Sunday, June 4, 2023

Chroma นิทรรศการที่ว่าด้วยเรื่องของสี โดยศิลปิน อำนาจ วชิระสูตร

สีกับอารมณ์นั้นมีความสัมพันธ์กัน ความรู้ทางด้านทฤษฎีสี ไม่ใช่จะพูดถึงแต่เรื่องของวงล้อสี หรือการผสมผสานสี แต่ยังรวมถึงการที่มนุษย์เราสามารถที่จะรับรู้และตีความหมายของสีต่างๆ คำที่เห็นได้บ่อย เช่น ความกลมกลืน เทรนด์ (trend) โทนร้อนหรือโทนเย็น ต่างก็ตีความได้ถึงประสาทสัมผัสที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมองเห็น

นิทรรศการ Chroma โดย อำนาจ วชิระสูตร ได้ทำการสำรวจธรรมชาติของสีที่มีคุณสมบัติอันหลากหลายผ่านกระบวนการการทำงาน สีที่ศิลปินเลือกใช้มีตั้งแต่สีขาวดำ สีแดงสด จนถึงสีพาสเทล การทำงานของศิลปินในการจัดการเลือกสีและผสมผสานสีต่างๆ เป็นกระบวนการการทำงานที่มีความต่อเนื่อง ในขณะที่ลงสีไปบนผืนผ้าใบ ศิลปินก็จะค่อยๆ ดู พิจารณา ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง โดยใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นตัวกำหนดสีและเทคนิคที่จะใช้ต่อไป เป็นอย่างนี้ตลอดระยะเวลาการทำงาน

อำนาจเคยอธิบายถึงการใช้สีและเทคนิคของเขาไว้ว่า “สีที่มีความอิ่มตัวสูง ก็คือสีที่มีความบริสุทธิ์ สีจะมีความเข้มและสด การที่เราผสมขาวหรือดำเข้าไปจะทำให้สีนั้นอ่อนลงหรือหนักขึ้น ในขณะที่สีหลายตัวจะมีคุณสมบัติโปร่งใส เราเลยต้องมีการลงสีนั้นหลายชั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ และบางครั้งการผสมผสานด้วยสีอื่นจะทำให้เกิดเฉดสีที่ซับซ้อน ที่จะค่อยๆ เผยบนชิ้นงานเมื่อโดนแสงตกกระทบ สีเข้มบางตัวช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี สร้างความลึกและเน้นขับแสงบนพื้นผิว งานชุดที่ผ่านมาผมใช้สี lampblack เป็นหลัก ส่วนงานชุดนี้มีการเลือกใช้สี ultramarine เพื่อเน้นความชัดและความเงาของพื้นผิว”

หลายครั้งที่ผลงานของอำนาจดูเสมือนเป็นงานแนวนามธรรม แต่จริงๆ แล้วงานของเขาคือการดึงภาพบางส่วนจากสิ่งที่อยู่รอบตัวและประสบการณ์ของศิลปินในช่วงเวลาที่เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมาใช้ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตอนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างทุ่งกว้างหรือสวนสาธารณะ หรือแม้แต่ประสบการณ์ตอนนั่งรถเข้าไปในอุโมงค์หรือตอนอ่านหนังสือที่ศิลปินรู้ว่ามันจะนำพาเขาไปสู่จุดหมายใหม่ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง ศิลปินเลือกที่จะนำความรู้สึกที่มีต่อสถานที่และประสบการณ์มารวมเข้ากับความรู้สึกที่มีต่อแต่ละเฉดสี การทำงานของศิลปินส่วนใหญ่เริ่มจากการเลือกสี และการวางภาพของผลงานไว้คร่าวๆ การทำงานที่ต้องอยู่คนเดียว ใช้สมาธิ ค่อยๆ ให้ความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นนำพาการทำงานไปในแต่ละขั้นตอน จนถึงจุดที่ศิลปินรู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์และลงตัวของแต่ละชิ้นงาน

การรับรู้และความเข้าใจของมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ง่ายนักที่เราจะสามารถทำให้ผู้อื่นเข้าใจในสิ่งที่เราคิดหรือรู้สึก ทั้งนี้เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่คนอื่นเห็นหรือรับรู้คืออะไรอย่างแท้จริง ในฐานะจิตรกร อำนาจคุ้นเคยและเข้าใจในธรรมชาติของสี เขารู้สึกถึงแต่ละเนื้อสีเสมือนกับที่เรารู้สึกถึงร่างกายของเราเอง ศิลปินเลือกที่จะใช้สีน้ำมันเพราะความชอบในคุณสมบัติของสีชนิดนี้และจุดเริ่มต้นของเม็ดสี ที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติ รวมทั้งความสำคัญของสีน้ำมันตลอดช่วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาสตร์ศิลปะ

สำหรับอำนาจ นิทรรศการ Chroma คือภาพแทนของชีวิต ผลงานทุกชิ้นเกิดขึ้นจากความคิด จิตใจ และจินตนาการของศิลปิน ผสมผสานไปกับภาพสะท้อนของความจริงและสิ่งรอบตัว ผลงานชุดนี้เป็นความพยายามของศิลปินที่จะทำการสำรวจและตีความการทำงานของตนเองใหม่เพื่อให้สามารถก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางความอิสระ ไม่ยึดติดกับข้อจำกัดหรือคำจำกัดความ ผู้ชมสามารถเลือกที่จะปฏิเสธภาพความจริงในรูปแบบและบริบทของเขา หรือเลือกที่จะยอมรับและให้ศิลปินนำเราเดินทางไปสู่การรับรู้ ความรู้สึกและความเข้าใจที่อยู่ลึกภายในจิตใจของศิลปิน

นิทรรศการ Chroma จัดแสดงระหว่างวันที่ 4-28 พฤษภาคม 2566 ที่ 333 Gallery, Warehouse 30

Other Articles