Thursday, November 14, 2024

12 ดีไซน์เครื่องประดับสุดไอคอนิกที่คุณควรรู้

ถ้าพูดถึงจิวเวลรี่ คุณย่อมต้องนึกถึงดีไซน์อันเลื่องชื่อจนได้ชื่อว่าเป็นไอคอนและเพียงแค่ปราดมองก็จดจำได้ทันที ว่าแต่ผลงานเหล่านี้มีกำเนิดอย่างไร ลอฟฟีเซียลขอนำมาเล่าเพื่อย้ำเตือนความทรงจำกันอีกครั้ง 

Jin BTS Wearing Fried Force 10

1. FORCE 10 By Fred 

Year of Birth: 1966 

คอลเลกชั่น Force 10 คือหนึ่งในผลงานไอคอนิกที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ Fred ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผสมผสานความรักที่ Fred Samuel ผู้ก่อตั้งแบรนด์มีต่อท้องทะเลและความงดงามของชายฝั่งริเวียรา โดยวันหนึ่งเขาเห็นลูกชายกำลังถักเชือกและตรวจสอบโซ่ตรวนก่อนออกเรือ จึงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้อยข้อมือสายเคเบิลซึ่งถักจากไนลอนชนิดพิเศษกว่า 1,500 เส้น และล็อกด้วยบักเคิลรูปทรงห่วงสเก็นเรือ สร้างสรรค์จากวัสดุล้ำค่าประดับอัญมณี อีกทั้งชื่อ Force 10 ยังสื่อถึงความแรงของพายุ สะท้อนถึงความกล้าแกร่ง มาดมั่นของดีไซน์ 

2. B.ZERO1 By Bvlgari

Year of Birth: 1999

Bvlgari สร้างสรรค์คอลเลกชั่น B.zero1 เพื่อฉลองการมาเยือนของสหัสวรรษใหม่ โดย ‘B’ หมายถึง Bvlgari ขณะที่ ‘zero’ สื่อถึงสหัสวรรษใหม่ และเลข ‘1’ หมายถึงการเริ่มต้นใหม่อย่างไม่สิ้นสุด ความหมายนี้ได้ผ่านการแปลความสู่งานออกแบบที่เป็นสัญลักษณ์แห่งไอคอนของบุลการี ด้วยขดเกลียวอันไร้สิ้นสุด ผสานแรงบันดาลใจจากโคลอสเซียม สถาปัตยกรรมที่งดงามและยิ่งใหญ่ของกรุงโรม พร้อมโลโก้ BVLGARI BVLGARI ทั้งสองด้านของแหวน จนถึงวันนี้ B.zero1 ได้กลายเป็นผลงานไอคอนิกของบุลการี งดงามราวกับผลงานประติมากรรมแห่งเส้นสายอันลื่นไหล ขดเกลียวกลางเรือนแหวนที่โดดเด่น ทั้งยังเป็นจิวเวลรี่ที่ไร้เส้นแบ่งเรื่องเพศด้วย 

3. ROSE DES VENTS By Dior 

Year of Birth: 2015 

Victoire de Castellane ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แผนกจิวเวลรี่ของ Dior ได้แรงบันดาลใจมาจากความเชื่อเรื่องดาวนำโชคของเมอซิเออร์ดิออร์ ผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากแผนภูมิทิศทางลมซึ่งพบได้ที่คฤหาสน์ของดิออร์ในเมืองกรองวิลล์ อีกทั้งชื่อที่มีคำว่า Rose ยังสื่อถึงดอกกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้ที่ดิออร์ชื่นชอบด้วย ดีไซน์ไอคอนิกนี้จึงเป็นที่จดจำจากชาร์มประดับดาวแปดแฉกซึ่งตีความนำเสนอผ่านวัสดุล้ำค่าหลากเท็กซ์เจอร์และสีสัน 

4. HORSEBIT  By Gucci  

Year of Birth: 2004 

Gucci เป็นแบรนด์หนึ่งที่มีความผูกพันกับความงามและไลฟ์สไตล์ของโลกการขี่ม้า ดังเช่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบโมทีฟ Horsebit ซึ่งมีที่มาจากตะขอปากม้า จนขึ้นแท่นซิกเนเจอร์ของ Gucci มานานหลายทศวรรษ นอกจากจะปรากฏอยู่บนกระเป๋าและรองเท้าแล้ว โมทีฟอันเป็นเอกลักษณ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ Gucci เปิดตัวคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ Horsebit นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของ Gucci ในโลกไฟน์จิวเวลรี่ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว 

5. QUATRE By Boucheron 

Year of Birth: 2004

ชื่อ Quatre (กาทร์) เป็นภาษาฝรั่งเศส หมายถึงเลขสี่ ซึ่ง Boucheron เมซงจิวเวลรี่ชั้นสูงอันเก่าแก่จากปลาซวองโดมได้นำมาตั้งเป็นชื่อคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยนำ 4 ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์จากอาร์ไคฟ์ของแบรนด์มารวมเข้าด้วยกัน ได้แก่ Grosgrain, Double Godron, Ligne Diamants และ Clou de Paris กลายเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ที่เห็นแล้วจดจำได้ทันที หลังจากเปิดตัวแหวนซึ่งเป็นดีไซน์แรก คอลเลกชั่น Quatre ก็ได้รับการตีความใหม่อย่างต่อเนื่อง 

 

6. ALHAMBRA  By Van Cleef & Arpels

Year of Birth: 1968 

ว่ากันว่า ฌากส์ อาร์เพลส์ หลานของผู้ก่อตั้งแบรนด์เชื่อในโชค เขามักเก็บใบโคลเวอร์สี่แฉกมอบให้เพื่อนฝูงโดยแนบไปกับบทกวี Don’t Quit ของจอห์น กรีนลีฟ วิทเทียร์ และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของตำนานกำเนิดเครื่องประดับ Alhambra ที่ดูเผินๆ คล้ายกับใบโคลเวอร์ ตัวแทนของความหรูหราแต่ลำลอง สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ยุค 1960s และกลายเป็นจิวเวลรี่คู่ใจของผู้หญิงมาจนถึงปัจจุบัน   

7. BONE CUFF  By Tiffany & Co.

Year of Birth: 1970 

นี่คือหนึ่งในไอคอนิกดีไซน์ของ Elsa Peretti จิวเวลรี่ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนที่ออกแบบให้กับ Tiffany & Co. โดยเจ้า Bone Cuff นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากโครงกระดูก ทั้งยังชูเสน่ห์แบบเฟมินีนและความมีเสน่ห์เซ็กซี่ ผสานเข้ากับความหลงใหลที่เธอมีต่อโครงสร้างสถาปัตยกรรม ทั้งโบสถ์คาปูชินในโรม และผลงานของแอนโตนี เกาดี กำไล Bone Cuff กลายเป็นภาพจำของวงการแฟชั่นเมื่อนักแสดงชื่อดังอย่าง ไลซา มิเนลลีสวมใส่กำไลรุ่นนี้ ตามมาด้วยโซเฟีย โลเรน, แคทเธอรีน เดอเนิฟ, แองเจลีนา โจลี, มาโก ร็อบบี รวมถึงกัล กาดอตด้วย  

8. COCO CRUSH  By CHANEL  

Year of Birth: 2015 

หนึ่งในซิกเนเจอร์ของ Chanel คือลวดลายควิลต์หรือ matelassé ที่ตกแต่งบนกระเป๋าหนังคลาสสิก ทางแผนก Chanel Fine Jewelry จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ร่วมสมัยในชื่อ Coco Crush ซึ่งแฝงจิตวิญญาณของชาเนลเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม เพียงแรกเห็นไฟน์จิวเวลรี่คอลเลกชั่นนี้ คุณก็รู้ว่านี่คือ Coco Crush ไม่ว่าจะผลิตจากไวท์โกลด์ เบจโกลด์ เยลโลว์โกลด์ ในแบบเรียบง่ายที่สุดหรือประดับเพชรเพิ่มประกายก็ตาม อีกทั้งดีไซน์ยังเหมาะสำหรับการสวมใส่ทั้งชายและหญิง 

