Tuesday, February 18, 2025

รวบตึง! 6 หนังอุ่นเครื่อง’เทศกาลฮาโลวีน’ ที่คุณไม่ควรพลาด

คืนปล่อยผีแห่งปี 2024 ใกล้เข้ามาแล้ว สาวๆคนไหนพร้อมแล้วยกมือขึ้น! แต่ถ้าใครเครื่องยังไม่ร้อน L’Officiel ขอเสนอ 6 หนังสุดสยองที่พกมาทั้งความขนลุกแบบ ’ไม่มีผี’ ที่หลอนกว่าดูหนังผี และ ‘มีผีแบบเน้นๆ’ แบบสะดุ้งโหยง ให้สาวๆได้เลือกดูกันบอกเลยว่าทุกเรื่องที่คัดมาการันตีด้วยการแสดงที่ถึงเครื่องและงานกำกับภาพสุดปัง สุดท้ายดูจบทั้ง 6 เรื่อง บอกเลยพร้อมไปปล่อยผีอย่างแน่นอน!



Split (2016)
ใครๆก็ต้องเคยได้ยินข่าวเรื่องลักพาตัว: เรียกได้ว่าเป็นหนังระทึกขวัญนำดีแนว Psychological Thriller Mystery ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของชายคนนึงมีอาการทางจิต Multiple Personality Disorder หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โรคหลายบุคลิก ซึ่งจะมีอัตลักษณ์หรือมีบุคลิกมากกว่าหนึ่งบุคลิกในคนเดียวกัน และบุคลิกที่ชายคนนี้มีถึง 24 บุคลิกและเข้าควบคุมพฤติกรรมของเขาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเรื่องราวความระทึกขวัญก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆชายคนดังกล่าวดันไปลักพาตัวเด็กสาวทั้ง 3 คน จนนำมาสู่เรื่องราวไม่คาดฝัน

การแสดงของนักแสดงในหนังเรื่องนี้ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถ่ายทอดความจิตหลุดในตัวละครอย่างไม่มีของกังขา โดย James Mcavoy เป็น Kevin ชายผู้มีอาการทางจิตที่ทำให้ทึ่งในการแสดงแยกบุคลิกทั้ง 24 จากกัน ได้อย่างน่าทึ่งและ Anya Taylor-Joy ที่ในขณะนั้นเธออายุเพียง 18 ปี รับบทเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กสาวที่ถูกลักพาตัว ที่ตลอดทั้งเรื่องในตาของเธอเหมือนซ้อนความลับบ้างอย่างอยู่เสมอ

Get Out (2017)
ใครก็ต้องเคยไปบ้านแฟน: เพิ่มดีกรีความตื่นเต้นกับเรื่องราวของ Chris ชายผิวสีที่ตามแฟนสาวกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของเธอในสุดสัปดาห์ ดูเหมือนมันจะเป็นแห่งการธรรมดาๆ ปกติ ไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่ Chris ก็ต้องได้พบเจอกับสิ่งแปลกต่างๆ ที่อยู่ไปเรื่อยๆ และยิ่งทวีความสยองขึ้นตลอดที่เขาอยู่ที่นั้น

โดย Get Out เป็นหนังระทึกขวัญที่เล่นประเด็นของ สีผิว ผ่านพล็อตเรื่องที่ถูกวางมาอย่างชาญฉลาด การแสดงอารมณ์ของนักแสดงที่ซับซ้อนชวนน่าสงสัยในทุกการกระทำ งานโปรดักชันและองค์ประกอบภาพ ที่เลือกใช้ในการสื่ออารมณ์ต่างๆแต่จุดที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าอินกับหนังและเอาใจช่วยพระเอกของเรื่องโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 4 รางวัลทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่รับบทโดย แดเนียล คาลูยา ซึ่งเป็นผู้ชายผิวสีคนแรกที่เข้าชิงออสการ์ในสาขานี้จากหนังสยองขวัญและการันตีคุณภาพอย่างแท้จริงจากการที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง

Midsommar (2019)
ใครๆก็เคยอยากไปเที่ยวกับเพื่อน: เมื่อ Dani โดยนักแสดงสาว Florence Pugh และกลุ่มเพื่อนร่วมมหาลัยวางแผนที่จะไปเที่ยวเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูร้อนที่มีลัทธินอกรีตในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลและไร้ผู้คนจากภายนอกอย่างไรก็ตามดินแดนที่เหมือนจะสดใสเหมือนทุ่งดอกไม้ที่เห็นแต่ยิ่งอยู่นานยิ่งค้นพบเรื่องราวสุดแปลกประหลาด ที่ทำให้ขนหัวลุกขึ้นเรื่อยๆทั้งจากการกระทำแปลกๆของคนในหมู่บ้าน

อีกจุดเด่นที่น่าพูดถึงของ Midsommar เลยคงหนีไม่พ้น งานภาพที่กลิ่นอายความเชื่อแบบคติชนวิทยา (Folklore) ให้อารมณ์ถึงความเฟรนด์ลี่สำหรับคนอยากดูแต่ขี้กลัว เพราะวิวทิวทัศน์ ทุ่งดอกไม้ และ พร็อปที่งดงามตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียและฉากกลางวัน สว่างจ้า ตลอดทั้งเรื่องที่อย่างน้อยก็ไม่ใช้มุก ‘ความมืด=น่ากลัว’ แต่หลอกหลอนคนดูด้วยสิ่งอื่นๆที่แฝงความขนลุกในทุกอนุ เรียกได้ว่าเป็นรสชาติใหม่สำหรับคอหนังสยองขวัญและเหมาะสำหรับสาวๆระดับบีกินเนอร์เลยทีเดียว

Talk to Me (2023)
ใครๆก็เคยไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน: ชาวเน็ตคงจะคุ้นเคยกับเพลง Le Monde โดย Richeard Carter ที่ได้ยินกันอยู่ช่วงนี้ในทั้งอินสตรแกรมและติ้กตอก ซึ่งมีที่มาจากภาพยนตร์เรื่องนี้เอง เมื่อกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเล่นพิเรนทร์ ด้วยอันเชิญวิญญานจาก’มือของซากศพ’ และเสพติดความตื่นเต้นนี้จนเรื่องราวดำเนินไปจนล้ำเส้นไปไกลเกินกว่าที่ควร

เรื่องนี้เป็นหนังผีสุดสยอง ที่มีผีโพล่ออกน้อยฉากแต่สร้างความหลอนติดตา จนเรียกได้ว่ามันคือการหลอนแบบ work smart,not work hard อย่างแท้จริง และยังมีเส้นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะสร้างโดยการใช้ การกระทำวัยรุ่นในการใช้สิ่งเสพติดมาเป็นตีมหลัก แต่แค่เปลี่ยนจากสิ่งเสพติดเป็น ผี ด้วยการแฝงข้อคิดไว้ในหนังที่ลึกซึ้งผ่านฉากหน้าของเรื่อง Talk to Me ที่ฉาบหน้าด้วยควาทเป็นหนังผีวัยรุ่นลองของแต่จริงๆแล้วแฝงนัยยะเรื่องปัญหาในครอบครัวไว้ต่างหาก

Train to Busan (2016)
ใครๆก็ต้องเคยนั่งรถไฟ: เอาใจคอหนังซอมบี้ แต่เป็นซอมบี้แบบโอปปาสัญชาติเกาหลี นำทัพแสดงโดย กงยู และสาวน้อย ’คิมซูอัน’ เล่าถึงเรื่องราวสุดระทึกขณะขึ้นรถไฟเคทีเอ็กซ์จากกรุงโซลไปยังเมืองปูซาน แต่กลับถูกฝูงซอมบี้โจมตี อย่างบ้าคลั่ง จนทำให้สองพ่อลูกต้องหนีเอาชีวิตรอดและไปให้ถึงปูซานให้ได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หนังสไตล์ Zombie-Survival ในหมู่คนทำหนังแต่ เรื่องนี้โดดเด่นอย่างยากที่จะหาที่ใดเปรียบ นอกจากความเป็นหนังสัญชาติแดนกิมจิแล้ว พล็อตเรื่องที่เริ่มเรื่องมาด้วยความมันและลุ้นระทึก จากการที่ผู้ชมจะได้เห็นการวิ่งสู้ฟัดของหนุ่ม กงยู ที่มาในมาดหนุ่มธุรกิจอุ้มลูกสาวสุดน่ารักหนีฝูงซอมบี้ แต่จุดจบอย่างซึ้งและไม่คาดคิดว่าหนังจะพลิกให้ตัวละครทำสิ่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังซอมบี้ที่ตราตึงใจและครบรสที่หลายๆคนเลยทีเดียว

The Medium หรือ ‘ร่างทรง’ (2021)
ใครๆก็รู้จักร่างทรง: หนังไทยเพียงหนึ่งเดียวของเรา จากประโยคเด็ด “แกเป็นไผ” ซึ่งเป็นมีมแห่งปี 2021 ทำให้ร่างทรงก็เป็นหนังที่น่านำกลับมาชมในคืนฮาโลวีนนี้ ซึ่งเป็นหนังผีสัญชาติไทยที่เล่นกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ท้องถิ่นทางภาคอีสานของไทยเรา และชวนตั้งคำถามว่า ’สิ่งที่เราเชื่อ มันมีจริงๆหรือไม่’

นอกจากนี้ยังงานภาพของร่างทรงทำให้คนเราได้รับรู้ถึงบรรยากาศความชนบทบวกกับการเล่นกับความไสยศาสตร์ที่คนไทยเราคุ้นเคย เหมือนยิ่งเราคุ้นเคยมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น และการันตีด้วยการร่วมทุนระหว่างไทย-เกาหลี ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย

โดยทุกเรื่องที่กล่าวมา สาวๆสามารถเข้าไปชมได้ทางสตรีมมิ่งของ Netflix Thailand อย่างจุใจพร้อม เพื่อน ครอบครัว หรือดูคนเดียวก็ยังได้ เริ่มดูตั้งแต่วันละเรื่องทั้ง 6 เรื่อง ครบทุกเรื่องเหมือนไหร่ก็พร้อมปล่อยผีเลย






Other Articles