CHANEL และ Virginie Viard นำเสนอ CHANEL คอลเลกชั่น Cruise 2024/25 ณ เมือง Marseille ส่งผ่านกลิ่นอายมนต์เสน่ห์ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และบรรยากาศถนนที่เรืองรองด้วยวัฒนธรรมร่วมสมัยบนภาพยนตร์ทีเซอร์กำกับโดย Ladj Ly ทำงานร่วมกับผู้ออกแบบศิลปะท่าเต้นอย่าง (LA)HORDE และรังสรรค์ท่วงท่าที่สวยงามและดูอิสระโดยนักเต้นจาก the Ballet National de Marseille และเซเลบริตี้คนสนิทของแบรนด์อย่าง Marion Barbeau
นอกจากงานท่าเต้นที่มีลวยลายอันงดงามแล้ว ฉายหลังยังเผยให้เห็นถึงจุดสำคัญของเมือง Phocaean (the Phocaean City) ตั้งแต่ท่าเรือเก่าอย่าง Vieux Port เรื่อยจนถึงกลุ่มอาคารที่พักอาศัยที่มีความหมายทางสถาปัตยกรรมอย่าง La Cité Radieuse ซึ่งแฝงไปด้วยนัยยะความรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมของคนในแถบทะเลฝรั่งเศสตอนใต้
Marseille (มาร์แซย์) เป็นเมืองเอกของจังหวัดบุช-ดูว์-โรน และเมืองเอกของแคว้น Bouches-du-Rhône ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่มีทิวทันศ์ของริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นฉายหลัง นอกจากนี้ยังถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศครอบคลุมพื้นที่ 241 km2 และมีประชากรโดยประมาณ 870,000 คน ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เขตมหานครของมาร์แซย์ ซึ่งครอบคลุมกว่า 3,173 km2
1. Le Vieux Port
Le Vieux Port หรือ The Old Port คือท่าเรือเก่าแก่กว่า 2000 ปีเมื่อ 600 ปีก่อนคริสตศักราช ในสมัยที่ชาวกรีกเข้าปกครองและยึดครองพื้นที่ ต่อมาเมืองท่าแห่งนี้ได้เป็นจุดสำคัญในการค้าขายและแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของฝรั่งเศส นอกจากนี้สเน่ห์ของท่าเรือเก่านี้ คือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่า วิวของทะเลและกราฟฟิตี้สนุกๆ บนกำแพง ตั้งแต่ La Canebière ถนนสายเก่าแก่ เรื่อยไปจน Le Panier ย่านบ้านเก่า และ Château d’If (If Castle) คุกกลางน้ำสุดขลังของเมือง
2.La Cité Radieuse
เรียกได้ว่าเป็นที่พักอาศัยที่ฮิปที่สุดในเมืองมาร์แซย์ อาคารที่พักอาศัยเป็นผลงานของสถาปนิกระดับโลกอย่าง เลอ กอร์บูซิเยร์ และสร้างเสร็จในปี 1952 นอกจากนี้ยังเป็นต้นแบบการการออกแบบคอนโดมิเนียมที่เราเห็นอย่างคุ้นเคยในปัจจุบันนี้และได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage ในสาขา the Modern Movement
การออกแบบของ เลอ กอร์บูซิเยร์ (Le Corbusier) มีแนวคิดที่ว่า “a house is a machine for living in“ โดย มีความหมายว่า ที่พักอาศัยต้องตอบสนองผู้อยู่มากที่สุด เป็น ‘unité d’habitation’ หรือ housing block unit โดยให้ความสำคัญกับแสงและเงาบริเวณระเบียงชั้นต่างๆ และใช้ลักษณะพื้นผิวของตัวอาคารเป็นปูนคอนกรีตเปลือย เพื่อให้ได้พื้นผิวที่หยาบ และเน้นเรื่องสัดส่วนการใช้งานของผู้คน ปัจจุบันสงวนไว้สำหรับผู้อยู่อาศัย และจำกัดผู้อื่นเข้าชมในเฉพาะบริเวณชั้นล่าง มีร้านอาหาร แกลเลอรี และชั้นดาดฟ้า
3. Notre-Dame de la Garde
‘สิ่งศักสิทธิ์ และความเชื่อเป็นของคู่กันของทุกเมือง’ มหาวิหาร Notre-Dame de la Garde จึงเป็นที่สิ่งศักสิทธิ์ของเมืองนี้ได้แก่ La Bonne Mère (ลา บอนน์ แมร์) ที่เป็นที่พึ่งทางใจของคน Marseille นี้ มีความเชื่อว่าท่านจะคุ้มครองชาวเมือง ชาวเรือ และทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนให้ปลอดภัย นอกจากนี้ในแง่ของงานสถาปัตยกรรมแล้วมหาวิหาร Notre-Dame de la Garde ถูกสร้างในสไตล์โรมาเนสก์ (Romanesque) โดยพื้นผิวของตัวอาคารทำจากหินแกะสลักในโบสถ์ชั้นล่างหรือห้องใต้ดิน และโบสถ์ชั้นบนถูกสร้างในสไตล์นีโอไบแซนไทน์ (Neo-Byzantine) ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกอย่างงดงาม
นอกจากนี้ Chanel ร่วมกับ Jamie Hawkesworth ช่างภาพชื่อดังยังดื่มด่ำไปกับท้องถนนของมาร์เซย์และบันทึกแก่นแท้ของเมืองผ่านภาพถ่ายและภาพผู้คนและวิถีชีวิต โดยภาพถ่ายเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ “Marseille, 08.03.2024 – 12.03.2024” ที่จะจัดแสดงในเดือนพฤษภาคม ณ วันที่ 3 ถึง 12 พฤษภาคม ณ the Cité radieuse
Marseille ยังสถานที่อีกมากมายที่ยังรอนักเดินทางไปเยี่ยมชม อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามความงดงามของมาร์แซย์ใน CHANEL คอลเลกชั่น Cruise 2024/25 ณ วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม เวลาประมาณ 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
Photos Courtesy of CHANEL
บทความที่เกี่ยวข้อง:
– ‘ทะเล’ในวันหยุด 10 จุดหมายจากเหล่าเซเลบริตี้
– L’ Palazzo Fantastico
– ที่สุดของที่พัก…แดนสวรรค์ของคนรักสกี
