หากการได้นั่งชมภาพยนตร์เรื่องโปรด คือหนึ่งในกิจกรรมคลายเหงาของใครหลายคนตลอดช่วงกักตัวอยู่บ้านจากภาวะวิกฤติการณ์ covid-19 ที่ผ่านมา ก็คงไม่ต่างไปจาก Wes Anderson ผู้กำกับคนดังที่โดดเด่นด้วยผลงานสร้างชื่ออย่าง Moonrise Kingdom ภาพยนตร์มากด้วยสีสันจากดาราคนดัง และงานออกแบบทางการแสดงที่สะท้อนห้วงเวลาเหนือจริงอันเป็นลายเซ็นต์ของแอนเดอร์สันอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

ซึ่งตลอดระยะเวลาการกักตัวนี้ แม้ว่าผู้กำกับคนดังจะต้องเลื่อนกำหนดฉาย ภาพยนตร์ The French Dispatch ซึ่งแต่เดิมได้ฤกษ์พรีเมียร์ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 73 แต่กลับต้องเลื่อนออกไปจากเหตุการณ์แพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดมรณะ ที่ลุกลามไปทั่วยุโรป จนหลายเทศกาลงานบันเทิงต้องเลื่อนการจัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด กลายเป็นช่วงเวลาอันดีที่แอนเดอร์สันได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และลูกสาววัย 4 ขวบ ซึ่งกำลังเรียนรู้กับสิ่งรอบตัวอย่างเต็มที่

George Stevens’ Alice Adams William A. Wellman’s Nothing Sacred Kenji Mizoguchi’s A Story From Chikamatsu John Ford’s The Long Voyage Home
“ผมมีลูกสาววัย 4 ขวบเหมือนกับคนอื่นๆ ที่กำลังเริ่มหัดเรียนรู้ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ผมต้องรับอาสาเป็นครูสมัครเล่นไปชั่วคราว ทำให้หนังสือที่อ่านส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับ ดินแดนอียิปต์, ไดโนเสาร์, แมลง และป่าฝนอเมซอน แต่ถึงอย่างนั้นเอง ในช่วง Quarantine นี้ผมก็มีเวลาดูหนังเรื่องโปรดทั้ง George Stevens’ Alice Adams (1935), William A. Wellman’s Nothing Sacred (1937), John Ford’s The Long Voyage Home (1940), Kenji Mizoguchi’s A Story From Chikamatsu (1954) และ Spike Lee’s Do the Right Thing (1989) ที่ผมยังคงวนดูในทุกๆคืน”
ทั้งนี้ในบทสัมภาษณ์จาก Newyork Times แอนเดอร์สัน ยังได้กล่าวถึงความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อีกว่า “Thierry Frémaux (ผู้กำกับเทศกาล)ที่รู้จักวิธีคัดสรรผลงานชั้นเยี่ยมจากทั่วโลกและสิ่งที่จะดีไปกว่าการรับชม Once Upon a Time in America ฉบับสมบูรณ์แบบกว่า 251 นาทีริมชายั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน “