ก้าวใหม่ของ Coach (โค้ช) ในรันเวย์ล่าสุดกับคอลเลกชั่น Spring 2024 ที่จัดขึ้นในมหานครนิวยอร์ก ณ New York Public Library ที่เหล่าแขกนั่งเรียงรายรับชมนางแบบและนายแบบก้าวเดินออกมาพร้อมชุดและแอคเซตซอรี่ที่ผสมผสานกับความเท่และเย้ายวนเข้าด้วยกันแต่ยังคงดีเอนเอนความคลาสสิกและสนุกสนานของ Coach ได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมจังหวะเพลงอันหนักแน่น






สจ๊วต วีเวอร์ส (Stuart Vevers) ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของแบรนด์เรียกได้ว่าอาจจะเป็นอีกครั้งที่เขาได้นำเรื่องราวของกลุ่มคนรุ่นใหม่มานำเสนอ แต่ในคอลเลกชั่นนี้ได้ลดความจัดจ้านด้านสีสันลงเล็กน้อยแต่ถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นอายวินเทจผ่านเเครื่องหนัง และไอเท็มยีนส์ที่ใช้เทคนิคที่ทำด้วยมือเพื่อสร้างความแตกต่างให้แต่ละชิ้นมีความพื้นผิวและสีที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้เป็นทั้งความงดงามที่ทำให้ไอเท็มมือสองมีคุณค่าขึ้นและยังท้าทายความเชื่อที่ว่าความหรูหรานั้นจำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ




นอกจากนี้ยังได้ต่อยอดจากคอนเซ็ป Coach (Re) Loved ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เน้นการลดขยะในกระบวนการการออกแบบ คอลเลกชั่นนี้จะนำเสนอเครื่องหนังที่ถูกนำมาใช้ใหม่ และยีนส์ที่ผลิตจากเศษผ้าที่ใช้แล้วซึ่งคัดสรรโดยทีมของ Coach นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังคงออกแบบ และสร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลและนำไปใช้ใหม่ได้ รวมถึงการใช้สีย้อมผ้าจากธรรมชาติในชุดราตรีที่ได้สีมาจากดอกเมอริโกลด์, วอลนัทสีดำ, ล็อกวูด, คราม และอื่นๆ อีกด้วย





พร้อมได้เปิดตัวสลิปเดรส และเดรสถักใช้แล้วที่นำมาปรับใหม่และซ่อมด้วยมือ และซีรีส์เสื้อยืดและเสื้อสเวตสูทด้วยลายกราฟฟิก Donohue’s ร้านสเต็กสุดคลาสสิกที่ Upper East Side โดยปรับโฉมสัญลักษณ์ของร้านให้เป็นสไตล์สปอร์ต เครื่องหนังและรองเท้าที่สะท้อนความแตกต่างที่สนุกสนานและตรงกันข้ามกับไอเท็มแบบดั้งเดิมของคอลเลกชั่น และรองเท้าผ้าใบสีสันสดใสและรองเท้าพลาสติกส้นเตี้ย รวมถึงคอลเลกชั่นควิลท์ใหม่ในรุ่น Coach Shapes และ Tabby สไตล์ไอคอนิค นอกจากนี้สจ๊วต วีเวอร์ส ยังนำเสนอซิลูเอตกระเป๋าที่ใช้ในชีวิตประจำวันในเวอร์ชั่นหนัง ทั้งกระเป๋าโบว์ลิ่งและกระเป๋าตะกร้าใบใหญ่ พร้อมกิมมิคเล็กๆ ที่ไม่ละทิ้งกลิ่นอายความสนุกสนานของสไตล์แบรนด์ด้วยการส่งกระเป๋ารูปเป็ดมาอวดโฉมกันในซีซั่นนี้หลังจากที่เราเห็นเห็นรูปหัวใจและกระเป๋าลวดลายเสือปรากฎมาแล้วในคอลเลกชั่นอื่นๆ ก่อนหน้า
“ฤดูใบไม้ผลิเป็นสื่อสารวิธีที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านแฟชั่น New York Public Library จึงเป็นสถานที่ที่ลงตัวที่สุดในการจัดแสดงโชว์ในครั้งนี้” สจ๊วต วีเวอร์ส กล่าว “เมื่อผมมองย้อนกลับไปในสิบปีที่ผ่านมา ผมให้คอลเลกชั่นนี้มีเรื่องราวส่วนตัว และเป็นการบันทึกภาพเมืองนิวยอร์กในฐานะต้นแบบของแฟชั่นที่นิยามจินตนาการและความทรงจำของผมเกี่ยวกับเมืองนี้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน คอลเลกชั่นนี้ยังแยกความทรงจำเหล่านี้และแปลผ่านภาษาแฟชั่นที่ยั่งยืนของ Coach ซึ่งเป็นแบบและคุณภาพที่สำคัญซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนแสดงออกอย่างอิสระตามที่เป็นอยู่”
หลังจากโชว์จบ ทางแบรนด์ยังได้จัดดินเนอร์ในห้อง Edna Barnes Salomon Room ของห้องสมุดเพื่อเฉลิมฉลองการทำงานครบรอบ 10 ปีของสจ๊วต วีเวอร์สกับ Coach และวิสัยทัศน์ของเขาในการพลิกโฉมมรดกของแบรนด์ในตอนนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อของเขาที่ว่าแฟชั่นสามารถเป็นจุดศูนย์กลางที่ให้ทุกคนแสดงออกความเป็นตัวเองได้อย่างเป็นอิสระ