
คงไม่ถือเป็นการกล่าวอ้างเกินจริงหากจะบอกว่า ซินดี เชา คือจิวเวลรี่อาร์ทิสต์ร่วมสมัยที่น่าจับตามองที่สุดในยุคของเรา แถมยังเป็นผู้หญิงในแวดวงที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วย จิวเวลรี่ที่เธอออกแบบนั้นได้ชื่อว่าเป็นงานศิลปะซึ่งผสานเส้นสายแบบงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และธรรมชาติ ปละหลอมรวมความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันได้อย่างงดงามจับใจ

ซินดี เชา เกิดและเติบโตที่ไต้หวัน ตาของเธอเป็นสถาปนิก ส่วนพ่อเป็นประติมากร เธอก่อตั้งแบรนด์ CINDY CHAO The Art Jewel ในปีค.ศ. 2004 จิวเวลรี่แต่ละชิ้นสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจงซึ่งกินเวลานับ 10,000 ชั่วโมง นับตั้งแต่การหล่อแบบด้วยเทคนิคหล่อแบบสูญขึ้ผึ้ง หรือ la cire perdue ที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 การใช้ไทเทเนียมซึ่งมีน้ำหนักเบามาผลิตตัวเรือนที่ดูเป็นธรรมชาติ การประดับอัญมณีหลากขนาดและเฉดสี การขัดเงาและเก็บรายนละเอียดต่างๆ ถ้าพลิกดูชิ้นงานแค่ละชิ้น ก็จะเห็นถึงความงดงามทุกรายละเอียดแม้แต่ด้านหลัง

CINDY CHAO The Art Jewel นำเสนอผลงานออกมาเป็น 2 คอลเลกชั่น นั่นคือ Black Label Masterpieces ซึ่งสร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจงราวกับศิลปวัตถุ ซึ่งรวมถึง Annual Butterfly ซึ่งเป็นเข็มกลัดรูปผีเสื้อซึ่งสร้างสรรค์ด้วยศิลปะชั้นสูงซึ่งทุกคนตั้งตารอคอยจะได้ยลดีไซน์ใหม่ในทุกๆ ปี และอีกคอลเลกชั่นคือ The White Label Collection ซึ่งเป็นเครื่องประดับงานศิลป์ที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

ผลงานสร้างสรรค์ของ ซินดี เชา นั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว และทำลายสถิติประมูลมากมาย ดังเช่นแหวนริบบินทับทิม Ruby Ribbon Ring ที่ถูกประมูลไปด้วยราคาที่สูงถึง 3.84 ล้านเหรียญในงานครบรอบ 40 ปีของสถาบัน Sotheby’s Asia เมื่อปี 2013 แถมเธอยังรับเชิญให้เข้าร่วมแสดงผลงานในงาน Biennale des Antiquaires เมื่อปี 2016 ทั้งยังคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ทั้ง Outstanding Exhibit Award ในปี 2018, Masterpiece Highlight Award ปี 2019 หรือล่าสุด Masterpiece Awards ปี 2021
นอกจากนี้ ผลงานหลายชิ้นของ CINDY CHAO The Art Jewel ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในไพรเวทคอลเลกชั่นของพิพิธภัณฑ์ อย่างเข็มกลัดผีเสื้อหางคู่ หรือ Royal Butterfly ปี 2010 ที่ได้เข้าไปอยู่ใน Smithsonian Institution National Museum of Natural History ในฐานะตัวแทนงานศิลปะแห่งยุคศตวรรษที่ 21 เข็มกลัดผีเสื้อทับทิม หรือ Ruby Butterfly ปี 2020 ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ Musée des Arts Décoratifs และเข็มกลัดดอกโบตั๋น ปี 2021 ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Victoria & Albert

เมื่อปี 2021 เธอยังได้รับมอบเหรียญอิสริยาภรณ์สาขาศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ Chevalier dans l’Ordre des Arts et des Lettres จากกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศส เนื่องจากเธอได้ผลักดันขีดจำกันในศิลปะการสร้างสารรค์ของเธอ ซึ่งเป็นการมาบรรจบกันระหว่างโกลด์สมิธ ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และการอุทิศชีวิตและการส่งต่ออองค์ความรู้ในด้านการสร้างสรรค์จิวเวลรี่ด้วย

นอกจากนี้ ซินดี เชา ยังได้รับเชิญจาก Haute École de Joaillerie ในปารีสเพื่อเป็นวิทยากรพิเศษ รวมถึงจัดเวิร์กช็อปสอนเทคนิคหล่อแบบสูญขึ้ผึ้ง หรือ la cire perdue ให้กับนักเรียน ซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้เทคนิคตามคำแนะนำของซินดี ประติมากรรมไขแว็กซ์ ผลงานสร้างสรรค์ของนักศึกษาจากคลาสเวิร์กช็อปนี้ ได้ถูกนำมาจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในช่วงงาน Campus Louvre – La Noctrne เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซินดี เชาถือเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้เป็นวิทยากรพิเศษให้กับโรงเรียนจิวเวลรี่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 160 ปีแห่งนี้ และเป็นอีกครั้งที่เธอได้สร้างชื่อในโลกตะวันตก

“ในฐานะศิลปินในศตวรรษที่ 21 ที่คลุกคลีกับงานฝีมือที่กำเนิดเมื่อหลายศตวรรษก่อน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่สามารถส่งต่องานศิลปะที่สูญหายไปนานนี้ไปยังรุ่นต่อๆ ไป ฉันหวังว่าจะมีศิลปินจำนวนมากขึ้นที่สามารถเข้าใจและสานต่องานฝีมืออันละเอียดอ่อนอันซับซ้อนนี้ ซึ่งรวบรวมแก่นแท้เบื้องหลังงานศิลปะอัญมณีด้วย”



บทความอื่นที่น่าสนใจ:
Cindy Chao ผู้ได้ชื่อว่าสร้างสรรค์จิวเวลรี่ที่ถือว่าเป็น ตัวแทนแห่งศตวรรษที่ 21
Cindy Chao นำเราสู่จักรวาลความคิดสร้างสรรค์ของเธอไม่มีใครเหมือน