านยายผมอยู่นนทบุรีครับ เลยเป็นที่มาของชื่อนี้”

เชื่อว่าหลายคนที่เห็นชื่อแวบแรกคงต้องใช้ความคิดนิดหนึ่งก่อนจะเปล่งเสียง “มีคนอ่านผิดเยอะครับ อ่านว่า ‘นน-นะ’ ก็มี ‘นะ-นะ-นะ’ ก็มีบ้าง ‘นน’ เฉยๆ ยังมีเลย แถมคิดไปว่า น เขียนผิด ที่ถูกต้องควรเป็น ท์ ส่วน ‘นะ-นน’ จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เขาอ่านกัน เวลาผมบอกว่าชื่อนนน ทุกคนจะไม่เขียน น 3 ตัว เวลาไปจองคิวที่ร้านอาหารพอบอกว่าชื่อนนนครับ น 3 ตัวครับ เขาก็จะถาม ‘อะไรนะคะ’”

นอกจากนี้เขายังมีฉายาว่า ‘นนน คนทุกที่’ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าคนที่ตั้งให้ก็คือว่าน (ธนกฤต พานิชวิทย์) “อยู่ดีๆ พี่ว่านก็เรียก เพราะว่าผมจะรู้จักกับคนหลายวงการมาก ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักฟุตบอล โปรดักชั่น หรือแม้กระทั่งพระ มีครั้งหนึ่งช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ พี่ว่านชวนว่ามาไลฟ์มั้ย แล้วเขาก็บอกว่าไม่ว่าจะอยู่ไหนผมก็โผล่ไปตลอด บ้านพี่โอ๊ตก็ไป ไปสนามเตะบอลกับพวกพี่สองก็ไป ล่าสุดผมไปอุบลกับพี่ว่านนี่แหละครับ พี่ว่านเลยบอกนนนคนทุกที่จริงๆ แหละ ไปไหนก็ไป อยู่ที่ไหนก็อยู่”

บาลานซ์การงานกับการเรียน

ในวัยที่มีทั้งเรื่องงานและการเรียนให้รับผิดชอบ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบาลานซ์เวลาให้ลงตัวโดยไม่ให้กระทบกันจนอย่างใดอย่างหนึ่งเสียหาย ปัจจุบันเขาเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “ก่อนหน้านี้ที่พยายามจะทำให้ได้คือรับงานเฉพาะวันเสาร์กับอาทิตย์ แต่พอมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้งานหลายอย่างต้องกระเถิบออกไป พอพ้นจากการล็อกดาวน์ งานก็โถมเข้ามา มันเหมือนอัดๆ กัน เลยทำให้ต้องดร็อปบางตัว แล้วก็ปรึกษาอาจารย์ว่าปี 4 จะมีทำแต่ธีสิส มันจะมีช่วงว่างค่อยไปตามเก็บเรียนช่วงนั้น”

ส่วนผลงานการแสดงที่มีแต่คนรอชมหลังจาก GMMTV ปล่อยทีเซอร์ออกมาแล้ว ชื่อเรื่องว่า ‘แค่เพื่อนครับเพื่อน (Bad Buddy Series)’ ซีรีส์วายเรื่องแรกของนนน เขารับบทเป็นปราณ หนุ่มเป๊ะเจ้าระเบียบ หัวหน้าแก๊งปี 4 คณะสถาปัตย์ ที่คอยออกหน้าทุกครั้งเวลามีเรื่องชกต่อย โดยคู่ปรับขาประจำก็คือคณะวิศวะ ซึ่งมีหัวหน้าแก๊งหัวร้อนอย่างปราณ (โอม ภวัต) ทว่าเบื้องหลังการปะทะนั้นจะมีนัยลึกซึ้งแค่ไหนต้องรอติดตาม เชื่อว่าแฟนๆ สายวายฟินแน่นอน

ครอบครัวคือทุกอย่าง

นนนได้รับรางวัลจิตอาสาและรางวัลด้านการแสดงหลายต่อหลายรางวัล รวมถึงรางวัลลูกกตัญญูประจำปี 2563 ซึ่งทำให้เห็นว่าภายใต้ความเป็นเด็กผู้ชาย เขาก็มีแง่มุมที่ละเอียดอ่อนเหมือนกัน “พี่ๆ ที่สนิทกันเขาจะเห็นหลายมุมมากกว่าที่ทุกคนเห็น เรารู้ตัวเองว่าเราไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น เราเป็นคนที่มีทั้งมุมแบบนั้นแบบนี้ เลเยอร์เราเยอะมาก แต่เราพยายามจะทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ต่อให้เราจะมีมุมที่ไม่ดีบ้างหรืออะไรบ้าง แต่เราไม่ได้เบียดเบียนใคร เราว่างเราก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นได้               