9. JUSTE UN CLOU By Cartier 

Year of Birth: 1971 

การนำอุปกรณ์ที่พบในชีวิตประจำวันมาใช้เป็นไอเดียในการออกแบบจิวเวลรี่นั้นมีมาตั้งแต่ยุค 1930s แล้ว จนมาถึงยุค 1970s แนวคิดนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อ อัลโด ซิปูโย ดีไซเนอร์ผู้เคยกล่าวไว้ว่า “ร้านฮาร์ดแวร์คือบ้านหลังที่สองของผม” ได้ออกแบบผลงานอันโด่งดังให้กับ Cartier หนึ่งในนั้นก็คือ Juste Un Clou (จุสต์ เอิง คลู) ซึ่งนำแรงบันดาลใจมาจากอุปกรณ์ในการก่อสร้างอย่างตะปูมาบิดเกลียวจนกลายเป็นกำไลชิ้นเก๋ไม่เหมือนใคร ผลงานนี้เเสดงถึงช่วงเวลาของความอิสระเสรีทางความคิด ความทันสมัย ความโดดเด่น ความสร้างสรรค์ และการปลดปล่อยตัวตนจากกรอบเดิมๆ

10. POSSESSION  By Piaget 

Year of Birth: 1990 

แถบตรงกลางที่สามารถหมุนได้อย่างอิสระนั้นเป็นลูกเล่นและซิกเนเจอร์ของคอลเลกชั่น Posssesion ซึ่งทำให้เจ้าของแต่ละคนไม่เพียงแต่เพลิดเพลินไปกับความงามของแหวนเท่านั้น แต่ยังได้โต้ตอบกับแหวนด้วยการหมุนเล่นด้วยความเพลินใจ คอลเลกชั่นนี้ยังถือเป็นตัวแทนของโชค ความสุข ความสำเร็จ และการมองโลกในแง่ดี แถมยังโดนใจคนดังมากมายทั้ง อีวา ลองโกเรีย, โอลิเวีย พาร์เลอโม, เจสสิกา ชาสเตน หรือแม้กระทั่งหนุ่มอาโป ณัฐวิญญ์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำประเทศไทยด้วย 

11. HAPPY HEARTS  By Chopard 

Year of Birth: 2009 

ความสุขคืออุดมคติสูงสุดของ Caroline Scheufele ประธานร่วมและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์จิวเวลรี่ของ Chopard ซึ่งเธอยังได้นำมาถ่ายทอดผ่านงานออกแบบของเธอ เริ่มตั้งแต่ Happy Diamonds นาฬิกาที่มีเพชรเคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสระราวกับเริงระบำ รวมถึงคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ Happy Hearts ที่เกิดจากการผสานซิกเนเจอร์ดีไซน์ของเพชรหมุนเข้ากับโมทีฟรูปหัวใจที่ปรากฏในงานออกแบบของ Chopard อยู่บ่อยๆ ด้วย 

12. BEE MY LOVE By Chaumet 

Year of Birth: 2011 

คอลเลกชั่น Bee My Love โดดเด่นด้วยดีไซน์รูปรังผึ้งซึ่งเกิดจากการนำรูปทรงหกเหลี่ยมมาร้อยเรียงต่อกัน คือตัวแทนของความรุ่งเรือง ความทันสมัย ความงดงาม และประวัติศาสตร์ หากย้อนกลับไปในอดีต Chaumet ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1780 ได้เป็นผู้ผลิตเครื่องประดับให้กับจักรวรรดิฝรั่งเศสในสมัยจักรพรรดินโปเลียน และจักรพรรดินีโจเซฟีน โดยผึ้งถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของราชวงศ์โบนาปาร์ต อีกทั้งยังสื่อถึงความหลงใหลที่จักรพรรดินีโจเซฟีนมีต่อธรรมชาติและยุคโรแมนติก 

Other Articles