Saturday, April 19, 2025

กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒน์พงษ์ และจีน่า-ญีนา ซาลาส คู่พระนางที่น่าจับตากับโปรเจ็กต์ละครแห่งปี

หากพูดถึงนักแสดงเจนใหม่ของยุคนี้ แฟนๆ คงนึกถึงเหล่านักแสดงจากละครชุด ‘ดวงใจเทวพรหม’ กันไม่น้อย เนื่องจากเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ทางช่อง 3 ออกมาเมื่อสองปีที่แล้วโดยเปิดตัวคู่พระนางที่ใครต่อใครเฝ้าจับตาว่าจะมาสร้างปรากฏการณ์ได้เหมือนละครชุด ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’ หรือไม่ และหนึ่งในคู่พระนางที่เรียกได้ว่ามาแรงและเป็นกระแสมาตั้งแต่เปิดตัวเลยก็คือ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒน์พงษ์ และจีน่า-ญีนา ซาลาส ซึ่งได้โคจรมาประกบคู่กันในละคร ดวงใจเทวพรหม ตอน ‘ลออจันทร์’ ซึ่งพร้อมออนแอร์ในเดือนมีนาคมนี้แล้ว

Gulf’s New Path 

สำหรับกลัฟ-คณาวุฒิ เราคงแทบไม่ต้องอธิบายถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทางในวงการบันเทิงของเขาแล้วกระมัง แถมวันนี้หนุ่มฮ็อตวัย 26 ยังเป็นที่รู้จักในระดับโลกไปแล้ว โดยเฉพาะซีนของโลกแฟชั่นนับตั้งแต่เขาได้ขึ้นแท่นเป็นเฟรนด์ของกุชชี่ “นี่ผมเพิ่งไปดูโชว์ของกุชชี่ที่มิลานครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆ มองไปรอบตัวในงานมีทั้งเจปาร์ก ไอยู เราก็ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหนดี แต่แฟนๆ ที่นั่นก็คอยมาให้กำลังใจ”

ถ้าพูดถึงงานบันเทิง กลัฟอาจไม่ได้มีผลงานการแสดงบ่อยนัก แต่เขาได้ลองมาแล้วหลากหลาย ทั้งซีรีส์ ละคร ไปจนถึงภาพยนตร์ แถมยังพร้อมเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอด้วย อย่างผลงานเพลงใหม่ชื่อ Congratulations ที่เขาทำกับเดอะ ทอย และเพิ่งปล่อยออกมา เป็นเพลงอกหักแต่ไม่เศร้าด้วยเมโลดี้และท่อนแร็ปที่ชวนให้ขยับเบาๆ

“จริงๆ ผมชอบแร็ปมากกว่าร้อง ผมฟังเพลงของ ILLSLICK มาตั้งแต่สมัยเรียน มันซึมซับ มันอยู่ในร่างกาย ในสมอง แค่มีบีตขึ้นมา ตัวเราก็พร้อมจะโยกแล้ว” กลัฟเล่าผลงานใหม่ที่ฟูลฟิลใจสุดๆ และได้แสดงความเป็นตัวเองออกมา “ถ้าต้องเลือกระหว่างการเป็นนักแสดงกับศิลปิน จริงๆ ผมอยากทำทั้งสองอย่างนะ แต่ถ้าถามตอนนี้ ผมชอบการเป็นศิลปินมากกว่า แต่ถ้าคิดว่าทำอะไรได้ดี สำหรับตอนนี้น่าจะเป็นการแสดง”

Gina’s Shining Moment 

จีน่า-ญีนา ซาลาส นักแสดงสาวหน้าสวยลูกครึ่งไทย-คิวบาคนนี้มีเสน่ห์ล้นเหลือ เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวโดยที่คุณพ่อของเธอเป็นโค้ชมวย “พ่อแม่สนับสนุนความฝันของหนูนะ เขาอยากให้เราทำอะไรก็ได้ที่ใจเราอยากทำ” จีน่าเล่าถึงการไล่ตามความฝันเกี่ยวกับการทำงานในวงการบันเทิงที่มีมาตั้งแต่เด็ก 

