คุณคิดว่าสุนทรียะจำเป็นต่อชีวิตเรามากแค่ไหน?
สำหรับบางคนอาจจะตอบว่าไม่จำเป็นนัก สิ่งที่สำคัญกว่าน่าจะเป็นการมีปัจจัยสี่ การมีกิน มีใช้ มีที่ให้อยู่อาศัย มีเงินทองถูกมองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ในสังคมที่สิ่งเหล่านี้ยังเป็นของขาดแคลน งานศิลปะที่มอบสุนทรียะให้กับชีวิตอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเห็นค่าสักเท่าไหร่ และนั่นคือสาเหตุที่ศิลปะโบราณอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมาเริ่มค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคมยุคใหม่ทีละน้อย… เหล่าผู้สร้างสรรค์ที่ยังคงอยู่นั้นจึงอยู่ได้ด้วยสิ่งเดียว นั่นคือ ‘ศรัทธา’ ที่ช่วยนำทาง
ตอนแรกที่ได้ยินข่าวคราวละครเวทีเรื่อง ‘ก่อนสิ้นสุนทรีย์’ ผลงานล่าสุดที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างนาฏยศาลาหุ่นละคนเล็ก โจหลุยส์ คณะละครที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานที่ยังมีลมหายใจ กับนักศึกษาจากหลักสูตรวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการมรดกวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นั้น เราก็แอบสงสัยว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เมื่อได้ชมแล้วจึงพบว่าละครเวทีแบบร่วมสมัยนี้สามารถถ่ายทอดแนวคิด ความรู้สึก รวมถึงเจตนารมณ์ที่จะเผยแพร่ศิลปะสู่คนรุ่นใหม่ของโจหลุยส์ได้อย่างงดงามไม่น้อยเลย
‘ก่อนสิ้นสุนทรีย์’ เล่าถึงความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่ไขว้คว้า และต้องการรักษาสุนทรีย์ในชีวิตเอาไว้ กระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอาจทำให้เราหลงลืมอะไรบางอย่างได้ง่ายๆ และสุดท้าย ผู้ที่มี ‘ศรัทธา’ เท่านั้นที่จะมีแรงผลักดันตัวเองให้ไปต่อ ศรัทธาที่พูดถึงไม่จำเป็นต้องเป็นศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีแก่สถาบันใด แต่เป็นความศรัทธาในตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองทำ ในสิ่งที่บรรพบุรุษบรรจงสร้างและรักษา แค่นี้ก็พอแล้ว
แม้จะเป็นโปรเจ็กต์เล็กๆ ที่ผลิตและดำเนินการโดยนักศึกษาทั้งหมด โดยทีมงานหลายคนยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการผลิตหรือการแสดงเลยด้วยซ้ำ แต่ ‘ก่อนสิ้นสุนทรีย์’ ก็คลี่คลายออกมาได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงจบด้วยซีนสั้นๆของคณะโจหลุยส์ที่ยังคงเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ดังเช่นที่เคย นี่คงเป็นอีกหนึ่งคำยืนยันของคุณค่าแห่งศรัทธาที่ไม่เคยสูญสิ้น และจะได้รับการสืบสานต่อไปในอนาคต
ละครเวที ‘ก่อนสิ้นสุนทรีย์’ จัดแสดงระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคมนี้ ณ โรงละครนาฏยศาลาหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ เอเชียทีค โดยรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายมอบสมทบทุนแก่สโมสรกีฬา BBG เพื่อดำเนินงานในโครงการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสในสถานพินิจ ตามพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา