Tuesday, April 30, 2024

ทำความรู้จักเทรนด์ความงามแบบ ‘Quiet Beauty’ สวยเรียบง่ายอย่างเป็นธรรมชาติ กับคุณหมอแพร-แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์

หลายๆ คนที่เป็นคนติดตามเทรนด์แฟชั่น น่าจะคุ้นหูกับเทรนด์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในปัจจุบันอย่าง ‘Quite Luxury’ เทรนด์การแต่งตัวที่เน้นความเรียบง่ายแต่ใส่ใจในดีไซน์ที่ดูแพง ความหรูหราที่ไม่ตะโกนจนเกินไป แต่เทรนด์ความเงียบที่หรูหรานี้ก็มีให้เห็นในโลกความงามเช่นเดียวกันอย่างเทรนด์ ‘Quite Beauty’ ที่เน้นไปที่ความงามแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมกอัพ สกินแคร์ หรือแม้แต่การทำหัตถการหรือศัลยกรรม วันนี้เราเลยขอพาคุณมาทำความรู้จักกับเทรนด์ความงามนี้ให้ลึกขึ้น ผ่านมุมมองของคุณหมอแพร หรือ ผศ.ผญ. แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์ ประจำ Meko Clinic ที่มีปรัชญาหลักคือ ‘ความงามที่เป็นธรรมชาติ’ ซึ่งคุณหมอแพรเป็นหนึ่งในแพทย์เพียงไม่กี่ท่านในประเทศไทยที่จบ American Board of Dermatology หรือวุฒิบัตรแพทย์เฉพาะทางสาขาตจวิทยาจากสหรัฐอเมริกา

คิดเห็นอย่างไร เมื่อเทรนด์ความงามในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับความสวยที่ ‘เป็นธรรมชาติ’ มากยิ่งขึ้น?

คุณหมอแพร: จริงๆ เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ ปีนี้ Meko Clinic ก็ก่อตั้งมา 40 กว่าปีแล้วแต่ปรัชญาของเราไม่เคยเปลี่ยน ก็คือเน้นความสวยที่เป็นธรรมชาติมาโดยตลอดอยู่แล้ว แน่นอนว่าเทรนด์ความงามก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เช่นจะมีช่วงหนึ่งที่การทำศัลยกรรมหรือหัตถการแล้วเห็นผลชัดเจนจะเป็นที่นิยม แต่เราก็ยังยึดมั่นในปรัชญาของเราอยู่ และพอมาในปัจจุบันหมอว่าคนเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องไปตะโกนให้คนอื่นๆ รู้ แต่เป็นการทำให้ตัวเองเป็นเวอร์ชั่นที่ดูดีขึ้น อย่างช่วงนี้ก็จะมีเทรนด์อย่าง ‘Quiet Beauty’ ที่ถ้าเราเอาคอนเซ็ปท์นี้มาพูดในมุมมองของหัตถการความงามแล้ว ก็จะมีเทคโนโลยีรวมไปถึงตัวยาที่ทำให้คุณดูดีขึ้นได้โดยคนไม่สามารถบอกได้ว่าคุณไปทำหน้ามา

เมื่อความคิดตั้งต้นแรกของ Meko Clinic นั้น คือผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทางคลินิกปรับตัวอย่างไรบ้างตามยุคสมัย ก่อนที่จะมาถึงในยุคปัจจุบันที่ความสวยแบบเป็นธรรมชาตินั้นถูกให้สำคัญมากยิ่งขึ้น

คุณหมอแพร: ขอยกตัวอย่างเป็นเคสที่ Meko Clinic เชี่ยวชาญอย่างการทำจมูก จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่คนไข้จะเข้ามาปรึกษาและขอให้ทำจมูกในแบบที่พุ่งมากๆ หรือชัดเจนมากๆ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่ามันค่อนข้างไม่ตรงกับปรัชญาของคลินิกเรา ตอนแรกเคสเราก็น้อยลง แต่เราก็เปลี่ยนวิธีการโปรโมทที่เจาะจงไปที่คนที่เข้าใจทางเรา และก็มีคนไข้กลุ่มหนึ่งที่ยังเข้าใจเรา เราไม่ได้ตามใจไปทั้งหมด โดยเราจะแนะนำตามความเป็นจริงให้คนไข้ตัดสินใจเอง

ในปัจจุบัน ด้วยความที่หัตถการมีให้เลือกอย่างหลากหลาย คุณหมอมีวิธีเลือกหัตถการที่เหมาะกับแต่ละคนอย่างไรบ้าง?

