ถ้าคุณชอบสไตล์เพลงในมินิอัลบัม One For The Road ของวง LUSS ศิลปินดูโอจาก Wayfer Records สังกัด Warner Music (Thailand) เราเชื่อว่าคุณจะยิ่งชอบ ‘247’ เพลงแรกที่ประเดิมในปีนี้ เพลงสนุกๆ ที่แพรวพราวไปด้วยเอกลักษณ์ของสองเพื่อนคู่ซี้ ปั้น-นลพรรณ อัมพุช และ เบน-ศิรสิทธิ์ ตั้งบุญดวงจิตต์

เล่าถึงเพลง 247 ให้ทราบกันหน่อย
ปั้น: เพลงนี้พูดในมุมมองของผู้หญิงซุกซน อย่างสมมติเวลาจะคุยกับใคร เราก็ไม่พูดตรงๆ เราจะไม่จีบผู้ชายตรงๆ เราจะไม่รุก แต่จะโพสต์สเตตัสประมาณว่าวันนี้เหงาจังเลย ท่อนฮุคร้องว่า ‘ถ้าเธอเหงาเมื่อไหร่ ก็แค่แวะมา 24 7 เปิดทุกวัน…’ พูดถึงสถานะคนคุยที่ไม่ต้องผูกมัด แต่เป็นที่พักใจให้กันและกัน เหมือนเพลงจีบผู้ชายก่อนแหละ แต่จีบอ้อมๆ ปั้นว่าผู้ชายกับผู้หญิงควรพูดเรื่องนี้ได้เหมือนกัน”
ฟีดแบ็กเป็นอย่างไร
ปั้น: ดีมากเลยค่ะ เทียบกับทุกๆ เพลงที่ปล่อยมา ปั้นว่าตัวเราเหมือน shine through ออกมาในซิงเกิลนี้มากที่สุด ทั้งซาวนด์เพลงและการร้อง รวมทั้งเอ็มวีด้วย
เบน: เอ็มวีก่อนหน้านี้เหมือนเราคีพคาแร็กเตอร์นิดนึง พูดภาษาบ้านๆ ก็ประมาณเก๊กๆ หน่อย แต่ตัวจริงของเราชอบความเฮฮา กวนๆ ก็มาคิดว่าเราจะพยายามทำอะไรที่ไม่ได้เป็นตัวเองขนาดนั้นทำไม เราเลยใส่ความตลกที่เราเป็นแบบนี้เข้ามา

ความรู้สึกก่อนปล่อยเพลง คุณคาดหวังกันแค่ไหน
เบน: ไม่ได้คาดหวังซะทีเดียว ลุ้นมากกว่าว่าคนจะคิดยังไงเพราะมันเปลี่ยนเยอะเหมือนกันจากปีที่แล้ว แต่สุดท้ายเท่าที่เราคุยกันรู้สึกว่าคนชอบแบบนี้มากกว่า มุมมองเบนคือโอเคเลย มันเป็นตัวเราด้วย
ปั้น: ตอนแรกตื่นเต้น แต่ในทางที่ดีนะคะ คือเราปลดล็อคแล้ว นี่คือสิ่งที่เป็นตัวเราและเราได้เอาออกมาให้ทุกคนได้เห็น มันไม่มีคำพูดอะไรนอกจากตื่นเต้นและลุ้น สุดท้ายมันก็โล่งใจที่เราทำมันเต็มที่ที่สุด
ทราบว่าไดเร็กชั่นของวงเปลี่ยนไปด้วย
ปั้น: เราไม่ได้อยากเป็นแค่ศิลปินที่แต่งเพลงอะไรได้ อยากใส่ความหมายอะไรเข้าไปมากกว่านี้ เลยเลือกรีแบรนด์ใหม่ให้เป็นมุมมองของผู้หญิงอย่างเดียว เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงไทยมีความสามารถและเก่งมากๆ แต่ในส่วนนั้นไม่ได้ถูก bring out ออกมา
เบน: ที่ผ่านมาผมได้ทำงานเบื้องหลังเยอะเหมือนกัน เลยได้เอาสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้กับวงเราเอง เราคิดว่าแค่เพลงดียังไม่พอ สุดท้ายปลายทางคือเราอยากให้เป็นเพลงป็อป ฟังง่ายหน่อย แต่ในพาร์ตของดนตรีจะมีความคอมเพล็กซ์ มีลูกเล่นของมันอยู่ อย่างที่ปั้นบอกคือเป็นมุมมองของผู้หญิง แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใสๆ แต่มีความซนๆ ไปตามคอนเทนต์ที่เราคิด
