นอกจากรายละเอียดชวนฝันราวดั่งงานศิลปะบนผืนผ้า ที่เหล่าช่างทำเสื้อ ต่างตั้งใจรังสรรคค์งานออกแบบบนเทคนิคชั้นครูให้เกิดขึ้นได้จริง หากแต่มุมมองของ Giambattista Valli กลับมองว่าผลงานอารณ์ชั้นสูงเหล่านี้ คือตัวแทนของวัฒนธรรมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นด้วยกระบวนการสร้างสรรค์อันก่อให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่ซิลูเอทโครงสร้าง รูปทรงและการตัดเย็บ ไปจนถึงเทคนิคบนผืนผ้าที่ถักทอ ร้อยเรียงกลายเป็นผลงานมาสเตอร์ พีซที่โลกแฟชั่นต่างภาคภูมิใจ
และสำหรับคอลเลกชั่น โอต กูตูร์ ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2020 ภายใต้ชื่อผลงานว่า La Ville Lumière ในครั้งนี้ กูตูร์ลิเยร์เลือดใหม่(ที่สาวกคนแฟต่างคุ้นเคย) เลือกกลับมาโฟกัสเทคนิคอันก่อร่างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์อย่าง ‘เทคนิคสร้างวอลลุ่มชวนฝัน’ จากผืนผ้าโปร่งบาง ซึ่งกลายเป็นดีเอ็นเอหลักให้กับฌัมบาสติสต้า วัลลีใช้ต่อยอดแรงบันดาลใจไม่รู้เบื่อในการสร้างสรรค์ผลงานตั้งแต่อีฟนิ่งลุคในคอลเลกชั่นเรดี้ทูแวร์ ชุดกระโปรงผ้าทูลฟูฟ่องบนงานพรมแดง จวบจนลุคเจ้าสาวเล่นใหญ่ที่โลกแฟชั่นต่างจดจำ ทั้งหมดนี้ถูกนำกลับมาทวิสต์อย่างแตกต่างในบริบทที่ลดวัยของผู้สวมใส่ราวกับ เจ้าหญิงที่ไม่ตีกรอบว่าอยู่ในแต่เทพนิยาย หากแต่พวกเธอพร้อมเฉิดฉาย ก้าวเดินในชีวิตจริง
Giambattista Valli Couture Fall 2020 
Giambattista Valli Couture Fall 2020 
Giambattista Valli Couture Fall 2020 
Giambattista Valli Couture Fall 2020
โดยความน่าสนใจในผลงานกว่า 18 ลุคครั้งนี้ นอกจากภาพรวมของคอลเลกชั่นที่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ชวนฝันจากเทคนิคสร้างวอลลุ่ม เล่นระบายสร้างเลเยอร์เป็นชั้น สลับกับคัตติ้งเฉียบคมของผ้าไหมทัฟต้าที่จับเดรปให้เกิดฟอร์มชุดสวยหวาน คอลเลกชั่นหมายเลข 19 ของฌัมบัสติสต้า วัลลี ยังโดดเด่นด้วยดีเทลโบว์ฟูฟ่อง ที่จับแต่งจากผืนผ้าให้เกิดเป็นรูปทรง ลื่นไหลไปตามสรีระตั้งแต่ช่วงเอวจากลุคชุดกระโปรงสีแดงสดราวกับรอยลิปสติกที่ติดอยู่บนขอบแก้วกาแฟในปารีเซียง คาเฟ่ หรือจะเป็นเข็มขัดตกแต่งโบว์เล็กๆ ที่โอบล้อมรอบตัวสร้างสัดส่วนให้กับชุดกระโปรงสีชมพูก็ดูงดงามราวกับกุหลาบในเมืองใหญ่ที่กำลังแย้มบาน ชุดกระโปรงสีขาวไอวอรีที่เล่นเทคนิคจับเดรปให้กลายเป็นโบว์โอบหัวไหล่ รับกับระบายของกระโปรงยาวที่ดูราวกับแสงสะท้อนริมหน้าต่าง ดูราวกับประติมากรรมจากผืนผ้า
ทั้งหมดนี้ล้วนถูกถ่ายทอดผ่าน พรีเซนเทชั่น ออนไลน์ในรูปแบบโมเดิร์นร่วมสมัยสลับกับภาพกรุงปารีสที่หล่อหลอมแรงบันดาลใจไม่รู้เบื่อให้กับ ฌัมบาสติสต้า วัลลี ซึ่งผลงานดังกล่าวก็ไม่ใช่ฝีมือการถ่ายทำจากใครที่ไหน หากแต่เป็นมุมกล้องสมาร์ทโฟนของกูตูร์ลิเยร์หนุ่มผู้นี้ ที่ตั้งใจลงมือถ่ายทำด้วยตนเอง