คุณหมอแพร: จริงๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เพราะผิวหน้าหรือรูปหน้าของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การเลือกหัตถการเลยจะแตกต่างกัน หมอแนะนำว่าก่อนจะทำหัตถการรูปแบบใดก็แล้วแต่ ให้เข้ามาปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจ ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติเข้ากับตัวเองมากที่สุด

หลายๆ คนพูดว่าถ้าหากอยากสวยแบบเป็นธรรมชาติ ให้เริ่มดูแลตัวเองหรือพบคุณหมอได้ตั้งแต่อายุยังไม่มาก เป็นการค่อยๆ ป้องกันไว้ ดีกว่าแก้ไขทีเดียวในวันที่อายุมากแล้ว คุณหมอคิดเห็นอย่างไรกับคำพูดนี้?

คุณหมอแพร: ข้อนี้หมอคิดว่าจริงมากๆ ต้องบอกว่าเรื่องของหัตถการความงามมีหลายระดับ ตั้งแต่น้อยไปมาก แต่หมอจะบอกคนไข้เสมอว่าถ้าคนไข้เริ่มทำตั้งแต่ยังไม่มีสัญญาณแห่งวัยเยอะมาก เรียกว่าเป็นการป้องกัน โดยเฉพาะกับเรื่องของคอลลาเจน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในผิว ที่จะช่วยให้ผิวในองค์รวมนั้นอ่อนเยาว์และตึงกระชับ อย่างการใช้หัตถการในกลุ่ม Collagen Stimulator  ในช่วงที่อายุยังน้อย ก็ถือเป็นการเข้าไปช่วยเสริมกำลังการสร้างคอลลาเจน แต่ในระยะยาว ก็เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้สม่ำเสมอและป้องกันคอลลาเจนที่ถูกทำลาย  เพื่อผิวที่แน่นและอ่อนเยาว์ เมื่อเวลาผ่านไป ความหย่อนคล้อยหรือปัญหาผิวที่เกิดจากอายุที่มากขึ้นก็จะตามมาช้าลง ถ้าเทียบกับคนที่ไม่เคยทำมาก่อนเขาอาจจะต้องใช้หัตถการที่หนักขึ้น โดยที่มี down time ค่อนข้างนาน ทั้งอาการบวมหรือแผลผ่าตัด แต่สำหรับคนที่เริ่มเร็วกว่า ก็ยังสามารถใช้หัตถการแบบที่เบากว่าไปได้เรื่อยๆ เรียกว่าเป็นการชะลอวัยและไม่ต้องมีสารเคมีหรือทำรุนแรงกับผิวมากจนเกินไป

Collagen Stimulator ในปัจจุบันมีมากมายหลายแบรนด์ในท้องตลาด อะไรคือปัจจัยในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Collagen Stimulator ที่ Meko Clinic ให้ความสำคัญ?

คุณหมอแพร: ต้องเล่าก่อนว่าทำไมหัตถการรูปแบบนี้ถึงกลายมาเป็นที่นิยม ก่อนหน้าที่จะมี Collagen Stimulator เราก็จะคุ้นชินกับ Filler และ Botulinum Toxin เสียมาก เป็นการดูแลรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการทำงานของผิวหรือการไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อทำให้ริ้วรอยน้อยลง แต่ Collagen Stimulator นั้นจะเข้าไปช่วยทำให้ผิวของเราอ่อนเยาว์ลงลึกถึงระดับเซลล์โดยเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบการสร้างคอลลาเจนของผิวหน้าอย่างชัดเจน การที่มีคอลลาเจนในปริมาณที่มากพอ ก็จะทำให้ผิวอิ่มเอิบขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการลดปัญหาผิวหลายอย่างทั้งเรื่องริ้วรอย รูขุมขนที่กว้าง หรือความตึงกระชับ การที่มีผิวที่แน่นขึ้น เหมือนผิวมีแรงยกมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวหน้าในองค์รวมดูอ่อนเยาว์ไปพร้อมๆ กับการที่มีผิวที่ดี