ปั้น: พอได้ไปทำเบื้องหลังก็ทำให้เรามานั่งทบทวนว่าเอกลักษณ์อะไรที่เราควรจะเก็บไว้ หรืออะไรคือสิ่งเราควรทิ้ง
แล้วเอกลักษณ์อะไรที่ LUSS ยังเก็บไว้
ปั้น: สำหรับตัวของปั้นเองในฐานะที่แต่งเพลงให้คนอื่นด้วย รู้สึกว่าภาษาไทยมีผลต่อการเลือกเมโลดี้ค่อนข้างมากเพราะมีข้อจำกัดเรื่องวรรณยุกต์ ถ้าเปลี่ยนเมโลดี้ คำนั้นอาจจะเปลี่ยน ทำให้ความหมายเปลี่ยน เลยให้ความสำคัญกับเมโลดี้ค่อนข้างเยอะ เรากล้าที่จะเล่นกับความคอมเพล็กซ์ของดนตรีด้วยเหมือนกัน ถ้าสมมติว่าเรามีความป๊อป เราจะมีสิ่งที่ยากอยู่ในนั้น ปั้นว่าอันนี้ยังเป็น identity ที่เรายังเก็บไว้

จริงๆ แล้วแนวเพลงของ LUSS เป็นแบบไหน
เบน: ด้วยความที่พวกเราชอบฮิปฮอปกับอาร์แอนด์บีมากครับ แต่ก็ชอบป๊อปเหมือนกัน หลายคนชอบถามว่าสรุปแล้ว LUSS เป็นวงดนตรีแนวไหนกันแน่ มันตอบยากมาก เพราะเราเอาหลายๆ อย่างที่ชอบมาผสมผสานกันในเพลงเดียวเลยครับ ฟังรวมๆ อาจจะเป็นเพลงที่ดูฟังง่ายอยู่บนความเป็นป๊อป แต่ว่าเรายังใช้ element บางอย่างในพาร์ตซาวนด์ดนตรีจากฝั่งฮิปฮอปมาใช้ อย่างเสียงคิก (kick) เสียงสแนร์ (snare) เสียงไฮแฮท (hihat) หรือจังหวะวิธีการร้องของปั้นก็มีความเป็นอาร์แอนด์บีผสมเข้าไปด้วย ถ้าให้พูดกว้างๆ ก็แนว urban ครับ ถ้าภาษาสำหรับคนทั่วไปเข้าใจง่ายหน่อย มันก็อยู่ในป๊อป อาร์แอนด์บี ฮิปฮอป เราไม่ได้อยากให้ LUSS เป็นเพลงแบบแค่ผ่านๆ หูไป แล้วก็รู้สึกว่าฟังสบายจัง ผมไม่ได้บอกว่าเราทำตรงนี้มันดีเยี่ยมนะ แต่มันคือสิ่งที่เราพยายามกำลังทำอยู่ มันคือสิ่งที่เรากำลังจะทำ
ปั้น: อย่างเมื่อก่อนเพลงเราจะเท่มาก สักพักจะเปลี่ยนโอนเอนไปตามกระแส ทำให้ไม่มีจุดยืน แต่ว่าตอนนี้เรามีจุดยืนชัดเจนแล้วว่าเราต้องการจะบอกอะไร และเรานึกไปถึงว่าคนฟังจะได้อะไรจากตรงนี้ด้วย อยากให้มันเป็นอะไรที่ทำให้คนฟังได้ปลดล็อคตัวเองด้วยเหมือนกัน เหมือนที่ปั้นเคยผ่านมา เมื่อก่อนปั้นจะเป็นคนที่เรียบร้อยมาก ที่บ้านเลี้ยงมาให้แบบ humble นะ อย่าไปแบบอวดใครนะ อย่างเรื่องสอบได้ มันทำให้ปั้นรู้สึกว่า identity ของการเป็นศิลปินส่วนหนึ่งคือต้องมีความมั่นใจในตัวเองมากๆ
เบน: เราจะคุยกันว่าเพลงนี้เราต้องการอะไร ไดเร็กชั่นของเพลงนี้คืออะไร คุยกันสองคนหรืออาจปรึกษาพี่ๆ ที่ค่ายด้วย เบนมองกระทั่งว่ากีตาร์เลือกใช้คอร์ดไหนหรือโน้ตไหนมันก็มีผลต่อคอนเซ็ปต์ที่เราเลือกเหมือนกัน เพราะเวลาทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ เรามองภาพรวมของเราเองด้วยว่าเราจะใช้เครื่องดนตรีอันนี้เพราะอะไร เล่นคอร์ดนี้เพราะอะไร ถึงแม้จะเป็น 1% ที่ซัพพอร์ตสิ่งนั้น แต่เรารู้สึกว่ามันมีผล

สไตล์การทำงาน ใครมีหน้าที่อะไรบ้าง
ปั้น: เราทำงานกันเป็นทีมค่ะ ปั้นจะรับผิดชอบเนื้อเพลงกับเมโลดี้ ส่วนเบนจะทำบีตมา ปกติในการทำงานส่วนใหญ่เบนจะขึ้นบีตมาก่อน แต่เพลงล่าสุด 247 เรามี song camp
เบน: ครั้งนี้เราคิดกันว่าอยากขึ้นเพลงแบบใหม่บ้าง เผื่อจะได้อะไรใหม่ๆ เลยสรุปกันว่าเราจะลองวิธี song camp มีทีมมาช่วยทำซึ่งเป็นนักดนตรี เราคุยไปด้วยกันว่าคอนเซ็ปต์เพลงนี้อยากได้ประมาณนี้ สุดท้ายก็ออกมาเป็นบีตคร่าวๆ แล้วเราเลือกกันว่าจะใช้อันไหนดี สุดท้ายก็มาจบเป็นเพลงนี้ครับ
แอบสปอยล์ซิงเกิลต่อไปให้ฟังหน่อย
ปั้น: ด้วยความที่มุมมองต่อจากนี้เป็นต้นไปจะมาจากผู้หญิง ปั้นเลยเริ่มมองว่าอินไซด์ของปั้นคืออะไร ของเพื่อนรอบข้างคืออะไร ปั้นอยากจะเอาเรื่องนี้มาพูด แอบใบ้ว่าเป็นเพลงที่ผู้หญิงคิดอย่างนี้แต่ยังไม่มีใครออกมาพูด มันเป็นอะไรที่ปั้นรู้สึกว่าอยู่ในคัลเจอร์เราอยู่แล้ว ปั้นอยากนำเสนอให้คนเห็นว่ามันมีมุมนี้เหมือนกัน
ตัวชี้วัดความสำเร็จของ LUSS คืออะไร
ปั้น: ไม่มีใครเคยถาม ตื่นเต้นนะนี่ (หัวเราะ)
เบน: เอาตรงๆ คือทำแล้วก็ต้องเลี้ยงชีพเราได้ นั่นคือเรื่องนึง แต่ถ้าไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน เรามีความอยากทำสิ่งที่เราอยากทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตลอดสองปีถ้ามองสิ่งที่เราทำมันอาจจะใหม่สำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นแนวดนตรี วิธีการร้อง ขอพูดเรื่องดนตรีเป็นหลักดีกว่าเพราะเบนดูเรื่องนี้เยอะ เบนว่าพาร์ตของดนตรียังมีความใหม่สำหรับคนไทยประมาณนึง ถามว่าอะไรเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในครั้งนี้ อาจจะให้คนยอมรับหรือเปิดใจมาฟังอะไรที่ใหม่ หรือนอกกรอบก็จะดี LUSS เป็นคนที่บุกเบิกความใหม่เข้ามาเรื่องเพลงไทย คิดว่าจะนิยามความสำเร็จไว้แบบนี้ในมุมมองของเบน
ปั้น: ความจริงถ้าเราจะทำเพลงป๊อปง่ายๆ มันทำได้เหมือนกัน แต่เรามีความขบถในตัว เราไม่อยากทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ปั้นกับเบนโตมากับการฟังเพลงสากลค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เราเลยได้คัลเจอร์ของเพลงสากลมาเยอะ ปั้นรู้สึกว่าน่าจะมีคนเอามาใช้เยอะขึ้นในเพลงไทย สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดสำหรับภาพรวมนะคะ ปั้นอยากจะเห็นคนทดลองอะไรใหม่ๆ อย่างดนตรี เนื้อร้อง หรือเมโลดี้มากกว่านี้ อีกอย่างคือด้วยความที่เราปลดล็อคและได้เอาตัวเองออกมาเต็มที่ วันนึงปั้นอยากเป็นคนที่อินสไปร์คนเป็นล้านคน ในฐานะที่เป็นผู้หญิงแบบนี้แล้วทำให้น้องๆ หรือใครก็ตามมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

อะไรในตัวเพื่อนที่ทำให้เราเชื่อมั่น
