MOCA BANGKOK และ Four Seasons Hotel Bangkok ร่วมมือกับ Archives Design และ Bridge Art Agency เปิดตัว ‘Unveiling Leather: The Artistic Journey of Craftsmanship’ นิทรรศการกลุ่มโดย 12 ศิลปิน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อนำเสนอวิจิตรศิลป์อันน่าทึ่งของงานออกแบบและหัตถศิลป์จากเครื่องหนังในมุมมองใหม่ โดยรวบรวมเอาผลงานศิลปะและวัตถุที่ทำจากหนังมาจัดแสดง ทุกชิ้นล้วนประกอบสร้างอย่างประณีตบรรจง เผยให้เห็นถึงความเป็นไปได้ซึ่งไร้ขีดจำกัดของวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลาอย่าง ‘หนัง’
นิทรรศการครั้งนี้เป็นงานที่ศิลปินแต่ละคนนำเอกลักษณ์และเสน่ห์ของหนังมาเป็นตัวชูโรงในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม งานถักทอ หรือภาพวาด ‘หนัง’ ในฐานะวัสดุสร้างศิลป์ สื่อให้เห็นถึงรูปทรง (Form) การใช้งาน (Function) และอารมณ์ความรู้สึก (Emotion) ศิลปินทั้ง 12 ได้แก่ กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย, ลูกปลิว จันทร์พุดซา, ปราชญ์ นิยมค้า, รักกิจ ควรหาเวช, สมิตา รุ่งขวัญศิริโรจน์, สมยศ หาญอนันทสุข, เต็มใจ ชลศิริ, ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์, Trey Hurst, อุดม อุดมศรีอนันต์, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ และพฤษ์พล มุกดาสนิท (MAMAFAKA)
กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย ศิลปินปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างอิสระผ่านศิลปะนามธรรม หมึกและท่วงทีการใช้ฝีแปรงถูกถ่ายทอดในรูปแบบกึ่งนามธรรม สร้างสรรค์ผลงานประหนึ่งหยุดการเคลื่อนที่ของเวลา ลูกปลิว จันทร์พุดซา ด้วยเจตนาที่อยากจะมอบความรักให้กับผู้คน ผลงานของลูกปลิวจึงสามารถชื่นชมความงามได้ทั้งทางสายตาและยังสามารถสัมผัสได้จริงอีกด้วย ปราชญ์ นิยมค้า ในฐานะที่ทำงานศิลปหัตถกรรมด้านงานสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในนิทรรศการครั้งนี้ปราชญ์นำเอาองค์ความรู้และประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาสร้างสรรค์งานย้อมสีหนังแท้
รักกิจ สถาพรวจนา นำอัตลักษณ์การใช้ลายเส้นและรูปทรงเรขาคณิตในผลงานของตนมาเป็นแกนในการกำหนดรูปร่างและวิธีการตัดต่อหนัง สมิตา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ศิลปินนำเอาแผ่นหนังที่มีความแข็งมาถักทอกับวัสดุสิ่งทอ นำเสนอความแตกต่างระหว่างความแข็งแรงจากหนังและความประณีตของผ้าทอ สมยศ หาญอนันทสุข เขาท้าทายตัวเองด้วยการทำงานกับวัสดุที่ไม่เคยใช้มาก่อน กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานของเขาผสมผสานเทคนิคแอร์บรัช และเทคนิคการคอลลาจลงบนหนังสัตว์ เต็มใจ ชลศิริ ศิลปินเปรียบเทียบห้วงเวลาระหว่างเสี้ยววินาทีที่ความคิดกระทบจิตใจกับก้อนหินที่ตกกระทบลงบนผิวน้ำ โดยนำเสนอรูปร่างของคลื่นผิวน้ำผ่านวัสดุหนัง
ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์ ศิลปินใช้จินตนาการตามแบบฉบับของตนในการการผสมผสานวัสดุที่ไม่คุ้นเคย เช่น หนัง ให้เข้ากับวัสดุอื่นได้อย่างลงตัว Trey Hurst นำเสนอลวดลายฝีแปรงโดยการนำมาจัดเรียงให้เกิดลวดลายใหม่ ผ่านเทคนิคปั๊มจม (Debossing) ลงบนแผ่นหนัง กระตุ้นให้นึกถึงเงาที่เกิดจากรูปทรงเรขาคณิต
อุดม อุดมศรีอนันต์ ศิลปินนำวัสดุธรรมชาติอย่างหนังสัตว์มาสร้างสรรค์งาน โดยยึดเอาปรัชญาการออกแบบดั้งเดิมของตนเอง วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ทดลองนำวัสดุสองอย่างที่แตกต่างกันมาใช้ร่วมกัน เสมือนการจำลองความเป็นมนุษย์และสัจธรรมที่วันหนึ่งอาจเปลี่ยนไป
และอีกหนึ่งความพิเศษของนิทรรศการครั้งนี้คือการที่ครอบครัวของของศิลปินแนวสตรีทอาร์ตและกราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดังผู้ล่วงลับเจ้าของนามแฝง MAMAFAKA ผู้ออกแบบตัวคาแร็กเตอร์ Mr. Hell Yeah! อนุญาตให้นำผลงานที่ศิลปินเคยสร้างสรรค์ไว้มาตีความ ทดลองและสร้างสรรค์ด้วยวัสดุหนังออกมาในรูปแบบของ Wall Art และประติมากรรม นอกจากนี้เพื่อสร้างความประทับใจและยกระดับประสบการณ์ในการเข้าชมนิทรรศการ Archives Design ดึงเอา Copenn. เครื่องหอมแบรนด์ไทยมาร่วมมือออกแบบผลิตภัณฑ์และกลิ่นที่จะมาเป็นตัวสร้างความทรงจำและความรู้สึกบวกให้กับผู้ชมงานอีกด้วย
นิทรรศการ Unveiling Leather: The Artistic Journey of Craftsmanship จัดแสดงวันที่ 19 สิงหาคม – 5 พฤศจิกายน 2566 ณ Four Seasons ART Space โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