สำหรับหมอแล้ว การเลือก Collagen Stimulator มาใช้ที่ Meko Clinic นั้นก็คำนึงถึงหลายปัจจัยอยู่เหมือนกัน เริ่มจากระยะเวลาการเห็นผล การที่เห็นผลลัพธ์บนผิวเร็วก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ แต่ก็ต้องมากับอีกหนึ่งปัจจัยคือเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย อย่างตอนนี้เราก็เลือกใช้เป็น Collagen Stimulator แบรนด์ GOURI ที่นำเข้าโดยบริษัท Edencolors ค่ะ

อยากฝากอะไรถึงผู้ที่สนใจหัตถการฟื้นฟูผิวด้วย GOURI? 

คุณหมอแพร: GOURI คือ Collagen Stimulator ที่ได้รับการรับรองให้เป็นเครื่องมือแพทย์แบบฉีดตัวแรก ที่ผ่าน อย. ประเทศไทย โดยส่วนประกอบหลักคือสาร PCL หรือ Polycaprolactone ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับวัสดุร้อยไหมที่ใช้ในวงการแพทย์มากกว่า 10 ปีแล้ว แต่ PCL ของ GOURI จะถูกนำมาทำให้อยู่ในรูปแบบของเหลวเพื่อนำมาใช้ฉีดเข้าชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ตัวยากระจายตัวได้ดี อย่างแรกเลยตามที่หมอบอกไป หลังจากฉีด GOURI แล้วสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ช่วงสองสัปดาห์เป็นต้นไป จะสังเกตได้ว่าผิวแน่นและอิ่มเอิบขึ้นโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน จากเปอร์เซนต์ของ PCL ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 21% ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอ่อนวัยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ตัว GOURI นั้นเป็น Fully Liquid PCL ที่ไม่มี Microparticle แน่นอนว่าจะช่วยลดโอกาสการอุดตันใต้ชั้นผิว ปกติแล้วความถี่จะทำประมาณ 3 ครั้ง โดยเว้น 1 เดือน และจะมีระยะทำงานในผิว 6 เดือนถึง 1 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนไข้เช่นกัน ทั้งเรื่องของปริมาณการใช้ และความถี่ที่จะเข้ามาทำหัตถการ โดยทีมแพทย์ของเราก็จะดูแลอย่างใกล้ชิด

อีกข้อหนึ่งที่หมออยากจะแนะนำก็คือการเลือกแพทย์ที่ทำหัตถการให้กับคุณ ควรจะเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเม่นยำ เพราะการฉีด GOURI นั้นต้องฉีดเข้าไปสู่ผิวหนังชั้น Dermis มีบางครั้งที่มีการฉีดไปที่ใต้ผิวที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อและไขมันก็ทำให้ตัวยานั้นไร้ประโยนชน์ไปโดยปริยาย หรือฉีดในจุดที่อาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องใบหน้าในองค์รวม ก็ทำให้เสียตัวยาไปอย่างน่าเสียดายเช่นกัน

สุดท้ายอยากแนะนำว่าก่อนจะเริ่มกระบวนการทั้งหมด ขอให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ให้ละเอียดก่อน ไม่ต้องรีบร้อน แน่นอนว่าอ่านมาจนถึงตรงนี้หรือใครที่เคยหาข้อมูลมาก่อนหน้านี้อาจจะเห็นว่าหัตถการนี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่การเข้ามาข้อคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนอย่างละเอียด จะทำให้คุณได้ผลลัทธ์ที่น่าพอใจและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะผิวหน้าของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน มาให้แพทย์วิเคราะห์และประเมินก่อนการทำหัตถการ ว่าคุณเหมาะกับหัตถการแบบใดหรือมากน้อยเท่าไหร่

Photogrpher: Thanut Treamchanchuchai

Beauty Editor: Chayanon Chongprasert

Other Articles