หลังจากใช้ชีวิตวัยเด็กไปกับการประกวดและแคสต์งานมาอย่างต่อเนื่อง ความฝันของเธอก็เป็นจริงเมื่อได้แสดงละคร ‘รัตนาวดี’ ตอนอายุแค่ 15 ตามมาด้วยผลงานการแสดงอีกหลายเรื่อง ในวันนี้นักแสดงสาววัย 24 คือหนึ่งในนักแสดงเจนใหม่ที่น่าจับตามองของช่อง 3 “พอมาทำงานนี้จริงๆ รู้เลยว่าอาชีพนี้ท้าทายมากๆ คนอาจจะมองว่ามันง่าย ได้เงินเร็ว แต่จริงๆ แล้วมันใช้เวลา ความอดทน ก็เหมือนทุกอาชีพที่ต้องเอาความสามารถไปแลกมา มันคือความพยายามในทุกๆ วันจริงๆ เพราะเราอยากทำทุกงานออกมาให้ดี” ในฐานะนักแสดง จีน่าบอกว่า “ตอนนี้อยากได้บทที่ทำให้เราได้ลองอะไรใหม่ๆ หรือทำอะไรที่หลากหลาย”

“ความที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เลยเป็นคนใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผน และคิดเยอะว่าจะทำอะไร ถ้าเทียบแล้วคงจะโตกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันมั้งคะ แล้วเรายังต้องดูแลคนในครอบครัวด้วย พอโตขึ้นก็เริ่มฝันใหญ่ขึ้นค่ะ ถ้าสิ่งที่อยากให้เป็นจริงในตอนนี้ก็คือ อยากสร้างบ้านของตัวเองนี่แหละ เพราะมันคือเซฟโซน ที่ที่เราอยู่ได้อย่างสบายใจ”

Playing The Roles

มาถึงโปรเจ็กต์ละครแห่งปีของช่อง 3 กันบ้าง ละครเรื่อง ‘ลออจันทร์’ คือโปรเจ็กต์ที่ทำให้ทั้งกลัฟและจีน่าโคจรมาแสดงด้วยกันเป็นครั้งแรก “ตอนเจอกัน พี่กลัฟเขามาสวัสดีหนูค่ะ” จีน่าเล่าให้ฟังถึงโมเมนต์แรกที่ได้เจอกัน ส่วนฝั่งพระเอกบอกว่า “เพราะปกติเวลาผมไปที่ไหน ผมจะเป็นน้อง พอเจอจีน่าก็เลยสวัสดี พอมารู้ทีหลังก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน” อย่างที่ว่ากันว่าเคมีระหว่างนักแสดงมีผลต่อเสน่ห์ของละคร เชื่อว่าคู่นี้คงไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอน สังเกตได้จากความเข้าขาและการต่อมุกรับส่งกันในวันที่เรามีนัดถ่ายแฟชั่นสัมภาษณ์ครั้งนี้ 

ลออจันทร์เป็นผลงานจากบริษัท ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ของผู้จัดฯ เอกนรี วชิรบรรจง และได้อู๋-ธนากร โปษยานนท์ มารับหน้าที่กำกับ ในเรื่องกลัฟรับบทหม่อมหลวงภูธเนศ จุฑาเทพ ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นบุตรชายของคุณชายรัชชานนท์และเจ้าหญิงสร้อยฟ้า ส่วนจีน่ารับบทลออจันทร์ หญิงสาวปริศนาที่เข้ามาสมัครงานเป็นเลขา และทั้งสองต้องช่วยกันไขปริศนาเกี่ยวกับสร้อยลึกลับ โดยฉากของเรื่องคือประเทศไทยในช่วงปี 2534

พอได้เข้าไปอยู่ในยุคสมัยที่เรายังไม่เกิดแบบนี้ มีอะไรที่รู้สึกว่าเซอร์ไพรส์บ้างไหม

กลัฟ: “ผมว่าน่าจะเรื่องการแต่งตัวนี่แหละ คือมีความเว่อร์ถ้าเทียบกับยุคนี้ อย่างตัวร้ายในเรื่องก็จะทาปากแดง ทำผมฟูๆ ไปเลย”