“คือผมเป็นคนลำดับความสำคัญ ถ้าเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก priority หลักจะเป็นครอบครัว คิดว่าตัวเองเป็นคนรักครอบครัวประมาณหนึ่ง ทำทุกอย่างเพื่อแม่ เพื่อน้อง เพื่อพ่อ จะพูดว่าตัวเองเป็นคนกตัญญูมันก็เขินๆ เหมือนกัน”

การแสดงออกซึ่งความรักที่นนนมีต่อน้องสาวคนเดียวอย่างการหอมแก้ม พี่ชายที่แสนดีคนนี้บอกว่า “บ้านผมเป็นอย่างนี้ครับ ทุกวันนี้ผมยังกอดแม่หอมแม่เป็นเรื่องปกติ รู้สึกว่าเราไม่ได้อายที่จะแสดงความรักต่อกันครับ” ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องธรรมดาของทุกบ้าน รวมถึงครอบครัวเกิดพันธุ์ หากว่าจะมีการกระทบกระทั่งหรือขัดใจกันบ้าง นนนยังบอกเองเลยว่า “ก็มีทะเลาะกับแม่บ้าง เป็นสีสันของชีวิตครับ เพราะเราทะเลาะกันเพื่อให้เข้าใจกัน ไม่ได้ทะเลาะกันเพื่อเกลียดกันครับ”

ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

ท่าทีที่ดูเงียบขรึม พูดน้อย เริ่มมีรอยยิ้มในแววตาเมื่อถูกถามถึงซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ “ผมชอบเดดพูลมากๆ ครับ” (Deadpool ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่สุดป่วนจอมกวนอวัยวะเบื้องล่าง) “เรารู้สึกว่าเดดพูลเป็นตัวละครที่ซับซ้อนมากๆ ระดับหนึ่ง เขามักจะใช้อารมณ์ขัน หรือความอยากของเขาปิดบังความเจ็บปวดข้างใน เป็นตัวละครที่น่าจะคล้ายคลึงกับชีวิตมนุษย์มากที่สุดแล้ว รู้สึกว่ามนุษย์เราทุกวันนี้ต้องไปเจอโลกที่บางทีมันโหดร้ายกับเราในช่วงหนึ่ง แต่เราก็ต้องไปเจอ ทำเป็นยิ้มเพื่อเจอคนอื่น โดยที่ไม่รู้ว่าข้างในเราเศร้าหรือไม่โอเค

“เพราะรู้สึกว่าบางทีมันก็มีบางวันที่เราไม่พร้อมจะเจอใคร แต่เราต้องทำเป็นโอเคเพื่อเราจะเข้าสู่โลกความเป็นจริง หรือว่าเข้าสู่อะไรสักอย่างที่แบบ..สมมติว่าวันก่อนเราเพิ่งไปเจอเรื่องไม่ดีมาแล้วทำให้เรานอยด์ แต่อีกวันเราต้องไปทำงาน ต้องไปเจอผู้คนมากมาย”

นนนเคยเป็นแบบนั้น? “บางวันครับ ไม่ได้ทุกวันที่เราจะมีความสุขอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องทำตัวเองให้มีความสุขไว้ เหมือนเราอยากให้เขาเห็นสิ่งนี้ ถึงแม้จะเศร้าเราก็ไม่ได้อยากให้คนที่เจอเราหรือคนที่หวังดีกับเราเป็นห่วง ก็ทำให้มันโอเคที่สุด

“มีช่วงหนึ่งที่ผมมีความสุขกับชีวิตยากมาก เรียกว่าไม่มีความสุขกับอะไรเลยดีกว่า มันเหมือนชีวิตกลับกลายเป็นเครียดไปหมดทุกอย่าง เรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน เรื่องเรียน เรื่องบุคคลต่างๆ ที่วนเวียนเข้ามาในชีวิต มันทำให้มีความสุขยาก ปกติผมจะเป็นคนที่มีความสุขง่ายมากกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ เราสามารถมีความสุขกับอาหารที่เรากินได้ มีความสุขกับการที่เราได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง

“แต่ตอนนี้หายไปแล้วนะครับ พยายามหาคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันว่าทุกวันนี้ความสุขของตัวเองคืออะไร ผมไม่ได้มีคำจำกัดความชัดเจนว่ามันคือสิ่งนี้ หรือว่าผมต้องได้นั่นได้นี่ผมถึงจะมีความสุข ทุกวันนี้ผมพยายามจะทำให้ตัวเองมีความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าทำอะไรก็แล้วแต่ น่าจะเป็นคำว่า ‘ใช้ชีวิต’ นะครับ คือคำจำกัดความที่ดีที่สุด”

Photographer: Adison Rutsameeronchai 

Stylist: Piphacha Vonpiankul

Photographer Assistant: Anurak Duangta

Makeup & Hair: Satanun Graisorn

Special Thanks: Mia Restaurant Tel. 09-8862-9659

Other Articles