เบน: หน้าตาเบนหรือเปล่า
ปั้น: (หัวเราะ) คือปั้นเพิ่งปลดล็อคตัวเองไม่นาน มันยังมีความโลเลใจบ้างบางที หลายๆ ครั้งปั้นมีไอเดียเต็มหัวไปหมด เวลาแต่งเพลงหรือคิดคอนเซ็ปต์อะไร เบนจะบอกว่าดีแล้ว เชื่อหน่อยสิ ทำไมไม่เชื่อตัวเอง อะไรทำนองนี้ ถ้าจะพูดก็คือเบนเป็นความมั่นใจที่มาเติมเต็มเวลาที่ปั้นจะต้องตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่าง เขาจะซัพพอร์ตมากๆ
เบน: เบนกับปั้นจะตรงข้ามกัน ปั้นอาจจะ humble ส่วนเบนรู้สึกอะไรจะพูดตรงๆ แต่บางทีมันก็ตรงเกิน ปั้นจะบอกว่าคิดก่อนมั้ยแล้วค่อยพูด ในเรื่องงานก็เหมือนกัน เฮ้ย ไม่ต้องพุ่งแรงขนาดนั้น มองภาพรวมอีกทีนึงมั้ย เบนว่ามันคือการมาเจอกันตรงกลางพอดี ในความที่อยากพูดอะไรก็พูด กับความที่แม้จะเจ็บแค่ไหนก็ไม่พูด พอมาเจอกันตรงกลางพอดีก็กลายเป็นความลงตัวในการทำงาน

ความสามารถที่โดดเด่นของเพื่อน อนุญาตให้อวยกันได้เต็มที่
ปั้น: เวลาทำงานเบนจะเป็นคนละคนเลยค่ะ มีความจริงจังมากๆ อยู่กับสมาธิ คือเวลาทำงานด้วยแล้วสบายใจตรงที่ว่าเบนเห็นภาพตรงนี้ชัดแล้ว
เบน: บางคนไม่สบายใจเวลาทำงานกับเบน เพราะเบนดูซีเรียสมาก คือเราโฟกัสจริงๆ ไม่ได้จะเล่น
ปั้น: เพื่อนที่มาทำงานกับเบนใหม่ๆ ก็ถามว่าเบนเป็นอะไร โกรธหรือเปล่า แต่เวลาเบนไม่ได้ทำงานความจริงจังติดลบ และจริงๆ เบนเป็นคนแปลกมากค่ะ
เบน: หมายถึงยังไง
ปั้น: มีความยูนีค และมั่นใจในความยูนีคของตัวเอง ซึ่งปั้นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากที่ศิลปินจะต้องมี อย่างการแต่งตัวตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เบนจะบอกก็อันนี้ใส่แล้วโอเคนี่
เบน: ก็เราเด็กดนตรีอะ แต่ก่อนไว้ผมยาว แล้วก็ผอมๆ แห้งๆ ใส่ชุดลายดอกไม้ทั้งตัว อาจจะไม่ได้รู้สึกเท่หรืออะไร ก็แค่ชอบ รู้สึกว่าอยากจะใส่แบบนั้น สรุปว่าคำถามคืออะไรนะครับ…
ปั้น: !?! (รอฟังคำตอบ)
เบน: ถึงปั้นจะบอกว่าตัวเองไม่มั่นใจ แต่สุดท้ายแล้วเขาเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจน เบนเชื่อว่าปั้นจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำพา LUSS ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ อาจจะกว้างๆ แต่มันหมายถึงหลายๆ อย่าง เห็นปั้นพูดงงๆ แบบนี้ ลองถามคนอื่นก็ได้ เวลาปั้นร้องเพลงเขาจะเป็นอีกคนนึงเลย พี่เคยเห็นคนที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้หรือเปล่า อย่างนักบอลเวลาอยู่เฉยๆ ก็ธรรมดา แต่เวลาเตะบอล เฮ้ย เท่ว่ะ ปั้นจะเป็นแบบนั้นเวลาร้องเพลง มันคือทางของเขา การร้องเพลงคือเวทีที่ปั้นจะเฉิดฉาย
Photpgrapher: Adison Rutsameeronchai
Special Thanks: ALAND Thailand