จีน่า: “ผู้หญิงยุคนั้นมีความจัดจ้าน เพราะดูจากนิตยสารต่างประเทศ กระโปรงไม่พองก็รัดรูป ถ้าเทียบกับยุคนี้จะชิลล์กว่าเยอะ”

กลัฟ: “ผู้ชายก็จะโอเวอร์ไซส์ กางเกงขาม้าหน่อยๆ แต่ผมชอบนะ”

ก่อนแสดงทั้งสองคนต้องศึกษาคาแร็กเตอร์และเตรียมตัวอะไรบ้าง 

จีน่า: “ก็มีเวิร์กช็อปคิวบู๊กันบ้างนะคะ แต่ส่วนใหญ่เราจะไปลงเรื่องบทก่อน อย่างลออจันทร์ซึ่งเป็นสาวปารีเซียน ใช้ชีวิตอยู่ปารีส มีความเป็นฝรั่งจ๋า และทำงานแล้ว เราต้องศึกษาในจุดนี้ว่าต้องแสดงออกอย่างไร”

กลัฟ: “ส่วนผมเป็นผู้บริหารห้าง ความยากคือการทำให้ตัวเองดูโตขึ้นมากกว่า ต้องมีมาดคุณชายด้วย อยู่กับครอบครัว กับที่บริษัท แต่กับลออจันทร์ก็จะมีความต่างกันในการวางตัว และมีเรื่องของความเนี้ยบด้วย ซึ่งต่างจากตัวจริงตรงที่เป็นคนชิลล์ มีความเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสม์”

แล้วต้องพูดภาษาต่างชาติด้วยใช่ไหม อย่างภาษาเวียงพูคำ

กลัฟ: “มันก็คือภาษาอีสานครับ ถือว่าไม่ได้ยากมาก เพราะได้ยินบ่อยในกองครับ”

จีน่า: “ส่วนหนูคือภาษาฝรั่งเศส แต่ตัวจริงหนูพูดไทยเป็นหลัก พ่อหนูเป็นคนคิวบาก็จริงแต่พูดไทยได้ ในเรื่องคือต้องพูดได้หมด ทั้งฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ มันมีซีนสัมภาษณ์งานเป็นเลขาของคุณภู ซึ่งสัมภาษณ์เป็นภาษาฝรั่งเศสโดยคุณแม่สร้อยฟ้า โชคดีที่ค่ายส่งเราไปเรียน มันเป็นซีนที่ยาวนานมากๆ”

กลัฟ: “แมร์ซี โบกู (ขอบคุณมาก) ผมได้แค่คำเดียวเลย”

ได้เรียนรู้อะไรจากการแสดงเรื่องนี้บ้าง

กลัฟ: “น่าจะเป็นการได้ทำอะไรใหม่ๆ อย่างการแสดงเป็นเจ้าของบริษัท ลุยป่าลุยเขา เป็นสิ่งที่เราไม่ได้ทำในชีวิตจริงอยู่แล้ว พอได้มาทำในละครเรื่องนี้รู้สึกว่าเราก็ทำได้และสนุกด้วย”

จีน่า: “หนูเคยแสดงละครพีเรียดมาแล้ว แต่ตอนนั้นเรายังเด็ก เรื่องนี้เป็นพีเรียดแบบที่เราโตแล้ว และต้องเล่นเป็นสาวออฟฟิศ ต้องไขปริศนา และบู๊เยอะมาก ก็เป็นโอกาสที่ดี”

กลัฟ: “ก็ไม่ได้อยากขิงคู่อื่นๆ นะ แต่เราบู๊เยอะมากจริงๆ บู๊ตั้งแต่ฉากที่อยู่ในเมือง”

จีน่า: “แล้วมันมีครบรสจริงๆ ทั้งความโรแมนติกและคอเมดี้”

ความที่ละครชุดแรกเน้นเรื่องการเป็นสุภาพบุรุษ ส่วนตัวกลัฟคิดว่าสุภาพบุรุษในยุคต่อมาเป็นอย่างไร 

กลัฟ: “อืมม น่าจะความไม่ได้เป๊ะมากมั้งครับ ไม่เหมือนรุ่นพ่อแม่ อย่างการจีบหญิงในดวงใจเทวพรหม ไม่ได้ต้องคีพคูลหรือวางมาดเท่าสมัยจุฑาเทพ ยุคผมก็สบายๆ ชิลล์ตามสมัย”

ทั้งสองผ่านการแสดงมาแล้วประมาณหนึ่ง คิดว่าตัวเองเติบโตขึ้นขนาดไหนในฐานะนักแสดง

กลัฟ: “ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ เอาไป 70 แล้วกัน เพราะยังมีบางพาร์ตที่ผมพัฒนาได้อีก”

จีน่า: “อาจจะเพราะว่าเราได้มารับบทที่ต้องเดินเรื่องเต็มๆ มันเลยยากนิดหนึ่ง”

ในวัย 20 กว่าๆ คิดว่าอยากเป็นนักแสดงแบบไหน

จีน่า: “หนูไม่ได้ตั้งเป้าเลยว่าต้องเป็นตัวหลักหรือตัวเด่น พูดกับคนรอบข้างเสมอว่าเราเพิ่งเริ่ม ไม่ต้องไปเร่งมัน ค่อยๆ ไปทีละก้าว และอนาคตไม่ว่าจะอยู่จุดไหน ได้เล่นเป็นอะไร ก็ยินดีสุดๆ เพราะไม่ใช่โอกาสที่ใครก็จะได้ทำ”

กลัฟ: “ผมไม่ได้คิดไว้ แค่อยากทำอะไรที่เราอยากทำไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ก็มีสิ่งใหม่ๆ ที่ได้ลอง อนาคตจะเป็นยังไงค่อยว่ากัน” 

มีอะไรที่อยากถามกันเองหนึ่งคำถามไหม

กลัฟ: “ได้นอนบ้างไหม (หัวเราะ) เห็นน้องถ่ายละครเยอะมาก ตอนปิดกล้องผมชิลล์ ไม่ได้รับละครต่อแล้ว” 

จีน่า: “ตอนนั้นรับละครพีเรียดไว้สองเรื่อง แต่คาแร็กเตอร์ต่างกันมาก แล้วพอจบลออจันทร์ก็มีเรื่องใหม่เลย ตอนนี้ขอทีละเรื่องไปก่อน ก็เลยได้นอนบ้าง”

กลัฟ: “เป็นห่วงน้อง ส่วนผมจะเป็นงานอย่างอื่นมากกว่าละคร เลยชิลล์กว่า”

จีน่า: “ฉันก็อยากถามเธอะนะว่าเอาตังค์ไปเก็บที่ไหน”

กลัฟ: “(หัวเราะ) ที่แม่ครับ แม่ผมดูบัญชีให้”

จีน่า: “แต่เห็นในชีวิตประจำวันพี่กลัฟ ถ้าไม่ทำงานก็อยู่กับแมว ไม่ใช้เงินเลย”

กลัฟ: “ถ้าใช้ก็ใช้กับแมวผมแหละครับ”

ขอสามคำสำหรับลออจันทร์ได้ไหม

กลัฟ: “ครบรสเกิ๊น”

จีน่า: “โหดมันฮา”

กลัฟ: “อยากให้ดู ดูเยอะๆ อย่าลืมดู”

Photographer: Wasu Sukatocharoenkul 

Fashion Editor: Watcharachai Nun-gnam

Writer: Pimpilai Boonjong

Makeup for Gina: Achawin Krittiyavanich

Hair for Gina: Patyos Prasart

Makeup for Gulf: Chanaphan Kerd

Hair for Gulf: Tiyanon Kumtawai

Videographer: Ketsara Leecharoen

Stylist Assistants: Panithan Prasongsanti, Tisakorn Kunchornnok, Neti Poomthong 

Producer: Angkana Wongwisetpaiboon

Special Thanks: 360 Studio Society

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

ความเป็นธรรมชาติของผู้ชายคูลๆ ‘มีน-พีรวิชญ์’

ส่วนผสมของ 4 นักแสดงที่ถ่ายทอดมิติตัวละครได้อย่างกลมกล่อม ในซีรีส์ Ready, Set, Love เกมชนคนโสด

ความในใจและความรู้สึกของ กลัฟ-คณาวุฒิ กับบทบาท ‘Friend of Gucci Thailand’






Other Articles